8 July 2017

# แก่นฝัน # เจาะระบบ@หัวใจ

เจาะระบบ@หัวใจ - 002 : คนรักเด็ก

เจาะระบบ@หัวใจ  ชุดสี่สาว

ผู้เขียน : แก่นฝัน

ตีพิมพ์ครั้งแรก โดย สนพ. คูลแคท
เผยแพร่ฉบับอีบุ๊ค โดย แก่นฝัน

© สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามคัดลอกหรือดัดแปลงส่วนหนึ่งส่วนใดของนิยายเรื่องนี้
เพื่อนำออกเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต


002 : คนรักเด็ก

ปาป้ามาแล้ว!”
เสียงใสแจ๋วร้องประสานกันเรียกหาชายหนุ่มที่เพิ่งลงจากรถจักรยานยนต์คันใหญ่ ก่อนที่เด็กชายหน้าตาน่ารักสองคนจะวิ่งลัดสนามตรงเข้าไปหา เด็กชายคนแรกที่มาถึงคว้าเอาแขนดึงรั้งให้ชายหนุ่มตัวสูงใหญ่ย่อตัวลงมาหาอย่างรวดเร็ว ตามติดด้วยเด็กชายอีกคนที่ใช้สองแขนโอบรอบคอเขาเอาไว้ ไอยราวัณยิ้มกว้างก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มสองแฝดวัยหกขวบที่ทั้งหน้าตาและนิสัยเหมือนกันราวกระจกส่องไปคนละทีสองที
อาร์รอปาป้าน้าน... นาน เด็กชายอารยะรีบอ้อนเอาใจ
อัลก็รอน้าน... นาน เด็กชายอลังการแฝดผู้น้องเองก็ไม่ยอมแพ้
ไอยราวัณยิ้มหัวเราะออกมาแล้วยืดตัวขึ้นยืนเต็มความสูง พร้อมกับหนีบเอาสองลิงน้อยเกาะติดไหล่มาด้วยทั้งซ้ายขวา
มาประจบอ้อนปาป้าอย่างนี้ จะขออะไรอีกครับ
ไม่ได้ขอ... เนอะอัล เด็กชายอารยะบอก ก่อนจะพยักพเยิดหน้าไปหาพวกที่ส่งยิ้มพยักหน้าหงึกๆ ให้
ใช่ฮะ เรามารออวดปาป้าต่างหาก แฝดผู้น้องบอกต่ออย่างเข้าขากันดี แล้วก็มีอีกเสียงหนึ่งดังแว่วมาช่วยเฉลยความสงสัยของชายหนุ่ม
มันอยู่ในสนามฮะ ปาป้าไปดูเร็ว!”
เมื่อเด็กชายทั้งสองเร่งยิกอย่างตื่นเต้นและใจร้อน ไอยราวัณจึงอุ้มสองลิงออกวิ่งตรงไปทางที่ได้ยินเสียงลูกสุนัขดังแว่วมาทันที เรียกเสียงหัวเราะคิกคักจากแฝดพี่น้องได้อย่างสนุกสนาน
ลูกสุนัขพันธุ์โกลเด้นรีทรีฟเวอร์สีน้ำตาลอ่อนตัวหนึ่งกำลังวิ่งไล่งับลูกบอลยางอยู่ในสนามหญ้า ข้างๆ กันนั้นเป็นเอื้อมขวัญ... พี่เลี้ยงของสองแฝดที่ช่วยนั่งเล่นกับสมาชิกใหม่ของบ้านตามคำฝากฝังของเจ้านายตัวน้อยทั้งสอง
เจ้าจัมโบ้ฮะ คุณปู่พามาให้เราเลี้ยง อารยะแนะนำชื่อของลูกสุนัขที่ตัวสูงเกือบถึงเอวของตัวเองอย่างภาคภูมิใจ เจ้าสี่ขาแสนรู้เองก็กระดิกหูหันมาสนใจเด็กชายในทันทีที่ได้ยินชื่อของตัวเอง ก่อนจะวิ่งตรงดิ่งเข้ามาโถมน้ำหนักใส่เด็กชายจนเกือบหงายหลัง
มันใจดีฮะ เห็นใครก็อยากเล่นด้วย อลังการที่รอดจากการจู่โจมของเจ้าสี่ขาพูดอวดความดีของเพื่อนใหม่ยกใหญ่
เย็นนั้น ไอยราวัณปักหลักวิ่งเล่นกับเด็กชายทั้งสองและลูกสุนัขอยู่ครู่ใหญ่ เห็นได้ชัดว่าเด็กทั้งคู่กำลังตื่นเต้นและเห่อของขวัญจากคุณปู่ตัวนี้มาก จนขนาดที่เมื่อเอื้อมขวัญมาตามให้ไปทานอาหาร ทั้งสองคนก็งอแงจะเอาเจ้าจัมโบ้เข้าห้องอาหารด้วยให้ได้
ไม่ได้ครับ ปาป้าของเด็กชายยื่นคำขาด ก่อนจะต้องใจอ่อนลงกับหน้าเศร้า สายตาละห้อยและอาการนั่งปุลงกับพื้นสนามกอดคอเจ้าขนฟูสีน้ำตาลไว้ไม่ปล่อย
เอางี้... ให้พี่ขวัญดูแลเจ้าจัมโบ้ตอนเรากินข้าว แล้วถ้าสองคนยอมกินผักเขียว ปาป้าจะยอมให้เอาจัมโบ้ไปนอนด้วย ดีไหม?
แฝดพี่น้องมองหน้าปรึกษากันสักพัก เด็กชายอลังการก็ขอต่อรอง กินคำเดียวก็ได้ใช่ไหมคับ
และเมื่อได้เห็นคนยื่นข้อเสนอพยักหน้า เด็กชายทั้งสองก็เฮลั่น ปล่อยมือจากเพื่อนใหม่สี่ขาให้พี่เลี้ยงของพวกเขาเป็นคนดูแลแทน แล้วโผเข้ามายึดแขนของปาป้าไว้คนละข้างพากันเดินเข้าบ้านไปด้วยใบหน้าชื่น

