ผู้เขียน : แก่นฝัน
ตีพิมพ์ครั้งแรก โดย สนพ. บลูเบลล์
เผยแพร่ฉบับอีบุ๊ค โดย แก่นฝัน
เผยแพร่ฉบับอีบุ๊ค โดย แก่นฝัน
© สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามคัดลอกหรือดัดแปลงส่วนหนึ่งส่วนใดของนิยายเรื่องนี้
เพื่อนำออกเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต
กับดักที่ 2 : จดหมายขู่
หลังจากส่งใบสมัครเรียบร้อย นิรันตราก็ขับรถมินิคูเปอร์สีขาวแดงคู่ใจตรงไปยังร้านอาหาร 'อิ่มสุข' ...ร้านอาหารที่มีบรรยากาศสบายๆ ให้ความรู้สึกผ่อนคลายเหมือนกึ่งอยู่ในสปา ซึ่งเธอกับเพื่อนๆ ร่วมลงขันเปิดขึ้นมา
จากลานจอดรถเข้ามายังตัวร้านต้องเดินผ่านสวนที่ตกแต่งไว้อย่างร่มรื่น ทางเดินปูด้วยแผ่นไม้ขนาดใหญ่สลับกับกรวดหินก้อนเล็กๆ สีขาว ฝั่งซ้ายของทางเดินมีน้ำตกประดิษฐ์และสระบัวขนาดกลางช่วยสร้างบรรยากาศโดยรอบให้เย็นฉ่ำ ก่อนถึงประตูทางเข้าร้านมีต้นลีลาวดีดอกสีขาวต้นใหญ่สองต้นคอยเพิ่มร่มเงาให้กับร้านในช่วงบ่าย ตลอดสองด้านของตัวร้านกรุกระจกใสบานใหญ่แทนผนังทึบ ทำให้คนที่นั่งในร้านสามารถมองออกไปเห็นสวนเล็กๆ ที่จัดไว้ด้านนอกได้อย่างเต็มที่ ส่วนภายในร้านตกแต่งอย่างเน้นความสบายด้วยโต๊ะไม้ เก้าอี้หวาย และปูโต๊ะด้วยผ้าดิบสีอ่อนเป็นหลัก บนโต๊ะอาหารก็ใช้กระถางไม้ดอกขนาดเล็กน่ารักแทนการใช้แจกันดอกไม้
ทั้งร้านอบอวลด้วยกลิ่นหอมของอโรมาแบบไทยๆ ที่จะเปลี่ยนไปตามช่วงเวลาและบรรยากาศของแต่ละวัน ตอนนี้เป็นเวลาใกล้ค่ำ จึงใช้กลิ่นดอกราตรีและดอกโมกโชยมาผสานกับเสียงเพลงแจ๊ซนุ่มๆ และเสียงน้ำตกที่แว่วมาเบาๆ ก็ยิ่งทำให้บรรยากาศดูผ่อนคลาย…
เสียงกระดิ่งที่ดังกรุ๊งกริ๊งขึ้นเมื่อนิรันตราเปิดประตูเข้ามาในร้าน เรียกความสนใจจากสามสาวที่นั่งคุยกันอยู่แถวเคาน์เตอร์ให้หันมามองทันที ทั้งสามพร้อมใจกันส่งเสียงเรียกแต่ไม่ดังนัก เพราะเกรงใจลูกค้าที่เริ่มเข้ามานั่งในร้านบ้างแล้ว
“ไอ้มินิ!!”
