ผู้เขียน : แก่นฝัน
ตีพิมพ์ครั้งแรก โดย สนพ. บลูเบลล์
เผยแพร่ฉบับอีบุ๊ค โดย แก่นฝัน
เผยแพร่ฉบับอีบุ๊ค โดย แก่นฝัน
© สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามคัดลอกหรือดัดแปลงส่วนหนึ่งส่วนใดของนิยายเรื่องนี้
เพื่อนำออกเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต
กับดักที่ 8 : หนี!
ทางด้านนิรันตรา เธอเริ่มรู้สึกตัวตั้งแต่ตอนที่ได้ยินเสียงใครสักคนคุยโทรศัพท์อยู่นอกห้องแล้ว แต่เธอรู้สึกหนักๆ ในหัวจนไม่สามารถจับใจความได้ เธอลองขยับตัวถึงได้รู้ว่าตัวเองถูกมัดมือไพล่หลังอยู่ เพิ่งจะพยายามขยับขึ้นมานั่งได้สำเร็จเธอก็ได้ยินเสียงลูกบิดประตูจึงรีบทิ้งตัวกลับไปนอนอยู่ท่าเดิม พร้อมกับแกล้งหลับตา ในขณะที่หูก็พยายามจับใจความบทสนทนาของชายที่เดินเข้ามา
“...แค่เด็กสาวตัวเล็กๆ แต่จะว่าไป แม่หนูคนนี้ดูดีๆ ก็น่ารักถูกใจอั๊วเหมือนกันนา อยากจะเอามาเลี้ยงไว้เหมือนกัน” เสียงหัวเราะที่ชวนให้คนฟังรู้สึกขยะแขยงดังขึ้น
ใครเป็นแม่หนูของนายกันฮะ? แล้วใครจะยอมให้นายเลี้ยงกัน เชอะ ไอ้แก่แล้วไม่เจียม
“อย่ามาโกหกกลบเกลื่อนเลย หึๆ ไม่ใช่ตัวจริงอะไรกัน... ที่ผ่านๆ มาคนอย่างท่านรองไม่เห็นเคยควงสาวไหนออกงานหรือไปไหนมาไหนเกินหนึ่งครั้งสักที แล้วกับคนนี้ ทำไมถึงได้ไปทานข้าวเอาใจกันสารพัดตั้งหลายครั้งหลายหน สายของอั๊วที่เมืองไทยก็มีอยู่นะท่านรอง”
แล้วฉันเคยไปกินข้าวกับท่านรองที่ไหนวะนั่น สายของนายโกหกแล้วย่ะ!
“แน่ใจเหรอ อั๊วจะให้เวลาไปคิดดูให้ดีๆ ครึ่งชั่วโมง แล้วอั๊วจะติดต่อไปอีกที ไม่งั้นแม่หนูนี่คงจะได้ไปเที่ยวฮ่องกงแบบตีตั๋วเที่ยวเดียวไม่กลับมาอีกแล้ว ดีจริงๆ ไม่ได้แอ้มเด็กเอ๊าะๆ อย่างนี้มานานแล้ว”
เฮ้ย! ไม่ไปนะ ไอ้ฮ่องกงอ่ะ ฉันมีปัญญาไปเองได้
ไอ้แก่ตัณหากลับ ใครจะไปยอมให้แกแอ้มกัน ไอ้เฒ่าหัวงูเอ๊ย
นิรันตราได้แต่แกล้งหลับและตะโกนเถียงอยู่ในใจเท่านั้นเพราะยังไม่มั่นใจในสถานการณ์ที่เผชิญอยู่ แต่ไม่นานเธอก็รู้สึกว่าไอ้แก่นั่นเดินมาใกล้ และจับตัวเธอพลิกให้นอนหงาย
“ถึงจะตัวเล็กไปหน่อย แต่นายทรรศน์นี่ก็ตาถึงแฮะ” เสี่ยฮวงพึมพำกับตัวเอง
สักครู่หญิงสาวก็รู้สึกถึงลมหายใจร้อนที่เป่ารดหน้า สมองของเธอกำลังวิ่งเร็วจี๋ตัดสินใจว่าจะแกล้งตื่นดีหรือว่าจะหลับต่อไปดี แต่แล้วก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาเป็นระฆังช่วยชีวิต
“เสี่ยครับ สายรายงานว่านายทรรศน์เริ่มเคลื่อนไหวแล้วครับ” เสียงลูกน้องคนหนึ่งเข้ามารายงานเป็นภาษาจีน
“มันว่าไงบ้าง” เสี่ยฮวงละความสนใจจากร่างเล็กและเดินกลับไปทางประตู เมื่อได้ยินเสียงปิดประตูและเสียงฝีเท้าเดินห่างออกไป หญิงสาวก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอีกครั้งและถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
นิรันตรามองสำรวจรอบห้องก็แน่ใจว่าไม่มีคนอยู่ จึงเริ่มขยับตัวลุกขึ้นนั่งเพื่อมองหาช่องทางหนีเอาตัวรอด แต่ในห้องนี้ไม่มีหน้าต่างสักบาน ทางเข้าออกทางเดียวคือประตูที่เพิ่งถูกเปิดออกไปเท่านั้น
หญิงสาวนึกรำคาญมือที่ถูกมัดไพล่หลังอยู่ จึงงอตัวสอดขาลอดวงแขนไปข้างหลัง เพื่อให้แขนที่ถูกมัดกลับมาอยู่ข้างหน้าแทน นึกถึงมีดสั้นสองเล่มที่ซ่อนอยู่ในส้นรองเท้าก็กระทืบเท้าลงกับพื้นสองที ด้ามโลหะของมีดก็โผล่ออกมา นิรันตราจัดการใช้มีดอันเล็กแต่คมกริบตัดเชือกที่รัดข้อมือ เมื่อมือทั้งสองข้างเป็นอิสระเธอจึงค่อยย่องไปที่ประตูแนบหูฟังความเคลื่อนไหวภายนอก แล้วก็ได้ยินเสียงชายกลางคนสั่งการให้ลูกน้องเตรียมพร้อมตามจุดต่างๆ หญิงสาวได้ฟังแผนที่พวกนั้นวางไว้ก็นึกเป็นห่วงทรรศน์ขึ้นมา
ขออย่าให้เขาหลงกลเข้ามาเลย...