บนโต๊ะอาหารของครอบครัว อิสราวิวัฒน์ มีสมาชิกครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้า โดยมีนายอุปถัมภ์... คุณปู่ของเด็กชายทั้งสองนั่งประจำหัวโต๊ะ ถัดมาด้านข้างเป็นนางอัมราผู้เป็นภรรยา และฝั่งตรงข้ามก็เป็นที่นั่งของไอยราวัณที่มีสองแฝดประกบสองข้างซ้ายขวา
แปลกดีที่วันนี้สองลิงของเรายอมกินผักด้วย นางอัมรายิ้มทักอย่างแปลกใจ เมื่อเห็นหลานชายไม่ได้เขี่ยบรอคโคลี่ในผัดผักรวมมิตรที่ไอยราวัณตักให้ออกจากจาน ทั้งสองเพียงทำหน้าเบ้นิดๆ อิดออดอยู่สักพักก่อนจะตักมันเข้าปาก รีบเคี้ยวเร็วๆ แล้วก็กลืนมันลงไปแทบจะพร้อมกัน ตามด้วยน้ำเปล่าเกือบหมดแก้วทำราวกับเพิ่งกินยาขมๆ
ถ้าพวกเรายอมกินผักทุกวัน ปาป้าก็จะให้จัมโบ้ไปนอนด้วยทุกวัน วันไหนไม่กินก็อด” ไอยราวัณเพิ่มข้อตกลงพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ให้สองหนุ่มน้อย
เด็กชายทั้งสองได้ยินก็โวยวายหาว่าปาป้าขี้โกงยกใหญ่ ทั้งอารยะและอลังการนั้น ถือเป็นหัวแก้วหัวแหวนของคนทั้งบ้านนี้เลยก็ว่าได้ ไม่เว้นกระทั่งเด็กรับใช้และคนงานในบ้านต่างก็คอยเอาอกเอาใจทั้งคู่อยู่เสมอ จึงเป็นหน้าที่ของไอยราวัณที่จะต้องคอยขัดใจเพื่อฝึกระเบียบให้พวกเขาบ้าง และก็เป็นโชคดีที่สองพี่น้องต่างเป็นเด็กฉลาดและพูดง่าย เมื่อปาป้าพูดอะไร ทั้งพี่อาร์และน้องอัลก็ต่างเชื่อฟังด้วยความอยากแข่งกันอ้อน แข่งกันเอาใจปาป้ากันอย่างเต็มที่
แต่แม้ว่าไอยราวัณจะพยายามใจแข็งกับทั้งคู่อย่างไร ก็ไม่สามารถฝืนทำไปได้ตลอดรอดฝั่ง สุดท้ายจึงมีคำพูดให้คนเป็นปู่เป็นย่าที่มักถูกลูกชายกล่าวหาว่าชอบตามใจหลานได้หัวเราะขันออกมา
อาร์กับอัลเก่งอยู่แล้ว กินผักแค่นี้จะกลัวอะไรครับ น่า... ถ้ารับข้อตกลงกินผักทุกวัน พรุ่งนี้ปาป้าจะพาไปซื้อบ้านกับของเล่นให้จัมโบ้ด้วยเอาไหม
เพียงเท่านั้น เด็กสองคนก็หยุดโวยวายทันที ต่างยิ้มแฉ่งประจบและดึงรั้งแขนชายหนุ่มให้รีบพาไปรับจัมโบ้คืนมาจากพี่เลี้ยงอย่างใจร้อน

ไอยราวัณกลับเข้าห้องนอนของตัวเอง หลังจากที่ส่งจอมซนสองคนกับหนึ่งตัวให้หลับไปได้อย่างยากเย็น เขากดสวิตช์เปิดคอมพิวเตอร์ทิ้งไว้เป็นอันดับแรก ก่อนที่จะคว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไป ไม่ถึงสิบนาทีก็กลับออกมาอีกครั้ง ชายหนุ่มแวะที่หน้าโต๊ะคอมพิวเตอร์เพื่อเรียกเปิดหน้าเว็บไซต์แห่งหนึ่งขึ้นมา แล้วจึงผละออกไปทางตู้เสื้อผ้าเพื่อจัดการตัวเองต่อให้เรียบร้อย
เมื่อเขาเดินกลับมาอีกครั้ง บนหน้าจอก็ปรากฏข้อความต้อนรับในหน้าแรกของ ชุมชนช่างเจาะ’ รออยู่แล้ว
คุณเจ๋ง!! ที่หาเราเจอ...
ชุมชนช่างเจาะเป็นแหล่งชุมนุมของเหล่าแฮกเกอร์ชาวไทยที่เขาเพิ่งค้นพบและเข้ามาเป็นสมาชิกได้ไม่ถึงครึ่งปีดี เหล่าสมาชิกของที่นี่นับว่าค่อนข้างมีฝีมืออยู่พอตัวเมื่อดูจากผลงานของพวกเขาที่เอามาโพสต์อวดโชว์กัน แต่ที่แตกต่างไปจากแหล่งชุมนุมที่อื่นก็คือ สมาชิกเหล่านี้ดูจะมีจิตสำนึกดีกว่านักเลงคอมพิวเตอร์ป่วนระบบทั่วไปมาก เพราะผู้ก่อตั้งเว็บซึ่งเป็นแฮกเกอร์รุ่นเก๋าจะคอยคัดเอา ช่างเจาะ ที่ชอบก่อเรื่องวุ่นวายให้ออกจากระบบ และตัว นายช่างใหญ่’ เองก็มักจะแวะเวียนมาอบรมขอบข่ายของการป่วนเป็นระยะ สลับกับถ่ายทอดเทคนิคแพรวพราวต่างๆ ที่เขาสั่งสมมาตลอดสี่สิบปีของการเป็นแฮกเกอร์
ไอยราวัณคลิกเข้าไปที่หน้าผลิตผลของชุมชน และคลิกต่อเข้าไปในหัวข้อที่มีคนโพสต์เอาไว้ล่าสุด เรื่องการกำจัดไวรัสออกจากระบบของ สนงตร ที่ชายหนุ่มเคยเข้ามาอ่านแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อวันนั้นเขายังนึกขันกับคำย่อที่อีกฝ่ายไม่จำเป็นต้องใช้บอกใบ้ คนอื่นก็รู้ชัดกันทั่ว และยังประหลาดใจกับความกลมของโลกไร้พรมแดนแห่งนี้อยู่ไม่น้อย เมื่อได้เห็นผลิตผลการกำจัดไวรัสในหัวข้อนี้ของ นางงามรักเด็ก’ หลังจากเขาเพิ่งตามล่าหาตัวจริงของแฮกเกอร์ปริศนาได้สำเร็จ
เนื้อหาในหน้านั้นบอกชื่อของไวรัส อาการและวิธีกำจัดเอาไว้อย่างละเอียด และตรงด้านล่างก็มีช่างเจาะคนอื่นเข้ามาฝากข้อความทิ้งไว้หลายข้อความ ทั้งชื่นชมกับฝีมือของนางงามคนนี้ ทั้งไถ่ถามอย่างเป็นห่วงที่เธอเสี่ยงไปวิ่งเล่นในระบบของกรมตำรวจ และเมื่อชายหนุ่มไล่สายตาอ่านไปเรื่อยๆ มันก็ทำให้เขารู้ว่าเคยมีช่างเจาะอย่างน้อยๆ ก็สามคนที่เคยเข้าไปเที่ยวเล่นในระบบที่เขาดูแลอยู่