ร่างเล็กที่เพิ่งเดินเข้ามาได้ยิน แต่ก็แสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้มองซ้ายมองขวาเหมือนสงสัยว่าพวกเธอทั้งสามเรียกใคร
“พวกฉันเรียกแกนั่นแหละ ไม่ต้องมาแกล้งบื้อ ไอ้มินิ... รา”
‘เพลินพิศ’ สาวร่างสูงโปร่งตามมาตรฐานนางแบบไทย กับผมสีน้ำตาลทองดัดเป็นลอนล้อมกรอบใบหน้าที่บ่งบอกถึงเชื้อจีนของเจ้าตัวยืนขึ้นพร้อมชี้หน้าเรียก
“เชอะ ไอ้คุณเพิร์ล... ไอ้ไข่มุกทะเลปนเปื้อนสารตะกั่ว อย่างฉันเนี่ย... ไม่มินินะยะ เขาเรียกมาตรฐานหญิงไทย” เจ้าของฉายาเชิดหน้าพูดราวกับภาคภูมิใจ ไม่ยอมรับชื่อที่เพื่อนสนิทพากันเรียกจนติดปาก เพราะในกลุ่มเพื่อนๆ ที่คบกันอยู่ก็มีเธอนี่แหละที่ตัวเล็กที่สุด หรือพูดตรงๆ แบบไม่ถนอมน้ำใจ ก็คือ เตี้ยที่สุดนั่นแหละ
ใช่สิ... เกิดมาไม่สูงกับเขามั่งให้รู้ไป
“มาตรฐานหญิงไทยสมัยขาดสารอาหารน่ะสิ ถึงโตมาได้แค่... เมตรครึ่ง” ‘ละมุนพรรณ’ เพื่อนสาวอีกคนที่เป็นเจ้าของนามไพเราะและใบหน้าหวานละมุนละไมน่าทะนุถนอม พูดเน้นสองคำท้ายให้เพื่อนยอมรับความจริง ถึงชื่อและใบหน้าของสาวคนนี้จะดูหวาน แต่ไอ้หน้าหวานๆ ปนซื่อของเธอนี่แหละที่หลอกคนมานักต่อนักแล้ว ดังนั้น... อย่าให้เธอได้ขยับหรือพูดเชียว
“เมตรครึ่งกับอีกหกเซ็นต์ย่ะ ฉันบอกกี่ทีก็ไม่เคยจำเลย... หน้ากลมเป็นปลาทองยังไม่พอ สมองก็จะเป็นปลาทองไปด้วยรึไงฮะ” สาวร่างเล็กไม่ยอมแพ้ยกเอาเรื่องที่เพื่อนสาวของเธอเป็นกังวลมาโต้กลับ เรื่องแก้มยุ้ยๆ ที่เจ้าตัวชอบคิดไปเองว่าทำให้หน้ากลมนั่นล่ะ
ว่าเสร็จแล้วนิรันตราก็ทำหน้าเชิดขึ้นเหมือนจะงอน จน ‘ตรินยา’ เพื่อนสาวคนสุดท้ายที่ถึงไม่ขาวอย่างเพื่อนทั้งสาม แต่ก็มีผิวสีน้ำผึ้งเนียนสวย คิ้วเรียว ตาคม ผมดำสนิท เรียกได้ว่าสวยคมแบบไทยแท้ ต้องเข้าไกล่เกลี่ย
“เอาน่า นิรา มาลองกินชารสใหม่ของไอ้เพิร์ลมันก่อน ชามะลิใส่มินท์ หอมๆ เย็นๆ ชื่นใจ จะได้ใจเย็นๆ เครียดมากไม่ดีนะ เดี๋ยวก็ได้ ‘เตี้ย’ ลงไปอีกหรอก หึๆ” สาวตาคมพูดหน้านิ่ง แต่คนถูกว่าก็ยังมองเห็นแววระยับในดวงตาของเพื่อนคนนี้อยู่ดี
“โหย… ไม่ต้องมาลูบหลังแล้วตบหัวเลยนะไอ้ตรี” โวยจบเธอก็ยกแก้วขึ้นดื่มน้ำชากลิ่นมินท์ไปเกือบครึ่งแก้วเป็นการพักยก เมื่อรู้สึกว่ากำลังเสียเปรียบเพื่อนทั้งสามที่รวมหัวกันรุมเธอ
“เห็นฉันมาช้าที่สุดเลยรุมกันใหญ่เลยนะ อย่าให้ถึงคราวแกๆๆ มาช้าบ้างก็แล้วกัน” คนตัวเล็กชี้หน้าคาดโทษเพื่อนเรียงตัว