แต่เมื่อลูกน้องของเสี่ยฮวงรายงานว่าทรรศน์ออกเดินทางมาใกล้ถึงที่นี่แล้ว หญิงสาวก็นึกโมโหขัดใจ เขาไม่รู้ตัวหรือไงว่านี่เป็นแผนล่อตัวเองมาตายน่ะ แต่อีกส่วนหนึ่งในใจลึกๆ กลับรู้สึกอุ่นใจเล็กๆ ไม่ได้ ที่รู้ว่าชายหนุ่มนั้นให้ความสำคัญนึกเป็นห่วงเธอเหมือนกัน
นิรันตราตัดสินใจแล้วว่าต้องหนีไปให้ได้ด้วยตัวเองก่อนที่ทรรศน์จะมาติดกับ และเมื่อเสียงเอะอะจากการรวมตัวเงียบลง หญิงสาวเดินไปทิ้งตัวลงนอนที่เดิม และเอามือที่ถือมีดอยู่ไพล่หลังไว้
“กรี๊ดดดดดดด” หญิงสาวกรีดร้องสุดเสียง ไม่นานประตูก็ถูกกระชากเปิดอย่างรุนแรงเข้ามา
“เป็นอะไรไปวะ” เสียงลูกน้องคนหนึ่งบ่นกับเพื่อนเป็นภาษาจีน นิรันตรายังคงหลับตาแน่นแกล้งละเมอบ่นเป็นภาษาไทยไปมั่วๆ ก่อนจะแอบหรี่ตาขึ้นมองเห็นชายจีนรูปร่างสันทัดสองคนที่เข้ามามองหน้ากันงงๆ อย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี เมื่อทั้งสองเดินเข้ามาใกล้และเขย่าตัวเธอ นิรันตราก็ร้องขึ้นมาอีกครั้ง และคราวนี้เป็นตัวเสี่ยฮวงที่เดินเข้ามาสมทบ เธอลืมตามองหน้าชายสองคนแรกอย่างหวาดกลัวพลางขยับตัวลุกขึ้นนั่งติดฝาซ่อนอาวุธในมือ
“พวกลื้อจะทำอะไรวะ เหยื่อคนนี้ห้ามแตะนะโว้ย” เสี่ยฮวงกราดด่าลูกน้องทันทีที่เข้ามา ภาพที่เห็นมันเหมือนกับว่าลูกน้องของเขากำลังจะทำอะไรเหยื่อตัวเล็กคนนี้
“ลูกน้องคุณจะมารังแกฉัน คุณต้องช่วยฉันนะ” นิรันตรารีบฟ้องเสียงสั่นและส่งสายตาอ้อนไปให้ตัวหัวหน้า เป็นโชคร้ายของลูกน้องสองคนที่ฟังภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่อง ทำให้ไม่รู้ตัวว่าถูกป้ายสีให้เรียบร้อยจึงไม่มีโอกาสได้แย้งอะไรออกมา
“อั๊วจะคาดโทษพวกลื้อไว้ก่อน ออกไปได้แล้ว ถ้าอั๊วไม่เรียกก็ไม่ต้องเข้ามา” เสี่ยฮวงเห็นสายตาอ้อนๆ ก็นึกได้ใจ
จะว่าไป... แม่หนูนี่ พอตื่นแล้วก็ยิ่งดูสวยขึ้น คงจะเป็นเพราะตากลมโตที่ตอนนี้มองมาทางพวกเขาอย่างหวาดๆ คู่นั้น ...หาเล่นอะไรกับแม่หนูนี่ฆ่าเวลาก็คงดี
“คุณต้องการอะไร จับฉันมาทำไม บ้านฉันไม่มีเงินมากขนาดให้คุณเรียกค่าไถ่หรอกนะ” นิรันตราเริ่มถามด้วยน้ำเสียงสั่น เพื่อไม่ให้เหยื่อได้ทันระวังตัว
“อั๊วไม่ได้จับเธอมาเรียกค่าไถ่จากบ้านเธอหรอกแม่หนูน้อย แต่เป็นจากนายทรรศน์ต่างหาก” เสี่ยฮวงตอบพร้อมเดินเข้ามาใกล้ด้วยสายตาโลมเลียที่ผู้หญิงที่ไหนเห็นแล้วก็ต้องรังเกียจ
“แล้วคุณทรรศน์มาเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ” หญิงสาวถ่วงเวลาจ้องหาจังหวะเหมาะๆ
และเมื่อเสี่ยฮวงทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ เธอ ร่างเล็กก็รีบกระโจนเข้าเหวี่ยงทุ่มตัวคนที่ไม่ทันระวังให้แผ่หลาไปกับพื้นด้วยความว่องไว เธอกระโดดใช้เข่าทั้งสองข้างกระแทกเข้าที่หน้าอกและท้องของเสี่ยฮวงด้วยแรงเต็มน้ำหนักตัว แล้วกดทับไว้อย่างนั้น พร้อมใช้มีดสั้นจ่อเข้าที่ลำคอ
ฝ่ายเสี่ยฮวงที่โดนเข่ากระแทกเข้าเต็มๆ จนจุกไปพักใหญ่ จะตะโกนเรียกลูกน้องที่อยู่ข้างนอกก็ถูกนิรันตราใช้สองนิ้วกดบี้เข้าที่กล่องเสียงจนสำลักหน้าดำหน้าแดง
“อย่าคิดส่งเสียงหรือต่อสู้ขัดขืนดีกว่านะเสี่ย มีดในมือฉันมันไม่ค่อยนิ่งซะด้วย” นิรันตราขู่เสียงเย็น พร้อมเพิ่มน้ำหนักที่กดมีดลงไปอีก จนเลือดเริ่มซึมออกมาจากลำคอหนาๆ ของเสี่ยฮวง เขาจึงได้แต่นอนนิ่งไม่กล้าเสี่ยงทำอะไร และนึกเจ็บใจตัวเองที่ไม่ระวังตัว ไม่คิดว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ จะมีพิษสงขนาดนี้ เมื่อกี้ยังส่งสายตาน่าเวทนาอยู่เลย
นิรันตราควานหาอาวุธจากตัวคนที่นอนแผ่อยู่ ก็ได้ปืนกระบอกหนึ่งมาจัดการขึ้นไกเล็งไปที่หัวของเสี่ยฮวง ก่อนจะค่อยๆ ขยับตัวลุกยืน
“เอาล่ะ ค่อยๆ ลุกขึ้นมา ช้าๆ นะเสี่ย” หญิงสาวมองร่างใหญ่หนาที่กำลังขยับลุกอย่างระมัดระวัง