ช่างตอบคนที่ 3                                                        
เฮ้ๆ สาวรักเด็กของเราทำเรื่องยิ่งใหญ่ช่วยชาติเลยนะเนี่ย ตอนผมลองไปวิ่งเล่นเมื่อเดือนก่อนน่าจะสะดุดเจออย่างคุณนางงามของผมบ้าง เผื่อจะได้ดังใหญ่ แต่ไม่เป็นไรหรอก พวกเรามันเหมือนคนคนเดียวกันอยู่แล้ว... จริงม่ะ
ช่าง เด็กรักนางงาม            Posted   27/0X/0X [03:16:41]
           
ช่างตอบคนที่ 7
เฮ้ยไอ้ลูกสาวลูกชายช่างทั้งหลาย... พวกประวัติวีรกรรมอะไรที่เสี่ยงคุกเนี่ย เก็บเงียบเอาไว้บ้างก็ดี เกิดมีตำรวจแฝงตัวมาเป็นช่างเจาะแล้วเราจะลำบาก แล้วจะมาหาว่าพ่อช่างใหญ่ไม่ช่วยไม่ได้นะเออ ส่วนใครที่ไม่เคยเข้าไปก็อย่าลองเลย มันไม่มีอะไรน่าสนใจหรอก หึๆๆ
ช่าง นายช่างใหญ่              Posted   27/0X/0X [20:31:27]

แต่ข้อความเหล่านั้น ไม่ได้ทำให้ผู้กองหนุ่มสะดุดสนใจมากเท่ากับข้อความสุดท้ายที่เจ้าของผลงานเพิ่งเข้ามาฝากไว้ได้ไม่นาน

ช่างตอบคนที่ 13
ได้ขอความเบอร์ 13 เหรอ เฮ้อ... เป็นเลขโชคร้ายเหมือนชีวิตของนางงามตอนนี้เลย ตำรวจบ้าบอ จมูกไวชะมัด แต่ดีนะเนี่ยที่นางงามเส้นใหญ่เลยไม่ถูกจับ หุหุ แต่อยากเอาไวรัสไปปล่อยคืนพวกตำรวจให้หายเซ็งจิตจริงๆ เล้ย...
ปล. ถึงเด็กรักนางงาม... ถ้าเราเหมือนเป็นคนเดียวกันจริงก็มาทำงานชดใช้ความผิดแทนหน่อยสิ นะๆ
ช่าง นางงามรักเด็ก            Posted   28/0X/0X [22:35:42]

ผู้กองหนุ่มหัวเราะน้อยๆ ให้กับคำโอดครวญจากนางงามรักเด็ก พลางนึกไปถึงใบหน้าใสๆ ที่ได้เห็นเพียงแวบสั้นๆ ในตอนสาย

ยังไงก็ยินดีต้อนรับล่วงหน้านะลูกน้องคนใหม่... คุณนางงาม หน้า’ เด็ก

ภายในร้านขายอุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยงบนห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ไอยราวัณยืนกอดอกเอียงคอมองหน้าเด็กชายสองคนที่ทำหน้ายุ่งอยู่ยิ้มๆ ในมือของเด็กชายทั้งสองมีปลอกคอสำหรับลูกสุนัขอยู่คนละเส้น เส้นที่เด็กชายอารยะเลือกมานั้นเป็นปลอกคอสีแดงเข้มปักหมุดสีเงิน ส่วนในมือของเด็กชายอลังการเป็นปลอกคอที่ดูคล้ายผ้าพันคอสามเหลี่ยมลายพรางทหาร
“ของอัลเท่กว่าตั้งเยอะ อัลจะเอาอันนี้!” เด็กชายอลังการเริ่มเอะอะเอาแต่ใจ
“อาร์ก็จะเอาอันนี้! ของอัลนั่นแหละไม่เห็นสวยเลย” แฝดผู้พี่ไม่ยอมแพ้ ทำให้ผู้น้องที่ถูกว่าเอื้อมมือไปยื้อแย่งของในมืออีกฝ่ายหวังจะขว้างทิ้งอย่างไม่พอใจ
“อารยะ อลังการ...” ไอยราวัณเรียกชื่อจริงของเด็กชายทั้งสองเสียงเรียบดุ เมื่อทั้งคู่เริ่มทำกิริยาไม่น่ารัก  “ปาป้าบอกแล้วใช่ไหมครับว่าเป็นพี่น้องกันต้องไม่ทะเลาะกัน ถ้าไม่เชื่อฟัง... ปาป้าจะเอาจัมโบ้ไปให้คนอื่นเลี้ยงนะครับ”
“ไม่เอานะฮะ!” เด็กชายทั้งสองร้องลั่นพร้อมเพรียง รีบปล่อยมือจากปลอกคอของอีกฝ่ายที่ยื้อแย่งกันอยู่ทันที
“อาร์กับอัลไม่ได้ทะเลาะกันนะคับ” อารยะแก้ตัวเสียงอ่อย แถมด้วยการหันไปขอเสียงสนับสนุนจากน้องชายที่เมื่อครู่ยังถกเถียงกันใหญ่โต
“ใช่ฮะ เราปึกสากันเฉยๆ” อลังการพยักหน้าหงึกๆ วางมาดลอกเลียนคำพูดของผู้ใหญ่ ก่อนจะเกาะท่อนแขนใหญ่ไว้แล้วเงยหน้ามาส่งสายตาให้ปาป้าปริบๆ
“หึๆ ปรึกษาครับ พูดก็ไม่ชัด” ไอยราวัณส่ายหน้าอย่างยอมแพ้ เจอบทประจบของสองหนุ่มน้อยเข้าไปก็ยอมใจอ่อนให้อีกตามเคย “เอาล่ะ ตกลงจะซื้อเส้นไหนให้เจ้าจัมโบ้ครับ”
“ของอัล/อาร์ ก็ได้ครับคับ” คราวนี้เด็กชายทั้งสองนึกเปลี่ยนใจกะทันหันกันทั้งคู่
“เอาไงแน่ครับ” ไอยราวัณยิ้มในหน้าและถามอีกครั้ง
“เอาสองอันเลยได้ไหมคับ” อารยะอ้อนปาป้าตาละห้อย “ของอาร์อันเล็กกว่าก็ใส่ตอนนี้ แล้วพอจัมโบ้โตอีกนิดก็ใส่ของอัล”
“นะคับ ปาป้าใจดี๊... ใจดี” อลังการรีบเป็นลูกรับเอ่ยพร้อมยิ้มประจบ
“ก็ได้ครับ ใส่ลงตะกร้าเลย เดี๋ยวไปจ่ายเงินกัน” ไอยราวัณอนุญาตอย่างยอมรับในบทสรุปแบบประนีประนอมของเด็กๆ แล้วสามหนุ่มต่างวัยก็ออกจากร้านไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้มพอใจกันทุกฝ่าย
เสียงโทรศัพท์ของไอยราวัณดังขึ้นขณะที่เขากำลังพาเด็กๆ ออกจากส่วนร้านค้า เพื่อไปหามื้อกลางวันอร่อยๆ เมื่อเห็นเป็นชื่อของสารวัตรเนติเขาก็รีบรับสายทันที ผู้กองหนุ่มรับฟังเรื่องราวคำบอกเล่าแล้วก็ได้แต่รับคำอีกฝ่ายเป็นระยะ ก่อนจะตกลงรายละเอียดกันไปตามสาย จนเรียบร้อยชายหนุ่มก็หันไปหาสองหนุ่มน้อยเพื่อเจรจาเปลี่ยนแผน เขาต้องพาสองหนุ่มน้อยไปส่งที่บ้านก่อน แล้วจึงค่อยเลยไปจัดการงานด่วนที่กรมต่อ
“ไปคระ...” ชายหนุ่มเอ่ยได้เท่านั้นก็ต้องหันซ้ายหันขวาสอดส่ายสายตามองไปทั่วบริเวณอย่างใจหาย เมื่อเด็กชายทั้งสองคนได้หายไปจากสายตาของเขาเสียแล้ว