“แล้ววันนี้แกไปไหนของแกมาล่ะ ไอ้มินิ ไม่เห็นมาลองทำขนมสูตรใหม่ ดักรอให้พวกฉันเป็นหนูทดลองเหมือนทุกที” ละมุนพรรณถามหลังจากที่เดินไปคิดเงินค่าอาหารของลูกค้าโต๊ะหนึ่งเสร็จเรียบร้อย
“ฉันว่าพวกแกต้องนึกไม่ถึงแน่ๆ บอกแล้วอย่าตกใจนา...” ดวงตากลมโตฉายแววเจ้าเล่ห์เหมือนมีลับลมคมนัย นิรันตรารอให้เพื่อนทั้งสามหันมาให้ความสนใจ แล้วจึงค่อยเฉลยสิ่งที่เพื่อนถาม “ฉันไปสมัครคัดเลือกว่าที่นายหญิงของ ซันไรส์กรุ๊ปมา”
“อะไรนะ!!” สามสาวแทบตะโกนถามขึ้นพร้อมกัน เมื่อนึกขึ้นได้ก็รีบหันไป ขอโทษขอโพยลูกค้ากันยกใหญ่
จะไม่ให้พวกเธอแปลกใจได้ยังไง ก็เพื่อนของพวกเธอคนนี้ แค่แฟนสักคนยังไม่เคยมีและไม่คิดจะมีด้วย เพราะนิรันตราเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูง และมักจะพูดเสมอว่า
'อยู่คนเดียวสบายใจกว่าเป็นไหนๆ ไม่ต้องคอยตามใจแฟน ไม่ต้องคอยให้แฟนตามใจ อยากทำอะไรอยากไปไหนก็ตามใจฉันเอง'
“ว่าที่นายหญิง... นี่แกเข้าใจความหมายของมันหรือเปล่า ไอ้มินิ” ตรินยาถามเพื่อนที่นั่งทำหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“รู้สิ” นิรันตราตอบเต็มคำ “ก็คนที่จะได้แต่งงานกับทายาทของซันไรส์กรุ๊ปไง”
“แล้วแก ที่กะอีแค่แฟนสักคนยังไม่คิดอยากจะมี แล้วนึกยังไงถึงอยากจะมี ซะมีขึ้นมาได้ล่ะ ฮะ? ว่าไง” ละมุนพรรณจ้องหน้าเพื่อนรักอย่างคาดคั้นเอาคำตอบ
“ก็ไม่ว่าไง” คนตัวเล็กพูดหน้าตาเฉย แต่แววตาที่พราวระยับก็ทำให้เพื่อนเริ่มสงสัย
“นี่แกมีแผนหรือจะเล่นอะไรวะ” ละมุนพรรณยังจ้องหน้าสบตาและซักต่อ
“เปล่า ไม่มี๊ ไม่มี” นิรันตราปฏิเสธเสียงสูง แต่เมื่อถูกเพื่อนรุมจ้องจับผิดมากๆ ก็เริ่มทนไม่ได้ เธอไม่เคยโกหกเพื่อนสำเร็จเลยสักครั้ง ถึงจะปิดบังแค่ไหนเพื่อนๆ ก็มักจะรู้ไต๋เธอทุกทีสิน่า
“ฉันน่ะไม่อยากมีหรอก ไอ้ซะมีนั่นน่ะ แต่เป็นคำสั่งของท่านพ่อผู้ยิ่งหย่าย...” นิรันตราตอบลากเสียงคำสุดท้ายน้ำเสียงที่พูดถึงบิดานั้นติดแนวล้อเลียน
“งานเหรอ” ตรินยาถาม ก่อนลดเสียงลงเป็นกระซิบ “หรือว่ามีคดี”
“ฉันก็ยังไม่รู้แน่เหมือนกัน เพิ่งได้รับคำสั่งสายฟ้าแลบให้เข้าไปสมัครเมื่อบ่ายนี้เอง เรื่องรายละเอียดยังไม่รู้อะไรมาก” นิรันตรายอมตอบเพื่อนดีๆ เพราะรับรู้ถึงน้ำเสียงแสดงความเป็นห่วง
“แล้วมีอะไรให้พวกฉันช่วยไหม” ตรินยาถามต่อ เพราะรู้ว่าเพื่อนเธอคนนี้ชอบเข้าไปช่วยงานของบิดาที่โออีบ่อยๆ
