ตีพิมพ์ครั้งแรก โดย สนพ. คูลแคท
เผยแพร่ฉบับอีบุ๊ค โดย แก่นฝัน
เผยแพร่ฉบับอีบุ๊ค โดย แก่นฝัน
© สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามคัดลอกหรือดัดแปลงส่วนหนึ่งส่วนใดของนิยายเรื่องนี้
เพื่อนำออกเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต
ฉากที่ 8 : สิ่งที่ยังไม่ได้บอก
ชายหนุ่มมาดขรึมก้าวเข้ามาในห้องสี่เหลี่ยมขนาดเล็กที่ไม่มีแม้หน้าต่างสักบาน โจรตัวโตถูกใส่กุญแจมือไพล่หลังและล่ามโซ่รัดข้อเท้าทั้งสองให้ติดกับขาเก้าอี้นั่งอยู่กลางห้อง ร่างใหญ่โตของมันที่เต็มไปด้วยร่องรอยของบาดแผลและรอยฟกช้ำยังสลบคอพับไม่ได้สติเพราะถูกซ้อมเสียสะบักสะบอม สายตาคมกริบของคนมาใหม่มองผ่านร่างนั้นไป เพื่อซักถามลูกน้องที่รับหน้าในการสอบปากคำเจ้าโจรโชคร้ายที่นอนสลบอยู่ข้างรถ หนีไปไหนไม่ได้อยู่คนเดียว ในขณะที่พรรคพวกคนอื่นๆ หลบหนีขึ้นรถยนต์ที่มาจอดรอรับไปได้อย่างฉิวเฉียด ก่อนที่คนของเขาจะตามทัน
“มันยังปากแข็งอยู่อีกเหรอ”
“นอกจากชื่อของพวกมันอีกสองคนแล้ว มันก็ไม่ยอมพูดถึงใครอีกเลยครับ”
“ฉันไม่เชื่อหรอกว่ามันจะไม่มีเบื้องหลังคนอื่นอีก” สายตาที่มองโจรตัวยักษ์นั้นเย็นเยียบ
“ปลุกมันขึ้นมา” เรียวสั่งลูกน้องเสียงเฉียบ ก่อนจะหยิบมีดด้ามเล็กขึ้นมาลูบคมเล่นช้าๆ
ท่ามกลางกลีบดอกรูปหัวใจของต้นซากุระที่ร่วงลงมาเป็นสายในสวนสาธารณะ ชายในชุดสูทสีดำหลายคนเดินคุ้มกันสองพ่อลูกที่หอบหิ้วข้าวของเต็มสองมือด้วยสีหน้าเรียบขรึม เด็กชายวัยสิบขวบหอบกุหลาบสีชมพูช่อใหญ่ พลางก้าวกระโดดตามหลังผู้เป็นบิดาไปติดๆ ในมือของคนเดินนำข้างหนึ่งถือห่อผ้าที่ข้างในเป็นกล่องข้าวหลายกล่องเรียงกันเป็นชั้นสูง อีกมือถือเหล้าสาเกชั้นดีขวดใหญ่ สองพ่อลูกช่วยกันฮัมเพลงอย่างสนุกสนานรื่นเริง คนที่ทั้งคู่กำลังมุ่งไปหาก็คือ ผู้หญิงตัวเล็กๆ ในชุดกิโมโนสีสวยที่นั่งรอพวกเขาอยู่
อย่างไม่มีใครคาดคิด เสียงปืนหลายนัดดังสนั่นขึ้นขัดบรรยากาศของความสุข ผู้ชายตัวโตที่เดินประกบบิดาของเด็กชายล้มลงทันทีที่เสียงปืนนัดแรกดังขึ้น ผู้คนมากมายในสวนสาธารณะต่างกรีดร้องด้วยความความแตกตื่นตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เด็กชายรีบก้มหมอบลงติดพื้นทันทีตามที่บิดาเคยสอนเอาไว้ ขณะที่ชายหนุ่มผู้เป็นพ่อรีบทิ้งข้าวของในมือแล้ววิ่งตรงไปหาลูกชาย หากแต่เขาไม่สามารถเข้าถึงตัวลูกชายได้อย่างที่ตั้งใจ
“พ่อฮะ!” เด็กชายร้องเรียกและรีบลุกขึ้นวิ่งไปหา เมื่อเห็นว่าบิดาของเขาทรุดฮวบลงไปคุกเข่าอยู่กับพื้น
กลุ่มผู้ชายตัวโตเกือบสิบคนรีบเข้ามาล้อมและใช้ตัวเป็นเกราะให้สองพ่อลูก อาวุธปืนถูกควักออกมาเตรียมพร้อม ขณะที่สองตาก็มองหาที่มาของกระสุน
“อย่าเป็นอะไรนะฮะ” เด็กชายร้องไห้บอกกับบิดาที่ถูกยิงเข้าตรงกลางท้องถึงสองนัด
“อย่าร้องนะเรียวมะ... ลูกต้องเข้มแข็ง หนีไปให้ได้ แล้วดูแลแม่ด้วย” ชายที่แทบจะสิ้นแรงบอกกับลูกชายด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“โนดะ... ฉันฝากนายน้อยกับนายหญิงด้วย”
เมื่อได้ยินลูกน้องคนสนิทรับคำหนักแน่นเขาก็สบายใจ ก่อนจะถอดแหวนสัญลักษณ์ประจำตำแหน่งหัวหน้าตระกูลส่งให้ลูกชาย แต่ในทันทีที่เด็กชายรับไป สายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นปลายกระบอกปืนเล็งมาที่ลูกชายของเขา ด้วยสัญชาตญาณของความเป็นพ่อ เขารีบโถมตัวเข้าไปเป็นเกราะกำบังรับกระสุนแทนลูกชาย ต้นกำเนิดของเสียงปืนอยู่ใกล้แค่เอื้อมแต่สุ้มเสียงของมันกลับดังขึ้นเพียงแผ่วเบา กระสุนนัดนั้นทะลุผ่านกลางหลังของชายหนุ่มก่อนจะเลยไปถูกเด็กชายที่ขดตัวอยู่ด้านล่างด้วย...