“โห... พี่สาวคนนั้นเก่งจังเนอะอาร์” เด็กชายอลังการมองดูหญิงสาวที่นั่งอยู่หน้าตู้เกมแข่งรถอย่างสนใจ ในจอตอนนี้มีรถสปอร์ตสีฟ้าสดใสที่มีหญิงสาวเป้าสายตาของเด็กชายเป็นผู้บังคับกำลังบดบี้แย่งชิงความเป็นที่หนึ่งคู่กับรถสปอร์ตสีดำอย่างน่าลุ้น
“พี่สาวคนนั้นก็เก่ง” อารยะยื่นหน้าไปมองเจ้าของรถสปอร์ตสีดำที่นั่งอยู่ข้างๆ
เด็กชายสองคนยืนลุ้นผสมชื่นชมอยู่ท่ามกลางกลุ่มวัยรุ่นหลายคนที่มุงดูการแข่งขันของสองสาวอย่างสนใจเช่นกัน ไม่ว่าจะสนใจมองรถแข่งในสนามจำลองหรือจะมองคนบังคับสาวสวยก็ตาม แต่เมื่อเกมจบลงด้วยชัยชนะของรถสปอร์ตสีดำสนิท เด็กชายทั้งสองคนก็อดหน้างอบ่นเสียดายออกมาไม่ได้
เมื่อสมาธิที่รวบรวมไว้ในเกมแข่งขันหมดไป ละมุนพรรณก็ได้ยินเสียงใสแจ๋วบ่นแจ้วๆ ดังลอยมาจากเบื้องหลัง หญิงสาวจึงรีบหันไปส่งยิ้มให้อย่างใจดีทันที
“เชียร์พี่ด้วยหรือครับ”
แม้จะตกใจที่จู่ๆ พี่สาวหันมาคุยด้วย แต่เด็กชายทั้งสองก็ยังยิ้มตอบรับ “คับ”
เมื่อเห็นเด็กชายทั้งสองกล้าพูดกล้าคุยด้วย สาวหน้าหวานผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยวิญญาณนางงามรักเด็กก็ลุกออกจากเบาะจำลองหน้าตู้เกม เดินเข้าไปหาคู่แฝดหนุ่มน้อยทันที จนหญิงสาวอีกคนต้องลุกตามพลางส่ายหน้าปลงกับนิสัยของเพื่อนสาว
“สองหนุ่มน้อยเป็นฝาแฝดกันหรือเปล่าครับเนี่ย หล่อเหมือนกัน แต่งตัวเหมือนกันด้วย” ละมุนพรรณชวนคุย ขณะจับมือเด็กชายให้ออกมาจากวงล้อมของวัยรุ่นแถวตู้เกม เมื่อเริ่มสังเกตเห็นสายตาหลายคู่จ้องมองมายังเธอและเพื่อนอย่างเจ้าชู้น่ารำคาญ
“รีบไปจังนะฮะ” แต่ก็ยังไม่วายมีเสียงแซวแว่วตามหลังมาอยู่ดี
สองสาวได้ยินก็หันมามองหน้ากันเซ็งๆ ก่อนจะหันกลับไปเผชิญหน้ากับวัยรุ่นกลุ่มนั้น แล้วก็เป็นสาวหน้าหวานที่พูดโต้ตอบไปพร้อมรอยยิ้มหวาน “โทษทีนะจ๊ะ พอดีลูกๆ มาตามแล้วน่ะ”
เมื่อเห็นหน้าเป๋อเหลอไม่อยากจะเชื่อของเด็กหนุ่มกลุ่มนั้น สองสาวก็ยิ่งยิ้มขัน ละมุนพรรณรีบฉวยจังหวะนี้จูงมือสองเด็กชายให้ติดตามออกมาด้วย แต่ยังปลีกตัวออกมาได้ไม่ไกลนัก ตรินยาก็ทักท้วงขึ้นมาก่อน
“เฮ้ย! ไอ้ละมุน แกไปติ๊ต่างเอาเด็กที่ไหนไม่รู้มาเป็นลูกยังไม่พอ นี่จะขโมยเด็กกลับบ้านจริงๆ หรือไง”
สาวรักเด็กจึงส่งยิ้มแก้เก้อกับเพื่อนสาว ก่อนจะย่อตัวลงมาถามเด็กชายทั้งสอง “แล้วนี่มากับใคร คุณพ่อกับคุณแม่อยู่ไหนครับ”
จบคำถามเพียงไม่นาน สองเด็กชายก็หน้าตื่น มองซ้ายมองขวากันเลิ่กลั่ก ก่อนจะหน้าเสียเมื่อรู้ตัวว่าพลัดหลงกับปาป้าเสียแล้ว
“ปาป้าปาป้าหายไปแล้ว”
“โอ๋ๆๆ ใจเย็นๆ ก่อนนะครับ” ละมุนพรรณลูบหลังลูบไหล่เด็กชายที่เริ่มโยเยอยู่ไม่นิ่งเป็นการปลอบ “เดี๋ยวพี่ช่วยหาคุณพ่อเองนะ”
สาวรักเด็กส่งยิ้มหยิกแก้มยุ้ยเบาๆ อย่างเอ็นดู แต่ยังไม่ทันจะได้เริ่มมองหาปาป้าของเด็กทั้งคู่ ก็มีเสียงหนึ่งดังกังวานออกมาจากกระเพาะน้อยๆ ของเด็กชายคนใดคนหนึ่ง
“หึๆๆ เสียงท้องใครเนี่ย... หิวกันแล้วใช่ไหมครับ” ละมุนพรรณถามอย่างรู้ใจเด็กๆ แล้วหันไปปรึกษากับเพื่อนที่ยืนเงียบอยู่ “เอาไงดีล่ะไอ้ตรี”
“แกพาไปหาของกินในร้านแถวนี้ก่อนแล้วกัน เผื่อพ่อแม่เด็กจะมาเดินตามหา ส่วนฉันจะไปแจ้งเด็กหายกับประชาสัมพันธ์ให้” ตรินยาหาทางออกให้อย่างรวดเร็ว
ละมุนพรรณก้มลงมองสองเด็กแฝดที่มองสบตาแป๋ว ก่อนจะยกเอาอาหารในร้านละแวกนั้นมาล่อ “อยากกินอะไรดีครับ เอาพิซซ่าชีสยืดๆ ไหม หรือเอาไก่ทอดน่องใหญ่ๆ ดี”
เด็กชายทั้งสองได้ยินรายชื่อของกินก็ตาโต หากก็ต้องมองหน้ากันอย่างปรึกษาและไม่แน่ใจ เพราะถึงแม้พี่สาวจะดูใจดีและพวกเขาก็หิวมากๆ แต่ปาป้าก็เคยสอนเอาไว้ว่า เด็กดีต้องไม่ให้ไปไหนกับคนแปลกหน้า
“พี่สาวเป็นคนแปลกหน้าหรือเปล่าฮะ”
ละมุนพรรณได้ยินคำถามจากเด็กชายก็ต้องหน้ายุ่งอย่างแปลกใจ ก่อนจะยิ้มขำเมื่อคิดว่าพอจะเข้าใจอะไรบางอย่าง
“คนแปลกหน้าหมายถึงคนไม่รู้จักกันใช่ไหมครับ” เมื่อเด็กทั้งสองพยักหน้าหงึกๆ ว่าใช่ หญิงสาวก็ตะล่อมต่อ “งั้น... พี่ชื่อละมุน แล้วหนุ่มหล่อสองคนชื่ออะไรครับ”
“อาร์ชื่อเด็กชายอารยะ อิสราวิวัฒน์ อายุหกขวบคับ” เด็กชายคนแรกตอบฉะฉานด้วยประโยคที่คุณครูสอนให้แนะนำตัว
“อัลชื่อเด็กชายอลังการ อิสราวิวัฒน์ ชื่อเล่นชื่ออัลคับ”
“โอเคครับ คนนี้ชื่อน้องอาร์ กับคนนี้ชื่อน้องอัล” ละมุนพรรณทวนชื่อพร้อมจดจำใบหน้าและลักษณะความแตกต่างของเด็กทั้งสอง ถือเป็นความสามารถพิเศษของเธอเลยทีเดียวที่สามารถจดจำใบหน้าของผู้คนที่พบเจอได้อย่างแม่นยำ และเด็กชายอารยะนั้นก็มีไฝเม็ดเล็กๆ อยู่ที่หางตาซ้ายเป็นข้อสังเกตสำหรับใช้แยกฝาแฝดที่เหมือนกันมากๆ คู่นี้
“แล้วพี่ชื่ออะไรนะครับ จำได้ไหม” ละมุนพรรณย้อนถามเด็กๆ บ้าง
“พี่มูนคับ” สองเด็กชายรีบแย่งกันตอบหวังอวดสิ่งที่เพิ่งได้เรียนมา “เดอะ มูน ที่แปลว่าพระจันทร์ ใช่ไหมคับ”
“โอ้โห... เก่งจริงๆ” แม้จะไม่ถูกตามที่เธอแนะนำตัวเองไป แต่ละมุนพรรณก็ชมเด็กๆ อย่างเอาใจ เพราะความจริงแล้ว มูน’ ก็เป็นชื่อเล่นของเธอจริงๆ นั่นแหละ เพียงแต่เธอไม่ค่อยชอบเพราะมันอาจถูกเปลี่ยนภาษาเปลี่ยนความหมายได้ง่ายๆ จึงให้เพื่อนเรียกว่า ละมุน’ มาตั้งแต่ขึ้นชั้นประถม
“ที่นี้เราก็รู้จักกันแล้ว งั้นไปครับ... ไปหาอะไรอร่อยๆ ทานกันเถอะ”
เมื่อสองแฝดโดนตะล่อมกล่อมจนวางใจแล้วว่าพี่สาวคนนี้ไม่ใช่คนแปลกหน้า พวกเขาก็ยินยอมให้พี่สาวจูงมือไปหาของกินอร่อยๆ แต่โดยดี