“อืม… ตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไร แต่ถ้ามีฉันจะคิดถึงพวกแกเป็นคนแรกๆ แน่” นิรันตราตอบ
“แกก็อย่าทำอะไรเกินตัวนักล่ะ ตัวก็แค่นี้” เพลินพิศลูบหัวเพื่อนพร้อมเตือนอย่างเป็นห่วง
“เอาน่า ฉันจะระวังตัว ไม่ต้องห่วง” นิรันตรารับคำให้เพื่อนสบายใจ
“เอาเถอะแก เรื่องไอ้มินิคิดจะสละโสดเก็บเอาไว้ก่อนเถอะ แต่ตอนนี้กับข้าวตั้งโต๊ะรอพวกแกลงมือจัดการมาตั้งนานแล้ว กินข้าวกันก่อนดีกว่า เดี๋ยวค่อยคุยกันต่อที่โต๊ะก็ได้”
เมื่อได้ยินละมุนพรรณชักชวน ทั้งสี่สาวก็รีบย้ายร่างไปนั่งใต้ต้นลีลาวดีต้นใหญ่บริเวณสวนด้านนอก แล้วเริ่มลงมือจัดการกับมื้อเย็นอย่างมีความสุข เพราะนอกจากจะเป็นมื้อที่มีเพื่อนรู้ใจนั่งอยู่ด้วยกันแล้ว เสียงพูดคุยแอบจิกกัดกันยังช่วยให้รู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปสมัยเป็นนักเรียน เรื่องเล่าของวีรกรรมเก่าๆ เรียกเสียงหัวเราะเฮฮาให้ดังขึ้นตลอดเวลา
จนเมื่อมื้อค่ำจบลง ทั้งสี่ก็ช่วยกันเก็บร้าน เพราะพวกเธออนุญาตให้เด็กๆ ในร้านกลับไปก่อนเมื่อเห็นว่าเลยเวลาปิดร้านมานานแล้ว
แล้วรถยนต์สี่คันสุดท้ายที่เหลืออยู่ในลานจอดรถก็ขับตามกันออกจากร้านไป เมื่อถึงทางแยกทั้งสี่ก็แยกย้ายกันกลับไปตามทางของแต่ละคน รอวันพุธแรกของเดือนต่อไปที่จะเป็นเวลาของการกลับมาร่วมสังสรรค์กันอีกรอบ ปล่อยให้ละมุนพรรณ ทำหน้าที่เฝ้าร้านจัดการเก็บสตางค์เข้ากระเป๋าแทนพวกเธอไป
“เข้ามาคุยกับพ่อที่ห้องทำงานหน่อยสิลูก”
‘กษมา’ หัวหน้าครอบครัวแสนจิตราหาญ บอกกับลูกสาวที่โต๊ะอาหารหลังจากเสร็จมื้อเช้า จากนั้นชายสูงวัยก็ลุกเดินนำเข้าไปยังห้องทำงาน ห้องที่ดูแล้วแตกต่างจากห้องทำงานทั่วไปบ้าง ตรงที่ผนังด้านหนึ่งเต็มไปด้วยจอมอนิเตอร์ฉายภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ตามส่วนต่างๆ ของบ้าน ข้างกันนั้นเป็นตู้เก็บอาวุธและอุปกรณ์ที่ใช้ในการปฏิบัติงาน ซึ่งก็มีหลายชิ้นที่ไม่ได้อยู่ในสังกัดของโออี แต่เป็นของที่ลูกสาวของเขากับเพื่อนๆ ประดิษฐ์คิดค้นทำขึ้นมาลองใช้ ซึ่งมีทั้งสิ่งประดิษฐ์ที่สามารถใช้งานได้จริงและของที่เอาไว้ใช้แกล้งคนอื่นเล่นตามนิสัยรักสนุกของลูกสาวเขา
ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้น พร้อมกับสาวร่างเล็กที่เดินยิ้มเข้ามา
“พ่อมีเรื่องอะไรจ๊ะ เกี่ยวกับที่ให้นิไปสมัครคัดเลือกเป็นว่าที่นายหญิงอะไรนั่นเมื่อวานนี้หรือเปล่า” นิรันตราถามขึ้นทันทีที่นั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามกับพ่อของเธอ