”ทีนี้ก็หันหลังไป แล้วเดินไปที่ประตู... ไปบอกไอ้พวกที่อยู่หน้าห้องว่าให้ออกไปสมทบกับจุดอื่นให้หมด” หญิงสาวเดินตาม โดยทิ้งระยะห่างไว้ไม่ให้เป้าหมายหันมาทำอะไรเธอได้ เมื่อเสี่ยฮวงกำลังจะเปิดประตูออก เธอก็เตือนเป็นภาษาจีนเสียงเข้ม
“ฉันขอบอกเสี่ยไว้อย่างว่าฉันฟังภาษาจีนออกนะเสี่ย เพราะฉะนั้นอย่าคิดตุกติกเด็ดขาด ไม่งั้นปืนเสี่ยมันลั่นโป้งป้างมาไม่รู้ด้วย”
พอเสี่ยฮวงเปิดประตูออกไปก็มองหาลูกน้อง แล้วตะโกนบอกให้ไปสมทบกับพวกที่เฝ้าอยู่ที่หน้าป้อมยาม เหล่าลูกน้องต่างพากันมองหน้ากันงงๆ เล็กน้อยแต่พอเห็นสายตาของเสี่ยก็ยอมเดินออกไปโดยดี
“ไปกันหมดแล้วนะ” นิรันตราถามขึ้น
“หมดแล้ว” เสี่ยฮวงตอบด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูผิดปกติเล็กน้อย
“งั้นก็หันมา เดินชิดฝา แล้วอ้อมไปมุมโน้น” หญิงสาวใช้มือข้างที่ไม่ได้ถือปืนชี้ไปที่มุมด้านในสุดของห้อง เสี่ยฮวงทำตามอย่างช้าๆ จนเมื่อเขาเดินไปถึงมุมห้อง นิรันตราก็เดินไปที่ประตูและเปิดออกไปสำรวจว่าปลอดคนจริง แต่แค่ไม่ถึงอึดใจเธอก็ต้องรีบหันขวับมาในห้อง เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งตรงเข้ามา หญิงสาวรีบยิงปืนไปที่ต้นขาทั้งสองข้างของเสี่ยฮวงทันที ทำให้คนที่กำลังวิ่งกระโจนมาทางเธอเสียหลักล้มลง
เสียงปืนที่เธอยิงออกไปนั้น ทำให้นิรันตราต้องตัดสินใจเปิดประตูออกกว้างและรีบวิ่งหนีออกจากห้องทันที พอมาถึงโถงโกดังใหญ่เธอก็ลังเลว่าจะไปทางไหนดี ถ้าหนีไปมั่วๆ ก็กลัวจะยิ่งไปกันใหญ่ แต่เสียงฝีเท้าของคนกลุ่มหนึ่งที่วิ่งเข้ามาก็เป็นตัวเร่งให้เธอต้องรีบตัดสินใจ
“เสี่ย! เป็นอะไรมากไหมครับ” ลูกน้องคนสนิทเข้าไปประคองเสี่ยฮวงที่นอนล้มอยู่กับพื้น การที่พวกเขากลับเข้ามาได้อย่างรวดเร็วเพราะยังรอเฝ้าอยู่ข้างนอก ด้วยความระแวงสงสัยว่าจุดที่เสี่ยให้ไปสมทบนั้นไม่ได้มีอยู่ในแผนที่วางไว้ แล้วยังรอยเลือดตรงคอเสี่ยอีก
“มัน... มันกล้ายิงกู จับตัวมันมาให้ได้ คอยดู... กูจะส่งไปท่องนรกพร้อมๆ กันกับไอ้ทรรศน์เลย” เสี่ยฮวงโกรธแค้นสุดๆ ทั้งเจ็บตัวและเจ็บใจ ไม่นึกว่าหน้าอ่อนๆ อย่างนั้นจะกล้ายิงปืนใส่เขาจริงๆ
“ค้นทั่วห้องนี้ไม่เจอเลยครับ สงสัยว่าจะหนีไปทางด้านหลัง ผมเห็นหน้าต่างเปิดไว้อยู่” ลูกน้องอีกคนรายงาน
“ตามไปจับมันมาให้ได้” เสี่ยฮวงสั่งลูกน้อง
“ผมว่าเสี่ยไปทำแผลก่อนดีไหมครับ” ลูกน้องคนสนิทมองเห็นเลือดที่ไหลไม่หยุดทักขึ้น
“เออ พวกมึงก็จัดการให้ดีแล้วกัน วางแผนขนาดนี้ถ้าพวกมันยังรอดไปได้ กูจะจัดการพวกมึงทั้งหมดแทน”
ลูกน้องสองคนก็เข้ามาประคองเสี่ยไว้ ส่วนคนที่เหลือก็ออกไปทางด้านหลังตามล่าตัวนิรันตราตามคำสั่ง
เมื่อรถของพวกทรรศน์มาถึงจุดนัดพบที่อยู่บริเวณรอบนอกของท่าเรือ เสียงปืนสองนัดที่ดังสนั่นขึ้นจากทางโกดังเก็บของเก่า ทำให้ผู้มาใหม่ต่างยิ่งร้อนรนขึ้นไปอีก และทรรศน์ต้องแทบจะคลั่งเมื่อถามถึงสัญญาณบอกตำแหน่งของคนตัวเล็กแล้วพบว่ามันหยุดนิ่งอยู่กับที่ไปแล้ว ทั้งที่ก่อนหน้านี้สัญญาณยังขยับเคลื่อนไหวเหมือนว่าเธอกำลังหาทางหนีออกมาได้อยู่เลย ความกังวลใจถาโถมเข้าใส่ชายหนุ่มเรื่อยๆ ยิ่งคิดก็ยิ่งมีแต่เรื่องร้ายๆ ทั้งนั้น …หรือว่าจะเป็นเธอที่ถูกยิง สัญญาณถึงได้หยุดนิ่งไปอย่างนี้
ส่วนเพลินพิศเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน เธอนึกแค้นแทนเพื่อนที่ถูกจับตัวไปเป็นที่สุด ...คอยดูนะ ถ้าเพื่อนฉันเป็นอะไรแม้แต่นิดเดียว แม่จะอาละวาดให้ไม่เหลือซากเลย
เมื่อได้รับรายงานว่าคาโมได้จัดการส่งคนเข้าไปซ่อนตัวตามจุดต่างๆ เรียบร้อยแล้ว ทรรศน์ ชนะเทพ เรียว และเพลินพิศ พร้อมด้วยคนของคาโมอีกสี่คนจึงรับหน้าที่เดินเข้าไปทางด้านหน้าตรงๆ เพื่อเจรจาถ่วงเวลาและหันเหความสนใจ เพื่อให้ทีมอื่นๆ ลอบบุกเข้าไปช่วยนิรันตราออกมาจากจุดที่สัญญาณบอกไว้ได้สะดวกยิ่งขึ้น
ทรรศน์และชนะเทพเดินแยกเข้าไปในส่วนโกดังเก่า ส่วนเพลินพิศและเรียวนั้นรอคุมเชิงรอบนอกอยู่กับทีมบอดี้การ์ดที่เหลือ