ละมุนพรรณพาเด็กๆ เข้ามาในร้านขายไก่ทอดที่มีผู้พันพุงพลุ้ยหน้าตาใจดียืนต้อนรับอยู่หน้าร้าน เมื่อได้ไก่ทอดชุดคุณหนูสำหรับเด็กชายทั้งสองแล้ว เธอก็เลือกพาทั้งคู่ไปนั่งที่โต๊ะใกล้ๆ กับบานกระจกติดหน้าร้านเผื่อว่าผู้ปกครองของเด็กจะมองมาเห็นได้ง่ายๆ
“อร่อยไหมครับ” ละมุนพรรณถามเด็กชายที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาจัดการกับอาหารในถาดของตัวเองด้วยความหิวจัด และเมื่อสองหนุ่มน้อยเงยหน้าขึ้นมาตอบ สาวหน้าหวานก็ยิ้มอย่างเอ็นดู มือทั้งสองข้างเอื้อมไปหยิบกระดาษมาเช็ดซอสมะเขือเทศที่เลอะมุมปากของสองแฝดไปพร้อมๆกัน
ละมุนพรรณละสายตาจากเด็กทั้งสองมองออกไปทางหน้าร้าน และเป้าสายตาที่เธอกำลังเขม้นมองอย่างสนใจก็คือผู้ชายร่างสูงใหญ่ที่รู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าจะเคยเห็นหน้ากันมาก่อน เธอมองดูท่าทางมองซ้ายมองขวาเหมือนกำลังหาอะไรของเขาพร้อมกับขบคิดไปด้วยว่าเคยเจอหน้าชายหนุ่มคนนี้ที่ไหน แต่ยังไม่ทันได้นึกออก เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น หญิงสาวค้นหาโทรศัพท์ในกระเป๋าถือแล้วกดรับสายอย่างรวดเร็วเพราะคิดว่าเพื่อนสาวโทรมาแจ้งข่าว เมื่อเธอมองไปยังจุดเดิมอีกครั้ง ชายหนุ่มคนนั้นก็หายไปจากสายตาเสียแล้ว
เลยนึกไม่ออกเลย... หญิงสาวนึกอย่างค้างคาใจ แต่ก็ได้เพียงไม่นาน เพราะทันทีที่ได้ยินเสียงจากปลายสาย เธอก็ต้องแปลกใจที่ได้รู้ว่าบิดามารดารอเธออยู่ที่สนามบินแล้ว ทั้งที่ได้นัดเวลากันไว้ตอนห้าโมงเย็น ที่เธอจะต้องเอาเอกสารบางอย่างไปส่งให้ก่อนพวกท่านจะบินต่อ จนเมื่อซักถามกันไปก็กลายเป็นว่าตนคงจำเวลาที่เครื่องของทั้งคู่จะมาถึงคลาดเคลื่อนไปเอง
ทันทีที่วางสายจากบิดา สาวรักเด็กก็รีบโทรถามความคืบหน้าจากเพื่อนสาวอย่างงร้อนใจ “เป็นไงบ้าง”
“เจอคนมาแสดงตัวเป็นผู้ปกครองเด็กแฝดของแกแล้วล่ะ” ตรินยารายงานสถานการณ์ แต่เมื่อได้ยินสิ่งที่เพื่อนบอกมาอย่างรีบร้อนก็ต้องท้วงค้าน
แกอยู่รออีกนิดไม่ได้เหรอ
“ไม่ทันแล้วแก... ความจริงฉันก็ไม่อยากทิ้งเด็กๆ ไว้หรอกนะ แต่พ่อกับแม่ฉันจะบินไปเวียดนามในอีกชั่วโมงนี้แล้ว”
“นี่รีบขนาดพาเด็กๆ มาหาฉันที่ประชาสัมพันธ์ไม่ได้หรือไง”
“พวกแกเพิ่งกินไปไม่เท่าไหร่เอง ให้ลุกไปตอนนี้น่าสงสารออก แต่ฉันก็ฝากผู้จัดการร้านช่วยคอยดูแลให้แล้วล่ะ ยังไงถ้าเจอพ่อเด็กแล้วก็รีบพามาไวๆ เลยนะ”
“อืม... เอางั้นก็ได้ ฉันจะรีบไปแล้วกัน”