“อืม... ก่อนอื่นพ่อต้องบอกไว้ก่อนว่า งานคราวนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับโออีโดยตรง แต่เป็นเรื่องที่เพื่อนของพ่อขอความช่วยเหลือมา ‘ลุงคาโม’ ...ลูกอาจไม่รู้จัก” กษมามองหน้าลูกสาวที่ขมวดคิ้วเอียงคอทำหน้างงเมื่อได้ยินชื่อ ‘คาโม’ แล้ว เขาก็คลิกที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ให้ปรากฏภาพใบหน้าของคนๆ หนึ่ง เขาเป็นชายวัยประมาณห้าสิบปีที่มีใบหน้าคมเข้มค่อนไปทางดุและโหดใช้ได้เลยทีเดียว แต่ดวงตากลับแฝงแววปรานีเอาไว้ลึกๆ
“ลุงคาโมเขาเป็นเพื่อนกับพ่อมานานแล้ว ตั้งแต่ตอนไปออกภาคสนามที่อเมริกา เราได้อยู่หน่วยเดียวกัน เคยช่วยเหลือกันไว้หลายอย่าง แต่พักหลังๆ นี้ไม่ค่อยได้ติดต่อกันเท่าไหร่ ก็... ตั้งแต่เขาออกไปเป็นหัวหน้าบอดี้การ์ดให้กับพวกซันไรส์กรุ๊ปนั่นแหละ” กษมาอธิบายต่อ
“แล้วที่การคัดเลือกมีปัญหาอะไรหรือจ๊ะ” นิรันตราถาม เธอยังไม่เข้าใจถึงจุดประสงค์ที่ตนเองต้องเข้าไปสมัครคัดเลือกครั้งนี้อยู่ดี
“มีจดหมายส่งมาที่บ้านแสงสุรียฉัตร” กษมาบอก แล้วก็คลิกเปิดภาพสแกนจดหมายฉบับหนึ่งขึ้นมา
รอบที่หนึ่ง เพียงแค่ขู่ ให้ดูท่า
รอบที่สอง ร้องแทบบ้า เมื่อได้เห็น
รอบที่สาม ใครก็ตาม ที่เข้าเกณฑ์
คงไม่เว้น ฆ่ากันตาย ชิงได้ดี
“จดหมายขู่?”
“ใช่ ลูกคงรู้ว่าการคัดเลือกครั้งนี้เป็นรอบที่สามแล้ว สำหรับทายาทคนนี้”
“รู้จ้ะ คนอะไรก็ไม่รู้... เรื่องมากชะมัดเลยนะจ๊ะพ่อ คิดว่าตัวเองดีเลิศนักรึยังไง ถึงมีสิทธิ์มาเลือกคนนั้นคนนี้” นิรันตราพูดพลางย่นจมูกอย่างนึกหมั่นไส้
ทายาทคนนี้จะหน้าตาเป็นอย่างไรเธอไม่รู้หรอก แต่จากประวัติของเขาที่เคยได้ยินใครต่อใครพูดถึง โดยเฉพาะเรื่องผู้หญิงมันก็ทำให้เธอนึกไม่ชอบใจเขาได้ง่ายๆ คิดว่ารวย มีอำนาจ แถมหล่ออีกนิดหน่อย แล้วจะดีกว่าคนอื่นรึยังไง
“ก็มีคนยอมเป็นตัวเลือกให้เขาเลือกเป็นร้อยๆ คนไม่ใช่หรือไง” กษมาพูดอย่างขำๆ เมื่อเห็นท่าทางของลูกสาว ...แล้วแผนครั้งนี้ของเขาจะมีแววสำเร็จไหมนะ
“จนต้องฆ่ากันตาย… มันจะร้ายแรงขนาดนั้นเลยหรือจ๊ะพ่อ” หญิงสาวไม่คิดว่าแค่ผู้ชายเพียงคนเดียวจะทำให้เกิดเรื่องอย่างนี้ได้
“เงิน อำนาจ ความรัก… มันทำให้คนเป็นได้ทุกอย่างนะลูก ไม่อย่างนั้นตอนนี้จะมีอาชญากรรมอยู่เต็มเมืองเหรอ นิรา” กษมาพูดสอนลูกสาวคนเดียว