“เจ้านายของพวกแกอยู่ที่ไหน มีเรื่องจะคุยกับฉันไม่ใช่เหรอ” ทรรศน์ถามขึ้นเมื่อไม่เห็นวี่แววของเสี่ยฮวง มีเพียงลูกน้องคนสนิทของเสี่ยรอรับอยู่เท่านั้น
“เสี่ยคุยธุระอยู่ อีกสักพักจะออกมา”
“เสียเวลาจริงๆ” ทรรศน์พูดพลางขยับเดินเข้าไปอีกและกวาดสายตาไปรอบๆ เพื่อสำรวจจำนวนคนของฝ่ายนั้น
“ก่อนอื่นเราต้องขอตรวจอาวุธของพวกคุณก่อน” คนของเสี่ยฮวงเดินเข้ามาจะค้นตัวทรรศน์ แต่เลขาหนุ่มรีบก้าวเข้ามาขวางไว้
“อย่าเสียมารยาท! คุณทรรศน์เป็นคนระดับที่พวกนายจะเข้าใกล้ได้อย่างนั้นหรือ”
“หรือเจ้านายของพวกนายจะไม่กล้าออกมาพบหน้า ถ้าพวกฉันไม่ปลอดอาวุธ” ทรรศน์พูดหัวเราะในลำคอเยาะ
“ไม่เจอกันนาน ยังปากดีเหมือนเดิมเลยนะ ท่านรอง” เสี่ยฮวงพูดขณะที่กัดฟันเดินเข้ามานั่งที่เก้าอี้ เขาต้องให้แพทย์ประจำตัวฉีดมอร์ฟีนแก้ปวดให้ถึงสองเข็ม เพื่อที่จะได้ไม่ต้องแสดงอาการบาดเจ็บให้ฝ่ายตรงข้ามได้รับรู้
“ปากก็บอกไม่ใช่คนสำคัญ แต่ตัวนี่... กลับมาเร็วทันใจ ก่อนที่อั๊วจะติดต่อไปใหม่ซะอีก”
“ผมแค่มาเพื่อรักษาศักดิ์ศรีและชื่อเสียงของซันไรส์ก็เท่านั้น” ทรรศน์ยังโต้กลับได้เยือกเย็น
“จะเพราะอะไรก็ช่าง แต่ลื้อก็มาแล้ว เรามาคุยเรื่องของเรากันเลยดีกว่า ไหนล่ะ... ใบสัญญาโอนสัมปทาน” เสี่ยฮวงทวงสิ่งที่ต้องการทันที
“จะไม่มีการคุยอะไรกันทั้งนั้น จนกว่าผมจะได้เห็นคนของผมที่เสี่ยจับตัวมาก่อน” ชายหนุ่มยื่นเงื่อนไขกลับไปบ้าง ตอนนี้เขาอยากรู้เหลือเกินว่าคนตัวเล็กที่ถูกจับมาจะเป็นอย่างไร เธอได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า
“สบายใจได้น่า แม่หนูคนนั้นยังอยู่ดีครบสามสิบสอง อั๊วเองก็ไม่ชอบทำอะไรรุนแรงกับสาวๆ สวยๆ อยู่แล้ว” ...แต่ถ้ามันมาทำร้ายกู มันก็อีกเรื่อง
“ผมจะแน่ใจได้ยังไงว่าเสี่ยไม่ได้โกหก ยังไงซะ ผมก็ต้องเจอคนของผมก่อน จะได้ตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องที่เราจะคุยกันได้” ทรรศน์ยังยืนกรานหนักแน่น
“โอเค เดี๋ยวอั๊วจะให้คนพาลื้อไปหาแม่หนูคนนั้นก่อนก็ได้ พอดีว่ายาสลบที่ให้ไปยังไม่หมดฤทธิ์จะพาตัวมาก็ลำบาก ไปดูเอาเองให้เห็นกับตาว่าอั๊วดูแลได้ดีแค่ไหน เฮ้ย! พวกลื้อสองคน พาท่านรองไปหาผู้หญิงคนนั้นที่ท่าเรือหน่อยซิ เอาให้เห็นกับตาว่าเป็นไงบ้าง” เสี่ยฮวงหันไปสั่งกับลูกน้อง
ทรรศน์และชนะเทพรู้ว่ามันไม่จริงแน่ๆ ที่เสี่ยจอมเจ้าเล่ห์บอกว่านิรันตรายังไม่รู้สึกตัว แต่พวกเขาจำต้องเดินตามลูกน้องของเสี่ยฮวงไปอย่างระมัดระวัง และระแวงเต็มที่ว่าเสี่ยเฒ่าจะมีอะไรตุกติก ส่วนทางเรียวและเพลินพิศนั้นยังรอคุมเชิงดูท่าทีของเสี่ยฮวงอยู่ที่เดิม
ทางตัวประกันสาว หลังจากที่ตัดสินใจได้เธอก็เข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ในลังไม้ใกล้ๆ กับหน้าต่างที่เธอเปิดทิ้งไว้ เพื่อหลอกล่อให้ฝ่ายนั้นหลงผิดคิดว่าเธอหนีออกไปข้างนอก จนเมื่อเสียงในห้องเงียบลงและมั่นใจว่าปลอดคนแล้ว หญิงสาวก็แง้มฝาลังออกมาช้าๆ มองดูรอบตัวอีกทีให้แน่ใจแล้วค่อยก้าวออกมา เธอเดินแนบหลังติดกับข้างฝาอย่างระแวดระวังเต็มที่ย้อนกลับไปทางเดิมที่พวกลูกน้องของเสี่ยวิ่งเข้ามา
นิรันตราลอบแฝงตัวออกมาได้จนเกือบถึงหน้าโกดัง พอเห็นทรรศน์และผู้ช่วยของเขาเดินตามลูกน้องสองคนของเสี่ยฮวงไปทางท่าเรืออยู่ไกลๆ ก็นึกถึงแผนกำจัดเขาทิ้งของเสี่ยฮวงขึ้นมาได้ เธอซุ่มมองนิ่งอย่างร้อนใจ พยายามคิดหาทางที่จะหยุดชายหนุ่มเอาไว้ให้ได้ และด้วยความไม่ทันได้ระวังตัวนี้เอง เธอจึงต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อสัมผัสได้ถึงความเย็นของโลหะที่จ่อเข้าด้านหลังคอ
“หนีมาอยู่นี่เอง ให้พวกกูวิ่งหาซะเหนื่อย นึกว่าจะเก่งสักแค่ไหน เอาล่ะ... ยกมือขึ้น ทั้งสองข้างเลย เร็ว!!” ลูกน้องของเสี่ยฮวงสั่งเสียงเหี้ยมเกรียมเป็นภาษาจีน