“ปาป้า! เด็กชายสองคนร้องเรียกหาชายหนุ่มที่ก้าวเข้ามาในร้านเสียงดัง ก่อนจะรีบวิ่งปร๋อออกมาจากโต๊ะ พอถึงตัวคนร่างสูงก็ยึดแขนปาป้าไว้คนละข้างและชะโงกหน้ามาคุยกันเองอย่างตื่นเต้น
“ปาป้าตัวจริงด้วย เหมือนที่พี่มูนบอกเลยนะเนี่ย”
“เนอะ ให้เรานั่งรอแล้วปาป้าก็มาจริงด้วย”
ชายหนุ่มที่ยืนเป็นเสาให้สองลิงเกาะอยู่ชักไม่ชอบใจขึ้นมาตะหงิดๆ ที่เด็กทั้งสองเอาแต่พูดคุยกันเองไม่รู้สึกสลดกับการพลัดหลงและไม่สนใจเขาสักนิด จึงส่งเสียงเรียกดุ “เด็กชายอารยะ เด็กชายอลังการ...”
เมื่อเด็กชายทั้งสองได้ยินชื่อตัวเองแบบเต็มยศก็พอรู้ตัวว่ากำลังจะถูกปาป้าดุ จึงรีบเงยหน้าขึ้นมาฉีกยิ้มประจบ
“ปาป้าหายไปไหนมา อัลกลั๊วกลัว”
“ปาป้าโกรธเรา จะทิ้งเราใช่ไหมฮะ”
สองแฝดรีบออดอ้อนจนชายหนุ่มที่รู้ทันเล่ห์ของเด็กๆ ต้องส่ายหน้า แม้แต่ตรินยาและผู้จัดการร้านที่ได้รับการไหว้วานจากละมุนพรรณก็ยังอดยิ้มขำไม่ได้
แม้จะใจอ่อนยวบไปแล้วกับบทอ้อนของสองหนุ่มน้อย แต่ไอยราวัณก็ต้องตีหน้าขรึมเพื่อสั่งสอนให้เด็กๆ รู้จักระวังตัว “ปาป้าบอกแล้วใช่ไหมครับ ว่าไม่ให้ไปไหนกับคนแปลกหน้า”
“พี่มูนไม่ใช่คนแปลกหน้านะคับ” เด็กชายอลังการบอกอย่างพาซื่อตามที่หญิงสาวได้กล่อมไว้ “พี่มูนรู้ว่าอาร์ชื่ออาร์ แล้วก็รู้ว่าอัลชื่ออัลด้วย”
“แต่เพิ่งเจอกันครั้งแรกใช่ไหมล่ะครับ” ไอยราวัณถามดักคอ ก่อนจะอบรมต่อ “แล้วปาป้าก็ไม่ได้รู้จักด้วยเสียหน่อย จำไว้นะครับ ต่อไปนี้คนแปลกหน้าก็คือ คนที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก แล้วก็คนที่ปาป้าไม่รู้จัก เข้าใจนะครับ”
“คับ...” สองพี่น้องต่างรับคำเสียงอ่อน ทำให้ได้ยิ้มน้อยๆ จากชายหนุ่มกลับไป
จบการอบรมสองหนุ่มน้อย ไอยราวัณยืดตัวขึ้นมากล่าวคำขอบคุณให้กับสองสาวที่ยืนอยู่ใกล้ๆ
“ไม่เป็นไรค่ะ เพื่อนฉันต่างหากที่เป็นคนดูแลเด็กๆ ให้ แต่เผอิญมีธุระด่วนเข้ามา เลยต้องให้เด็กๆ รออยู่ที่ร้านกันเองอย่างนี้ คุณคงไม่ว่าอะไรนะคะ” ตรินยาเอ่ยออกตัวแทนเพื่อนสาว ซึ่งชายหนุ่มก็พยักหน้ารับเป็นเชิงเข้าใจ
“คุณพ่อของน้องสองคนมารับก็ดีแล้วค่ะ ดิฉันขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ” ผู้จัดการร้านสาวยิ้มบอกก่อนจะปลีกตัวออกไปเมื่อเห็นว่าหมดหน้าที่
“ฉันก็คงต้องขอตัวเหมือนกันนะคะ” ตรินยาได้จังหวะขอตัวแยกไปบ้าง แต่ก่อนเธอจะไป เด็กชายทั้งสองก็ถูกชายหนุ่มดันตัวให้เข้ามาใกล้และมองเธอตาแป๋ว
“ขอบคุณคับพี่สาว”
ด้วยความน่าเอ็นดูของสองหนุ่มน้อยทำให้ตรินยาอดยิ้มตอบไปไม่ได้ “ไม่เป็นไรครับ พี่ไปก่อนนะ”
“เอาล่ะ พวกเราก็กลับบ้านกันได้แล้ว ทีหลังอย่าไปไหนโดยไม่บอกปาป้าอีกนะครับ ถ้าเจอคนไม่ดีมาจับตัวไปจะไม่ได้เจอปาป้าอีกเลยนะ” ไอยราวัณไม่วายกำชับสองหนุ่มน้อยอีกครั้ง