“จ้ะ แล้วพ่ออยากให้นิเข้าไปสมัคร แล้วก็เข้ารอบสุดท้าย แล้วก็ไปช่วยเขาฆ่ากันตายด้วยใช่ไหมจ๊ะ พ่อจ๋า...” นิรันตราเริ่มจะเข้าใจสิ่งที่บิดาต้องการ แต่ก็อดแกล้งแหย่ในตอนท้ายไม่ได้
“เฮ้ย! ไอ้ลูกคนนี้ มันน่า... นัก! ไปขัดขวางเขาสิลูก ไม่ใช่ไปฆ่าเขา เออ... เรานี่ชอบพูดเป็นเล่นไป” กษมาแกล้งทำเสียงดุ แต่ดวงตาที่มองลูกสาวกลับเต็มไปด้วยแววรักและเอ็นดู ...ชอบกวนเหมือนแม่ไม่มีผิด
“แล้วจดหมายฉบับนี้ จะเชื่อได้แค่ไหนจ๊ะ ว่าจะไม่ใช่แค่การเล่นสนุกหรือแค่แกล้งขู่เฉยๆ”
“มันก็พอมีมูลอยู่บ้างนะ เพราะในการคัดเลือกรอบแรก ท่าจอดเรือที่ใช้จัดปาร์ตี้ให้สาวๆ เกิดระเบิดขึ้นมา แต่ก็ไม่ร้ายแรง คล้ายจะเป็นแค่การก่อกวนความสงบเฉยๆ และที่เรื่องเงียบไปก็เพราะมีคำสั่งให้พวกการ์ดและเจ้าหน้าที่ที่รู้เรื่องปิดข่าวเงียบ สาวๆ ที่ไปร่วมงานก็ไม่มีใครรู้สักคน คงเพราะเหตุเกิดก่อนเวลางานประมาณยี่สิบนาที” พูดแล้วกษมาก็หันมาขยิบตากับลูกสาว
“ลูกก็รู้ พวกสาวๆ น่ะ ใช้เวลาแต่งตัวประชันโฉมกันนานขนาดไหน และไม่มีใครยอมมาก่อนเวลาหรอก เพราะถ้าอยากจะเป็นจุดเด่นในงานก็ต้องมาสายนิดๆ มันเป็นกฎ” กษมาพูดขำๆ ซึ่งก็ได้เสียงหัวเราะเป็นเชิงว่าเห็นด้วยจากลูกสาว
“แล้วรอบสองล่ะจ๊ะพ่อ” หญิงสาววกกลับเข้ามาเรื่องงานอย่างกระตือรือร้น
“รอบสอง... ในการเก็บตัวรอบสุดท้าย อยู่ๆ ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งเกิดอาการคลุ้มคลั่ง อาละวาดทำลายข้าวของและกระจกทุกบานที่มีในห้องพัก และกำลังจะทำร้ายตัวเอง โชคดีที่พวกแม่บ้านรีบไขกุญแจสำรองเข้าไปช่วยเหลือและพาตัวไปรักษาได้ทัน แล้วผลการตรวจเลือดออกมาก็พบว่ามียาลดน้ำหนักอยู่ในระดับสูงกว่าปกติมาก ซึ่งมันจะไปรบกวนสารสื่อประสาทในสมอง ทำให้เกิดอาการประสาทหลอนขึ้น รายนี้จากสถานการณ์ก็พอจะคาดได้ว่า อาจเป็นเพราะเห็นตัวเองในกระจกแล้วหลงคิดว่าตัวเองอ้วนมากจนน่าเกลียดถึงขนาดรับไม่ได้ จึงทำลายกระจกทุกบานที่สะท้อนให้เห็นภาพของตัวเอง”
“น่าสงสารนะจ๊ะ เพราะอยากสวยแบบผิดๆ แท้ๆ เลย” นิรันตราฟังแล้วก็ถอนหายใจ “แต่ฟังดูแล้วเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งสองเรื่องอาจเป็นแค่ความบังเอิญก็ได้นะจ๊ะ คนที่เขียนจดหมายขู่อาจรู้เรื่องที่เกิดขึ้นเลยยกมาเขียนขู่เล่น หรืออาจเป็นการเตือนให้ระวังเรื่องความอิจฉาริษยาชิงดีชิงเด่นกันของพวกผู้หญิงที่อยากได้ดี”