หญิงสาวยกมือทั้งสองข้างขึ้นช้าๆ เป็นเชิงว่ายอมแพ้ แล้วหันมาเผชิญหน้ากับชายร่างล่ำสันที่มีความสูงกว่าเธอไม่มากนัก
“ทีนี้ก็ทิ้งอาวุธลงซะ” ชายคนนั้นยังคงเล็งปืนมาทางเธอ หญิงสาวค่อยๆ ย่อตัวลดมือลงเพื่อจะทำตามคำสั่ง ตาก็จ้องไปที่หน้าของชายคนนั้นเขม็ง เมื่อเห็นว่าเขาสนใจแค่ปืนในมือเธอเท่านั้น เธอจึงแอบใช้มืออีกข้างหยิบมีดสั้นจากส้นรองเท้ามาซ่อนไว้ และอีกข้างก็วางปืนลงบนพื้นช้าๆ
“เรียบร้อยแล้วก็ลุกมานี่! แค่ผู้หญิงคนเดียว ทำวุ่นวายเสียเวลาไปหมด” เขาพูดไปก็ใช้ปืนกวักเรียก
นิรันตราอาศัยจังหวะพริบตาที่ปลายกระบอกปืนหักเบนออกจากตัวเธอ ขว้างมีดปักเข้าที่มือข้างที่เขาถือปืนอยู่และกระโจนม้วนตัวหลบไปทางด้านข้าง พร้อมกันกับที่อีกฝ่ายลั่นไกปืนด้วยความตกใจ กระสุนที่ถูกยิงออกมาเฉี่ยวต้นแขนของเธอไปและทำให้เลือดไหลซึมออกมาไม่น้อย แต่หญิงสาวไม่มีเวลามามัวสนใจกับแผลที่เกิดขึ้น เธอรีบวิ่งหนีไปทางตรงข้ามกับเสียงฝีเท้ากลุ่มใหญ่ที่พากันกรูกันเข้ามาเพราะเสียงปืน
ทางจุดอื่นๆ ที่ทั้งสองฝ่ายต่างคุมเชิงกันอยู่ เมื่อได้ยินเสียงปืนดังขึ้นก็เป็นเหมือนสัญญาณเปิดฉากให้เข้าโจมตีกันทันที ความชุลมุลวุ่นวายเกิดขึ้นไปทั่วทั้งท่าเรือ
เรียวสั่งให้ลูกน้องที่คุมเชิงอยู่รอบนอกบุกเข้าไปจับตัวเสี่ยฮวงในโกดังทันที เพลินพิศเองก็กระชับปืนในมือแน่นตั้งท่าจะบุกเข้าไปด้วย แต่กลับถูกบอดี้การ์ดหนุ่มรั้งตัวไว้
“คุณรออยู่ข้างนอกดีกว่า ข้างในมันอันตรายมาก ไม่รู้ใครเป็นใคร คุณอาจพลาดถูกลูกหลงได้” เรียวดึงแขนหญิงสาวให้กลับมานั่งอยู่ที่เดิม
“บอกแล้วว่าฉันดูแลตัวเองได้” หญิงสาวที่กำลังร้อนใจไม่ยอมรับความหวังดี
“แต่เจ้านายฝากคุณไว้ที่ผม ถ้าคุณเป็นอะไรขึ้นมา ผมจะแก้ตัวกับเจ้านายผมได้ยังไง” เรียวเริ่มยกทรรศน์ขึ้นมาอ้าง
“เจ้านายคุณ แต่ไม่ใช่เจ้านายฉันนี่ อย่ามัวเสียเวลาอยู่เลยน่า ไปเร็ว ไปกันเถอะ” พูดจบเพลินพิศก็วิ่งเข้าไปสมทบกับทีมของคาโมทันที ทำให้คนที่ห้ามไว้ไม่สำเร็จต้องรีบตามไปประกบอย่างเป็นห่วง
แต่ไม่นานบอดี้การ์ดหนุ่มก็ได้รู้ซึ้งถึงฝีมือของดาราสาวคนนี้ เธอสามารถทำงานร่วมกับทีมของเขาได้อย่างกลมกลืน ด้วยการเคลื่อนที่เข้าไปอุดรอยรั่วของทีมได้พอดีโดยไม่ต้องมีใครสั่งการ และเมื่อเขาได้เห็นเธอยิงปืนทะลุหน้าอกคนของเสี่ยฮวง เรื่องที่เคยเป็นห่วงว่าเธออาจจะไม่กล้ายิงคนจริงๆ ก็หมดไปเลย สายตาของเธอไม่มีคำว่าลังเลใจสักนิดเวลาจะลั่นไกแต่ละที
เพื่อนคุณนิราแต่ละคนนี่ ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
ทางด้านตัวประกันสาวที่ตอนนี้กำลังถูกลูกน้องเสี่ยฮวงสามคนรุมไล่จับตัวอยู่ ในตัวเธอไม่เหลืออาวุธอะไรสักอย่าง เมื่อทั้งสามวิ่งใกล้เข้ามาเกือบถึงตัวเธอ หญิงสาวก็คว้าเอาท่อนเหล็กยาวประมาณเกือบเมตรจากข้างทางและหันมาตั้งหลักเตรียมจะสู้ ร่างเล็กที่ดูเสียเปรียบผู้ชายตัวโตที่ล้อมเธออยู่กระชับเจ้าท่อนเหล็กไว้มั่น และพยายามนึกทบทวนวิชาเคนโด้ที่เคยเรียนมา... ถึงหนักไปหน่อยแต่ก็พอแทนกันได้น่า
เธอฟาดท่อนเหล็กเข้าที่ข้อมือชายที่ถือมีดอยู่ และตีแสกหน้าซ้ำอีกครั้งจนสลบไป ชายอีกคนรีบกระโจนเข้ามาทางด้านหลังหวังจะแย่งท่อนเหล็กไปจากมือเธอ นิรันตราที่รู้ตัวก็ใช้ท่อนเหล็กช่วยค้ำยันกับพื้นเป็นหลักรับน้ำหนักตัวและยกขาถีบไปด้านหลังเข้าเต็มๆ ท้อง จนชายคนนั้นผงะเซถอยหลังไป เธอตวัดท่อนเหล็กฟาดเข้าที่กกหูเขาอีกทีจังๆ... เสร็จไปสอง แต่พอหันมาทางชายคนสุดท้ายก็ต้องเจอเข้ากับปลายกระบอกปืนที่เล็งมาทางเธออยู่
“นังนี่ คิดว่าเก่งนักใช่ไหม เดี๋ยวแกก็ต้องจอดตรงนี้นี่แหละ จัดการแกแล้วกูก็จะได้ไปเอารางวัลงามๆ กับเสี่ย” เขาพูดพร้อมขึ้นไกปืน นิรันตราหมดหนทางโต้ตอบเพราะระยะทางมันห่างกันเกินไป แล้วยังไงซะเธอก็ไม่มีทางเร็วกว่าลูกปืนได้แน่ เธอได้แต่หยุดยืนนิ่งพยายามรวบรวมสติและกำลังใจให้มากที่สุด
ไหนๆ ก็จะต้องตาย ขอเสี่ยงดวงกับมันอีกสักทีเถอะ!!