ในคืนวันอาทิตย์อย่างนี้ ถือเป็นช่วงเวลาที่ ชุมชนช่างเจาะ’ จะคึกคักเป็นพิเศษเลยทีเดียว เพราะที่นี่จะมีกิจกรรมพิเศษอย่าง ‘Surprise Sunday’ ให้เหล่าสมาชิกได้ร่วมสนุกและแข่งขันประชันความสามารถกันทุกอาทิตย์ โดยนายช่างใหญ่จะเลือกเว็บไซต์หรือดาร์กบอร์ดที่สร้างปัญหาให้กับสังคมมาเป็นเป้าหมายในการจู่โจมของเหล่าสมาชิก และคนที่สามารถจัดการกับเว็บนั้นได้เป็นคนแรกก็จะได้รับแต้มสะสมเพื่อบ่งบอกถึงระดับขั้นของสมาชิกแต่ละคนและยังสามารถใช้แลกโปรแกรมเด็ดๆ จากนายช่างใหญ่ได้อีกด้วย
“วันนี้จะเล่นเว็บไหนกันน้า” ละมุนพรรณพูดกับตัวเองลอยๆ ขณะรอคอยเวลาประกาศโจทย์สำหรับคืนนี้ เธอเฝ้ามองตัวเลขบนหน้าจอที่กำลังนับถอยหลังอย่างตื่นเต้นไม่แพ้ช่างเจาะคนอื่น
และแล้วรายละเอียดเกี่ยวกับเป้าหมายของเหล่านักเจาะในคืนนี้ก็ปรากฏขึ้น เว็บที่นายช่างใหญ่เลือกนั้นเป็นเว็บที่มีคลิปฉาวของดาราไฮโซชื่อดังปล่อยออกมาให้นักท่องเน็ตได้โหลดไปชมไปแชร์กันอย่างแพร่หลายและกำลังตกเป็นข่าวฮือฮาไปเมื่อตอนกลางวันนี้เอง
“โห... ทันเหตุการณ์อย่างกับอยู่เมืองไทยเลยนะคะ นายช่างใหญ่” ละมุนพรรณพึมพำอย่างนึกสนุก ก่อนจะลงมือปฏิบัติการตามหาที่อยู่และหาทางเจาะเข้าไปควบคุมเว็บไซต์ต้นกำเนิดคลิปแห่งนั้น
แต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่ถึงนาที บนกระดานสนทนาของชาวช่างเจาะก็มีที่อยู่ของเว็บไซต์นั้นแสดงขึ้นมาโดย เจ้าพ่อลูกสอง เป็นการแสดงตัวว่าเขาหาเว็บไซต์แห่งนั้นพบแล้ว
“ทำไมเร็วอย่างนี้ล่ะ” แฮกเกอร์สาวบ่นอย่างขัดใจ และรีบพุ่งความสนใจไปยังเว็บไซต์ที่เจ้าพ่อลูกสองได้โพสต์ไว้ทันที “ไม่ยอมเสียห้าสิบแต้มให้ลุงง่ายๆ หรอกน่า”
ละมุนพรรณและชาวชุมชนช่างเจาะต่างเรียกเจ้าพ่อลูกสองว่าลุงกันติดปาก ตามที่เคยล้อเลียนเขาผ่านกระดานสนทนาไปว่าเขาคงจะอายุเยอะกว่าพวกเธอมากแน่ๆ ถึงได้มีลูกสองแล้วอย่างนั้น
หลังจากเจ้าพ่อลูกสองโพสต์ที่อยู่เว็บแสดงความเป็นเจ้าของสิบแต้มแรกของคืนนี้ไปได้ไม่นาน ก็มีข้อความยั่วเย้าตามมาจากสมาชิกคนอื่นๆ เป็นสาย
เด็กรักนางงาม พูดว่าคืนนี้เร็วมากเลยลุง เข้าไปโหลดรูปสาวๆ บ่อยหรือไงฮะ
จอมเจาะมหาเวท พูดว่าคิดงั้นเหมือนกัน เร็วจนน่าสงสัยจริงลุง
แค่อยากรู้ พูดว่าระวังเมียลุงรู้จะแย่เอานะฮะ หลานๆ เป็นห่วง
และสงสัยว่าคนถูกกล่าวหาจะทนเฉยให้ถูกรุมต่อไปไม่ไหว จึงละมือจากการหาทางเจาะเข้าไปป่วนเว็บมาพิมพ์โต้ตอบกลับบ้าง
เจ้าพ่อลูกสอง พูดว่าเห็นใครเร็วกว่าเป็นไม่ได้ หาเรื่องใส่ความกันเชียวนะหนุ่มๆ เดี๋ยวสาวๆ แถวนี้ก็เข้าใจว่าลุงลามกหรอก เสียคะแนนนิยมหมด
หล่อคุมซอย พูดว่าคะแนนนิยมลุงหมดตั้งแต่ลุงมีลูกติดแล้วฮะ แต่ก็ไม่แน่นะ แถวนี้มีนางงามรักเด็กอยู่นี่นา
เจ้าพ่อลูกสอง พูดว่าจริงสินะ อยากรับหนุ่มหล่อ แล้วยังแถมเด็กน่ารักๆ อีกสองคนไปเลี้ยงดูไหมล่ะ คุณนางงาม
เด็กรักนางงาม พูดว่าเฮ้ยได้ไงลุง มาจีบนางงามต่อหน้าผมอย่างนี้ได้ไง ผมหวงของผมนะ
ละมุนพรรณกำลังปล่อยให้โปรแกรมค้นหารหัสผ่านสุ่มหารหัสของเจ้าของคลิปตัวปัญหาอยู่พอดี จึงมีเวลาละความสนใจมาอ่านข้อความบนกระดานสนทนา แล้วเธอก็ต้องยิ้มขำกับอาการกีดกันหนุ่มๆ ของเด็กรักนางงาม