“แต่ทั้งสองเรื่องที่เกิดขึ้น มีแค่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยกับคนในที่เกี่ยวข้องเท่านั้นที่รู้เรื่อง ลุงคาโมก็เลยสงสัย…” กษมาพูดและทำหน้าครุ่นคิดไปด้วย
“สงสัยว่าเป็นฝีมือคนในหรือจ๊ะ”
“ก็ทำนองนั้น เขาเลยขอร้องให้พ่อช่วย เพราะถ้าเป็นฝีมือคนในจริง คนร้ายอาจจะจับตาดูลุงคาโมอยู่ด้วยเหมือนกัน ทำให้ทำอะไรได้ไม่สะดวก”
“พ่อเลยจะส่งนิซึ่งเป็นคนนอกแทรกตัวเข้าไปอย่างแนบเนียนในฐานะผู้สมัครคนหนึ่ง” นิรันตราพยักหน้าพึมพำทวนความเข้าใจในจุดประสงค์แท้จริงของคนเป็นพ่อ
“งานนี้ไม่มีการบังคับ ไม่ใช่คำสั่ง ลูกจะทำหรือไม่ทำก็ได้ พ่อให้สิทธิ์ลูกตัดสินใจ” กษมามองหน้าลูกสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้าพร้อมพูดอย่างจริงจัง
“แหม… พ่อก็ คุยกันตั้งนาน หลอกให้นิอยากรู้อยากเห็นขนาดนี้ พ่อยังจะถามอีกหรือจ๊ะ ว่านิจะทำหรือเปล่า” นิรันตราบอกด้วยนัยน์ตาฉายแววเหมือนสนุกกับเรื่องที่ได้รับรู้
“นี่คิดจะเอาเพื่อนๆ มาช่วยเหมือนเดิมล่ะสิ ก็ตามใจลูกนะ แต่ระวังตัวดีๆ ด้วยแล้วกัน” คนเป็นพ่อเตือน ลูกสาวเขาคนนี้ชอบทำเหมือนทุกอย่างเป็นเรื่องสนุกไปเสียหมด
“จ้ะพ่อจ๋า” นิรันตรารับคำเสียงอ้อน
“แล้วไอ้ท่าทีของลูกน่ะ เก็บความหมั่นไส้นายทรรศน์เอาไว้บ้างนะ ทำตัวให้เหมือนคนอยากเป็นนายหญิงหน่อยสิ อย่าให้ใครจับได้ว่าลูกเข้าไปทำอะไร แม้แต่คนในตระกูลนั้นด้วย ใครๆ ก็น่าสงสัยทั้งนั้น” กษมายังเตือนต่อ และนึกเป็นห่วงในแผนครั้งนี้ขึ้นมาเล็กๆ เมื่อลูกสาวตัวดีเบะปากขึ้นมาทันทีที่ได้ยินชื่อทรรศน์และยิ่งหน้างอหนักเมื่อเขาแกล้งเน้นคำว่า ‘นายหญิง’
“คร้าบ... ตามคำสั่งครับผม” นิรันตราแกล้งยกมือขึ้นแตะหางคิ้วรับคำแข็งขันด้วยแววตาพราวระยับเหมือนได้เรื่องสนุกถูกใจ แล้วก็ลุกขึ้นหันเดินออกจากห้องไปทันที
“อ้าว! เลยไม่ได้ให้ดูหน้าว่าที่ลูกเขยพ่อเลย หึๆๆ ตอนอ่านใบสมัครได้อ่านดูให้ดีรึเปล่าน้า ยายนิราเอ๊ย...” กษมาอมยิ้มอย่างหมายมาด
น้องสาวคนสวย รับโทรศัพท์ด้วยคร้าบ... พี่สาวคนสวยรับโทรศัพท์ด้วย คร้าบ... น้า!! น้าคนนั่นน่ะ รับโทรศั…
หลังจากเปิดประตูห้องนอนเข้ามาและได้ยินเสียงโทรศัพท์ นิรันตราก็รีบวิ่งไปคว้ามารับสายให้เร็วที่สุด ก่อนที่มันจะเพิ่มอายุของเธอให้มากขึ้นไปกว่านี้ จนกลายเป็นป้าเป็นยายไป ใครมันเป็นคนสร้างสรรค์เสียงเรียกเข้าแบบนี้ขึ้นมานะ เจ้าของเครื่องคิดอย่างชื่นชมหน่อยๆ
“ฮัลโหล!”