เมื่อคิดได้นิรันตราก็กำท่อนเหล็กที่เป็นความหวังสุดท้ายในมือแน่น แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้ทำอะไรตามใจคิด เสียงปืนก็ดังลั่นขึ้นก่อน เฮ้ย!! ไม่ทันเหรอวะ ยังไงก็ตามนิรันตราก็ขอรวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายขว้างท่อนเหล็กออกไปหวังจะให้ฟาดโดนตัวชายคนนั้นหวังเปิดจังหวะให้เธอมีโอกาสกระโจนหนี แต่มันต้องพลาดเป้าไปเมื่อชายคนนั้นล้มตึงลงมาก่อน
ทางทรรศน์ที่จัดการคนนำทางสองคนลงได้ก็มีลูกน้องที่อยู่บริเวณนั้นตามมาสมทบและให้การอารักขา เขาวิ่งนำลูกน้องไปทางจุดที่เคยมีสัญญาณจากหญิงสาว แต่ยังไปไม่ถึงตรงนั้นก็ได้พบกับนิรันตราที่กำลังถูกลูกน้องเสี่ยฮวงต้อนให้จนมุมอยู่ไม่ไกลกับท่าเรือนัก
ความรู้สึกแรกเมื่อได้เห็นเธอ ไม่รู้ว่าความดีใจและความโล่งใจมาจากไหนจนเต็มอก แต่มันก็เป็นได้ไม่นาน ความโกรธแค้นอยากจะฆ่าไอ้เสี่ยฮวงก็เข้ามาแทนที่ เมื่อเขาเข้าไปใกล้พอที่จะเห็นเลือดสีแดงเข้มไหลออกมาจากต้นแขนของเธอ
ทรรศน์รีบวิ่งเข้าไปหาพร้อมลั่นไกปืนด้วยความรวดเร็ว กระสุนวิ่งตรงจากปลายกระบอกปืนของเขาไปเจาะเข้าที่ขมับของลูกน้องเสี่ยฮวงอย่างแม่นยำ ร่างของชายชาวจีนที่หันอาวุธไปทางหญิงสาวจึงล้มลงสิ้นใจทันที แล้วเขาก็วิ่งปราดไปหาร่างเล็กที่ตอนนี้ยังดูเหมือนงงๆ อยู่
“นิรา นิรา คุณเป็นไงบ้าง” ทรรศน์จับแขนข้างที่ไม่ได้รับบาดเจ็บของเธอเขย่าเรียก
“คุณทรรศน์... ทำไมมาอยู่ที่นี่ มันเป็นแผนของไอ้เสี่ยฮวงที่จะกำจัดคุณนะคะ” นิรันตราลำดับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อครู่และเรียกสติให้กลับมาสู่สภาพปกติอย่างรวดเร็ว
“เอาน่า อย่าเพิ่งพูดเรื่องนี้เลย พวกมันมากันอีกแล้ว” แล้วทรรศน์ก็รีบคว้ามือร่างเล็กตรงหน้าให้วิ่งตามไปทางท่าเรือ โดยมีคนของเขายิงคุ้มกันอยู่ด้านหลัง อีกมือก็คอยส่งกระสุนกำจัดคนของเสี่ยฮวงเพื่อเปิดทาง
สักพักคนวิ่งนำก็รู้สึกได้ถึงแรงกระชากดึงเขาไว้อย่างแรงจากคนตัวเล็ก ก่อนที่กระสุนปืนนัดหนึ่งจะพุ่งทะลุลงพื้นเบื้องหน้าเขาไปอย่างฉิวเฉียด
“หึ ขอบใจมาก กลับไปได้จะให้รางวัลไม่อั้นเลย” เขาพูดพร้อมพาออกวิ่งต่อ
“คุณมีปืนให้ฉันช่วยยิงสักกระบอกไหมล่ะ เผื่อจะได้รางวัลเพิ่ม” หญิงสาวถาม คนวิ่งนำหันกลับมาเหลือบมองหน้าคนที่วิ่งตามเขาอยู่เพียงครู่เดียว เพราะต้องคอยระวังตัวอยู่ตลอด
“ถ้ายิงแล้วไม่ทำผมเปลืองกระสุนก็เอาไปสิ ตรงหลังเอวผมมีอีกกระบอก” ทรรศน์อนุญาต ชะลอฝีเท้าลงเล็กน้อย หญิงสาวคว้าเอาปืนมาได้ก็ทำการตรวจเช็กกระสุนอย่างเคยชินที่ต้องทำทุกครั้งเวลาได้จับปืนที่ไม่ได้ประกอบเอง เมื่อพบว่ามีกระสุนใส่ไว้อยู่เต็มแม็กกาซีนเธอก็ใส่มันกลับและปลดเซฟปืนให้พร้อมใช้งาน ทรรศน์ที่ชำเลืองมองมาเป็นระยะเห็นแล้วก็พอไว้ใจได้ เธอคงไม่ต่างจากเพื่อนเธอเท่าไหร่หรอก
“ฉันไม่ทำคุณเสียกระสุนเปล่าๆ แน่ มาแข่งกันก็ยังได้” หญิงสาวท้าด้วยความมั่นใจ และยิงนัดแรกออกไปทันทีที่เห็นลูกน้องเสี่ยฮวงวิ่งเข้ามาทางขวามือ
แล้วความวุ่นวายก็ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง จนนิรันตราไม่ทันได้สังเกตว่าทรรศน์พาเธอวิ่งมาบนท่าเรือที่เมื่อก่อนเคยใช้สำหรับจอดเรือเล็ก
“คุณทรรศน์!!” นิรันตราเรียกอย่างตกใจเมื่อรู้ตัวว่ากำลังวิ่งอยู่บนท่าที่ยื่นออกมาในทะเล “คุณหนีมาทางนี้ทำไมคะ”
“ผมนัดให้คนเอาเรือมารับที่นี่ นั่นไง” ทรรศน์หันไปมองเรือเร็วที่กำลังแล่นตรงเข้ามาอยู่ไกลๆ
“แต่เราต้องออกจากท่าเรือนี่! เดี๋ยวนี้!!” หญิงสาวบอกด้วยความร้อนรน “เสี่ยฮวงมันวางแผนจะระเบิดที่นี่ทิ้ง เมื่อล่อคุณเข้ามะ...”