นางงามรักเด็ก พูดว่านี่... ไม่ต้องมาทำหวงออกนอกหน้าเลย แฟนกันก็ไม่ใช่ ส่วนลุงน่ะ อยากให้นางงามเก็บไปเลี้ยงดู แน่ใจแล้วเหรอลุง ว่าหนุ่มจริง
เจ้าพ่อลูกสอง พูดว่า: ยังหนุ่มจริงๆ นะ
นางงามรักเด็ก พูดว่า: เมื่อกี่ร้อยปีที่แล้วล่ะลุง ฮ่ะฮ้า...
ในชุมชนแห่งนี้ ไม่มีใครรู้หรอกว่าแท้จริงแล้วอายุอานามของสมาชิกแต่ละคนนั้นเป็นเท่าไหร่กันแน่ การพูดคุยกันจึงดูเหมือนไม่มีการเคารพนับถือกันตามอายุเท่าไหร่นัก ทุกคนที่นี่ต่างนับถือกันตามระดับขั้น ความคิดอ่านและความสามารถของสมาชิกแต่ละคนเสียมากกว่า
ไม่นาน โปรแกรมของแฮกเกอร์สาวก็ทำงานเสร็จสิ้นเรียบร้อย เธอจึงหันไปสนใจเกมของค่ำคืนนี้ต่อทันที
“เอ๊ะ! ทำไมรหัสใช้ไม่ได้ล่ะ” ละมุนพรรณพึมพำอย่างแปลกใจ เมื่อรหัสที่ได้มาไม่สามารถช่วยให้เธอบุกยึดเว็บไซต์แห่งนั้นได้ แต่ข้อความที่ปรากฏขึ้นมาบนกระดานสนทนาก็ทำให้เธอเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แฮกเกอร์สาวปล่อยมือจากคีย์บอร์ดและทิ้งตัวลงกับเบาะอย่างเจ็บใจ
เจ้าพ่อลูกสอง พูดว่า: Surprise completed
แค่อยากรู้ พูดว่า: โหย... เร็วจริง เล่นกวาดแต้มไปคนเดียวเลยนะลุง ใกล้เลื่อนขั้นแล้วสิ
ข้าวมันขาหมู พูดว่า: อย่ามั่วน่าลุง เว็บมันไม่เห็นเปลี่ยนอะไรตรงไหน คลิปก็ยังโหลดได้ตามปกตินี่
สมาชิกคนหนึ่งรีบแย้งขึ้นมา
เจ้าพ่อลูกสอง พูดว่า: ปกติจริงน่ะเหรอ หึๆๆ
เมื่อเจ้าของผลงานบอกมาอย่างนั้น สมาชิกคนอื่นๆ ก็เกิดอาการอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาทันที เพราะส่วนใหญ่เวลาพวกเขาป่วนเว็บแต่ละครั้ง ก็มักจะติดประกาศแสดงสัญลักษณ์ของเจ้าของผลงานไว้อย่างโจ่งแจ้งที่หน้าเว็บ ไม่เคยมีครั้งไหนที่ทุกอย่างยังดูเหมือนปกติเช่นนี้มาก่อน
ละมุนพรรณก็ไม่ต่างกันกับสมาชิกคนอื่นๆ หญิงสาวลองกดโหลดคลิปนั้นมาดูตามที่เจ้าของผลงานท้าทายมา และเมื่อการดาวน์โหลดเสร็จสิ้นลง ก็รีบเปิดคลิปนั้นออกมาดูทันทีด้วยความสงสัยใคร่รู้อันเป็นอีกหนึ่งนิสัยที่มักมีติดตัวช่าวเจาะทุกคน
“กรี๊ด!
แล้วหญิงสาวก็ต้องร้องออกมาอย่างตกใจกลัว เมื่อจู่ๆ บนจอภาพสีดำสนิทที่เธอเพ่งมองอยู่นานตั้งแต่เปิดคลิป ปรากฏภาพของผู้หญิงผิวขาวซีดผมยาวปรกหน้าจ้องมองเธอกลับมาด้วยดวงตาสีแดงก่ำปูดโปนดูน่ากลัว ก่อนใบหน้านั้นจะพุ่งเข้ามาหาเธออย่างรวดเร็วพร้อมเสียงกรีดร้องโหยหวน ละมุนพรรณรีบปิดตาปี๋ ซุกตัวลงเบียดกับเก้าอี้นวมแล้วกอดเจ้ามาชเมลโลในอ้อมกอดแน่น
“อะ... ไอ้ลุงเจ้าพ่อบ้า… ไม่เตือนกันบ้างเลยนะ” คนกลัวผีขึ้นสมองต่อว่าต่อขานเจ้าของผลงานเสียงสั่น
“ผีซีจี... ก็แค่ผีซีจีล่ะน่า”
ละมุนพรรณพยายามปลุกปลอบตัวเองให้หายระทึกใจเต้นรัว ก่อนจะตัดสินใจรีบผุดลุกออกจากห้องนั้นทั้งๆ ที่ยังหลับตาอยู่ แล้วกระโจนข้ามฝั่งมายังส่วนพักผ่อนทันที หญิงสาวเปิดไฟให้สว่างโร่ไปทั้งห้อง แล้วหอบเอาเหล่าตุ๊กตาเพื่อนยากที่เรียงรายบนชั้นมากอดไว้เต็มล้นอ้อมแขนเป็นที่พึ่ง และคลุมโปงหลับไปพร้อมบทสวดมนต์ สลับกับบท สวดคน’ บางคนในใจ



อ่านต่อ >> 003 : หนุ่มผู้กอง VS ลูกน้องสาว


หรือเป็นเจ้าของความฟินกันแบบเต็มๆ ได้เลย!
สั่งซื้อรูปเล่ม... ที่เว็บ สนพ. Coolkat หรือร้านหนังสือออนไลน์
โหลดฉบับอีบุ๊ค... ได้ตามแหล่งที่ถูกใจเลยค่ะ




No comments:

Post a Comment