“เฮ้อ... รับซะทีนะ นิราจ๋า... ไปช้อปปิ้งเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ นะนะ” เสียงอ้อนๆ ของละมุนพรรณลอยเข้ามาตามสาย
พอจะขอให้ทำอะไรละก็ เรียกนิราขึ้นมาเชียว... คนรับสายนึกว่าอย่างไม่จริงจังนัก
“แกจะซื้ออะไรของแกนักหนาฮะ เมื่ออาทิตย์ก่อนก็เพิ่งหอบกลับบ้านไปเต็มท้ายรถ ยังไม่พออีกรึไง” คนถูกชวนโวยวายเพื่อนช่างช้อปของเธอ
“แหม… ก็ที่ซันไชน์เวิลด์เขาลดสามสิบถึงเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ทั้งห้างเลยนะ แกไม่สนใจเหรอ” ละมุนพรรณเอาของลดราคาเข้าล่อ
“เมื่อวานออกไปข้างนอกทั้งวัน กว่าจะถึงบ้านก็ดึกแล้ว วันนี้เลยขี้เกียจอะ... ขออยู่บ้านสบายๆ ดีกว่า” นิรันตราแกล้งปฏิเสธ เพราะรู้ว่าเดี๋ยวเพื่อนเธอก็ต้องมีของมาล่อใจเพิ่ม
“น้า... ไปด้วยกันหน่อยนะ นะ เดี๋ยวฉันเลี้ยงข้าวเที่ยงแกด้วย” คนอยากช้อปแถมทุนค่าอาหารกลางวันให้อย่างใจดี
เห็นไหมล่ะ... นิรันตรานึกอย่างสมใจ ทั้งที่ความจริงแล้วเธอก็อยากออกไปเจอละมุนพรรณอยู่พอดี จึงได้ตอบตกลงไปแบบไม่ต้องคิดในทันทีที่เพื่อนสาวพูดจบ
“ตอบเร็วเชียวนะไอ้มินิ ฮึ! เสียรู้แกจนได้” สาวหน้าหวานบ่นไม่จริงจังนัก เพื่อนคนนี้แค่เอาของกินอร่อยๆ เข้าล่อก็ลอยตามไปไหนต่อไหนแล้ว
“งั้นแกเตรียมตัวเลยนะ เพราะอีกครึ่งชั่วโมงฉันก็น่าจะถึงบ้านแกแล้ว”
อ่านต่อ >> กับดักที่ 3 : แรกพบหน้า
หรือเป็นเจ้าของความฟินกันแบบเต็มๆ ได้เลย!
สั่งซื้อรูปเล่ม... ที่เว็บ สนพ. Coolkat หรือร้านหนังสือออนไลน์
โหลดฉบับอีบุ๊ค... ได้ตามแหล่งที่ถูกใจเลยค่ะ
โหลดฉบับอีบุ๊ค... ได้ตามแหล่งที่ถูกใจเลยค่ะ
Meb : https://goo.gl/b1pvx7
The1Book : https://goo.gl/sE3v54
Hytexts : https://goo.gl/aD9WaA
Ookbee : https://goo.gl/d6C85o
NaiinPann : https://goo.gl/J4zsB2
Dek-D : https://goo.gl/Ly4x67
No comments:
Post a Comment