ยังไม่ทันที่นิรันตราจะได้พูดจนจบ เสียงระเบิดก็ดังไล่มาจากปลายท่าเรือด้านที่ติดกับฝั่ง ทรรศน์ตัดสินใจอย่างรวดเร็วรีบคว้าเอาตัวหญิงสาวกระโจนลงทะเลและพาดำน้ำลึกลงไปทันที เสียงระเบิดข้างบนยังดังอยู่อย่างต่อเนื่อง กระสุนปืนถูกกระหน่ำยิงลงมาในน้ำและพุ่งเฉียดศีรษะเขาไปหลายนัด ทรรศน์จึงพาร่างเล็กดำลึกลงไปอีก
เมื่ออยู่ใต้น้ำมาได้พักใหญ่นิรันตราก็เริ่มทนไม่ไหว เธอไม่ได้ตั้งตัวก่อนที่จะกระโดดลงมา อากาศที่สำรองได้จึงเป็นแค่ช่วงอึดใจสุดท้ายก่อนที่จะโดนทรรศน์ฉุดลากลงใต้น้ำมาเท่านั้น ร่างเล็กเริ่มดิ้นและสะบัดมือให้หลุดจากมือใหญ่ที่ยึดรอบข้อมือของเธออยู่ หญิงสาวเริ่มรู้สึกทรมานเพราะอากาศในปอดกำลังจะหมด
ไม่ไหวแล้ว... ตอนนี้เธอรู้สึกหูอื้อตาลายไปหมด มือข้างที่เป็นอิสระก็ทั้งทุบทั้งหยิกให้ชายหนุ่มยอมปล่อยมือเธอ
ทรรศน์รับรู้ได้ถึงอาการดิ้นรนของคนตัวเล็ก เขารู้ว่าเธอต้องการอะไร แต่เขายังปล่อยให้เธอขึ้นไปบนผิวน้ำไม่ได้ เพราะเสียงระเบิดและเสียงปืนข้างบนยังไม่หยุดลงเลย เขาใช้มืออีกข้างที่ว่างคว้าเข้าตรงท้ายทอยดึงตัวร่างเล็กที่ยิ่งดิ้นหนักเข้ามาใกล้ แล้วประกบปากตัวเองเข้ากับริมฝีปากของหญิงสาวเพื่อถ่ายอากาศจากตัวเขาไปให้เธอ ร่างเล็กที่เมื่อครู่ยังดิ้นไม่หยุดก็นิ่งไป ก่อนจะยอมรับอากาศจากเขาเข้าไปโดยดี ทรรศน์ยังถือโอกาสอ้อยอิ่งอยู่กับริมฝีปากนุ่มสักพัก แล้วจึงค่อยๆ ถอนริมฝีปากออกมา แต่สองแขนของเขายังคงโอบเอวเธอเอาไว้หลวมๆ มองคนตัวเล็กนิ่ง
มาถึงตอนนี้ชายหนุ่มรู้และมั่นใจแล้วว่า ถ้าชีวิตของเขาขาดเธอไปคงไม่มีความสุข และเขาจะพยายามทำทุกอย่างให้เธอยอมรับเขาเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเธอด้วยเช่นกัน จะทำให้เธอมีแต่ความสุขใจเมื่ออยู่กับเขา เหมือนกับทุกครั้งที่เขารู้สึกเมื่อได้อยู่กับแม่ลูกแมวตัวมินิของเขาคนนี้ ทรรศน์มองใบหน้าที่เริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ อย่างมาดหมาย
ทางนิรันตรา... เธอเองต้องหยุดนิ่งไปอย่างตกใจในสัมผัสแรกที่ทรรศน์แตะริมฝีปากลงมา แต่เมื่อเธอรับรู้ได้ถึงจุดประสงค์ของเขา เธอก็เต็มใจที่จะรับเอาลมหายใจจากชายหนุ่มเข้ามาต่อเวลาที่จะต้องอยู่ใต้น้ำนี้อีกสักพัก แต่แล้วต้องแปลกใจที่เขายังไม่ยอมถอนริมฝีปากออกและปล่อยตัวเธอสักที ช่วงเวลานี้เธอรู้สึกปั่นป่วนไปหมดทั้งตัว หัวใจก็เต้นแรง สมองก็คิดอะไรไม่ออก เลยทำได้แค่นิ่งไปอย่างนี้ แล้วยังสายตาของเขาที่จับจ้องมานี่อีก... ยิ่งทำให้เธอประหม่าไปกันใหญ่
เวลาเพียงชั่วนาทีอันแสนยาวนาน เสียงระเบิดจากข้างบนสงบลง ทรรศน์รีบโอบรวบเอวคนตัวเล็กมากระชับติดกับตัวเขา และพาตัวขึ้นไปบนผิวน้ำอย่างรวดเร็ว ทันทีที่ได้เจอกับอากาศบริสุทธิ์ นิรันตราก็รีบหอบหายใจเอาอากาศเข้าปอดในทันที แต่แล้วก็ต้องสำลักเพราะความรีบร้อน
“ใจเย็นๆ สิ นิรา ค่อยๆ หายใจช้าๆ” ทรรศน์เตือนพร้อมเข้าไปลูบหลังให้ พลางช่วยเกลี่ยผมที่ปิดหน้าปิดตาของเธอออกอย่างนุ่มนวล “เป็นยังไงบ้าง หืม...”
นิรันตราได้แต่ส่ายหน้าแทนคำตอบว่าไม่เป็นอะไร แต่พอชายหนุ่มเหลือบเห็นบาดแผลของเธอก็ต้องนึกเป็นห่วงขึ้นมาอีก
“ยังพอไหวไหมนิรา เรือกำลังมาทางเราแล้ว เดี๋ยวขึ้นเรือจะได้ดูแผลให้คุณกัน มีแผลขนาดนี้แล้วยังมาเจอน้ำทะเลอีก แสบหรือเปล่า” ทรรศน์ถามเสียงนุ่มอย่างเป็นห่วง
“ก็แสบสิ ใครจะไม่แสบ แต่มันไม่มีทางเลือกนี่ เอาเถอะ ถือซะว่าลงมาล้างแผลฆ่าเชื้อ” นิรันตราตอบอย่างไม่ใส่ใจ เธอยังไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมามองคนตรงหน้าอยู่ดี พอดีกับจังหวะที่เรือแล่นเข้ามาถึงและโยนห่วงยางชูชีพลงมาให้ เธอจึงรีบผละจากตัวชายหนุ่มเข้าไปคว้าห่วงยางเอาไว้
ทรรศน์ที่เห็นภาพนี้ต้องแอบอมยิ้ม ท่าทางอย่างนี้แสดงว่าเขิน งั้นเขาก็พอมีสิทธิ์สิ คิดแล้วเขาก็ว่ายน้ำตามประกบเธอไปติดๆ อดไม่ได้ที่จะเข้าไปเบียดตัวแย่งเกาะห่วงยางที่คนตัวเล็กยึดไว้อยู่
คนของทรรศน์รีบช่วยกันดึงทั้งคู่ขึ้นบนเรือ ผ้าขนหนูผืนหนานุ่มถูกนำมาคลุมตัวทั้งสองคนไว้ทันที ทรรศน์พาหญิงสาวเข้าไปข้างในเรือ พอจับให้เธอนั่งลงเรียบร้อย เขาก็เรียกหากล่องปฐมพยาบาล
“ไหน... ให้ผมดูแผลหน่อยซิ” ทรรศน์นั่งลงข้างๆ หญิงสาวแล้วถาม
“ดูทำไม อย่าบอกนะว่าคุณจะทำแผลให้ฉันน่ะ” นิรันตราไม่ค่อยไว้ใจฝีมือของคนอาสาเท่าไหร่
...แผลเธอจะยิ่งอักเสบไปกันใหญ่หรือเปล่า
“ว้า... กำลังจะบอก คุณก็ไม่ให้บอกซะแล้ว อย่างนั้นผมก็ไม่ต้องพูดอะไรอีกแต่จะทำแผลให้คุณเลยแล้วกัน เอาผ้าขนหนูออกสิ” พูดจบทรรศน์ก็เปิดกล่องปฐมพยาบาลที่ลูกน้องบนเรือเอามาส่งให้ หยิบสำลีเช็ดแผลและแอลกอฮอล์ออกมาเตรียมพร้อม
“ทำได้แน่นะคุณ เอาแบบมือเบาๆ ไม่เจ็บด้วยนะ” นิรันตราถามแหย่ดู แล้วก็ค่อยๆ ปลดผ้าขนหนูออกจากต้นแขนด้านที่ได้แผลมา
“เห็นไหม มัวแต่พูดมาก เลือดไหลออกมาอีกแล้ว” แม้ว่ามันจะเพียงแค่แผลที่กระสุนถากไปไม่ลึกแต่เลือดที่ซึมออกมานิดๆ ก็เรียกให้ทรรศน์ขมวดคิ้วเครียด ก่อนที่อึดใจต่อมาเขาจะกราดสายตาดุไล่ลูกน้องทุกคนออกไปข้างนอกให้หมด
ก็เสื้อหนูมินิของเขาเวลาเปียกน้ำแล้วแนบเนื้อชะมัด เขาไม่อยากให้ใครมาเห็น... ก็เขาหวงของเขานี่!
เมื่อด้านในของเรือเหลือเพียงแค่เขาและหญิงสาว ทรรศน์ก็ค่อยๆ ลงมือล้างแผลให้เธออย่างใจเย็นและเบามือที่สุด แต่ก็ยังไม่วายมีเสียงบ่นจากแม่ตัวเล็กที่คอยจ้องจับผิดทุกขั้นตอนที่เขาทำแผลให้
“นี่! ไม่เอายาแดงนะคุณทรรศน์ เอาเบตาดีนดีกว่า” ทรรศน์รับคำแต่กลับแกล้งหยิบยาขวดที่แสบที่สุดขึ้นมา
“ไม่ใช่!” นิรันตราร้องลั่น “ไม่ใช่ขวดนั้นสิ ไอ้นั่นมันทิงเจอร์ไอโอดีน จะฆ่ากันหรือไง เอาขวดเหลืองๆ นั่นน่ะ” เธอนึกแล้วไม่มีผิด ผู้ชายคนนี้ทำแผลเป็นกับเขาที่ไหนกันล่ะ ถึงแม้จะมือเบาดีก็เถอะ
“ครับผม ตามคำสั่งครับคุณมินิ” ทรรศน์ส่งรอยยิ้มล้อเลียนไปให้
“บอกแล้วไงว่าไม่ให้เรียกมินิ คอยดูนะ ถ้าเรียกคราวหน้าจะไม่หันจริงๆ ด้วย” นิรันตราว่าอย่างติดจะงอน ...ไม่เกิดมาตัวโตอย่างเขาบ้างก็ให้รู้ไป
ทรรศน์หัวเราะในลำคอ แล้วก็ตั้งใจใส่ยาให้เธอต่อ เขาใช้ผ้าพันแผลพันรอบแขนของเธอไว้เป็นขั้นตอนสุดท้าย หญิงสาวก้มลงมองผลงานของคนตรงหน้าอย่างพอใจและกำลังจะขอบคุณ แต่ก็ชะงักอึ้งเพราะเจอบทร่ายมนต์ของผู้ชายตัวโตซะก่อน
“เพี้ยง! ไม่เจ็บ ไม่ปวด หายไวๆ นะครับ” ทรรศน์ร่ายมนต์จบก็กดจมูกและริมฝีปากลงไปตรงตำแหน่งของบาดแผล นิรันตราที่เจอมุกนี้เข้าก็แทบจะยกแขนหนี
“คาถาสำนักไหนของคุณกัน แผลฉันจะยิ่งระบมหนักไม่ว่า” เธอแก้เขินด้วยการขัดคอเขาไป
“สำนักของนายทรรศน์นี่แหละหนูมินิ รับรองความขลัง” ทรรศน์ว่าอย่างอารมณ์ดี
ในเมื่อมั่นใจแล้ว เขาก็จะบุกไม่มีถอยแล้วนะ
เตรียมตัวเตรียมใจรับมือให้ดีแล้วกัน...
อ่านต่อ >> กับดักที่ 9 : เลือกแล้ว
หรือเป็นเจ้าของความฟินกันแบบเต็มๆ ได้เลย!
สั่งซื้อรูปเล่ม... ที่เว็บ สนพ. Coolkat หรือร้านหนังสือออนไลน์
โหลดฉบับอีบุ๊ค... ได้ตามแหล่งที่ถูกใจเลยค่ะ
โหลดฉบับอีบุ๊ค... ได้ตามแหล่งที่ถูกใจเลยค่ะ
Meb : https://goo.gl/b1pvx7
The1Book : https://goo.gl/sE3v54
Hytexts : https://goo.gl/aD9WaA
Ookbee : https://goo.gl/d6C85o
NaiinPann : https://goo.gl/J4zsB2
Dek-D : https://goo.gl/Ly4x67
No comments:
Post a Comment