เรียวสะดุ้งตื่นขึ้นมาในตอนรุ่งเช้า หัวใจยังเต้นเร็วรัวและหายใจหอบราวกับว่ากำลังอยู่ในฝันร้ายนั้นจริงๆ ชายหนุ่มกะพริบตาถี่ๆ เพื่อมองไปรอบๆ ห้องนอนอันเงียบสงัด
ไม่มีอะไร แค่ฝันไป ชายหนุ่มย้ำกับตัวเองก่อนจะยกมือขึ้นบีบตรงหัวไหล่ด้านซ้ายที่รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาเพราะความฝัน รอยแผลเป็นยังปรากฏให้เห็นอยู่จางๆ ตอกย้ำความเจ็บปวดให้เจ็บลึกลงไปในทุกครั้งที่นึกถึงที่มาของมัน
ชายหนุ่มก้มลงมองแหวนที่คล้องอยู่กับสายสร้อย แล้วกุมไว้แน่นเพื่อระลึกถึงคนที่มอบมันให้เขาก่อนที่จะสิ้นใจ
...พ่อไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะเข้มแข็ง และแม่ก็มีความสุขดีครับ
เรียวลุกขึ้นจากเตียงมาออกกำลังกายยืดเส้นยืดสาย ก่อนจะเข้าไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ เขาปล่อยให้สายน้ำอุ่นเป็นตัวช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดจากข่าวที่ได้รับจากการ ‘สอบสวน’ ไอ้โจรตัวยักษ์อย่างหนัก
...ข่าวของการจะเข้ามาในเมืองไทยของคนบางกลุ่ม
“กลิ่นหอมเชียวครับแม่” ชายหนุ่มร้องทักขณะที่เดินเข้ามาในครัว แล้วโอบเอวเล็กของมารดาจากด้านหลัง
“ทำไมวันนี้ลงมาเร็วจัง แม่ยังเตรียมมื้อเช้าไม่เสร็จเลย ถ้าหิวก็รองท้องด้วยกาแฟไปก่อนนะ” ซาโยริหันมาบอกลูกชายทั้งที่ยังไม่วางมือจากอาหารบนเตา
“ผมไม่ได้ตื่นเองสักหน่อย กลิ่นอาหารของแม่ปลุกผมต่างหาก” เรียวพูดเอาใจก่อนจะรินกาแฟดำใส่ถ้วยแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะ
“ผมจะไม่อยู่บ้านสักพักนะครับแม่”
ซาโยริหยุดมือที่กำลังตักข้าวร้อนๆ ใส่ถ้วยใบเล็กให้ลูกชายแล้วหันมาถาม “บอกล่วงหน้าอย่างนี้แสดงว่าจะไปนานละสิ”
“ครับ” ชายหนุ่มรับคำเพียงสั้นๆ
“เรียวมะ... แม่ถามจริงๆ เถอะ พักนี้ลูกดูเหมือนมีเรื่องคิดมากอยู่ตลอดเวลาเลย เมื่อคืนนี้ก็กลับมาเสียดึก ที่ซูไรมีปัญหาอะไรหรือไง” ผู้เป็นแม่ถือถ้วยข้าวสวยร้อนๆ เดินมาวางให้ลูกชาย ตามด้วยมิโสะซุปหอมกรุ่น
“พอดีที่งานเมื่อคืนมีปัญหานิดหน่อยครับ ผมเลยต้องอยู่เคลียร์งานต่อ ตอนนี้ก็เรียบร้อยแล้ว แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ” ชายหนุ่มเอื้อมมือไปกุมมือเล็กบางของมารดาไว้
เมื่อเห็นว่าลูกชายไม่อยากเล่า เธอจึงไม่อยากเซ้าซี้ “จ้ะ ไม่ให้ห่วงก็ไม่ห่วง เอ้า! รีบกินก่อนเถอะ เดี๋ยวจะเย็นชืดหมด”
ชุดเก้าอี้สนามใต้เงาของร่มสีขาวคันใหญ่ริมสระว่ายน้ำของบ้านแสงสุรียฉัตรกำลังถูกสี่สาวที่นั่งล้อมวงพูดคุยกันโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้างยึดไว้เป็นเจ้าของ
“แกแน่ใจนะ” ‘ละมุนพรรณ’ สาวหน้าหวานตากลมโตที่มีความสามารถพิเศษด้านการสืบค้นข้อมูลจากระบบคอมพิวเตอร์และโลกอินเทอร์เน็ตถามขึ้นมาหลังจากที่ฟังเพื่อนสาวเล่าจบ
“ก็เก้าสิบเปอร์เซ็นต์ละวะ” เพลินพิศตอบเพื่อนสาว
“เขาจะโกหกแกกับคนอื่นไปทำไมล่ะ” หญิงสาวร่างเล็กผู้เป็นว่าที่สะใภ้ของบ้านแสงสุรียฉัตรถามขึ้น
“ก็นั่นสิที่ฉันสงสัย ไม่งั้น คงไม่เรียกพวกแกมาประชุมหรอก”
“บางทีไอ้โจรพวกนั้นมันอาจจะหนีไปหมดอย่างที่เขาบอกก็ได้” ‘ตรินยา’ สาวใบหน้าสวย นันย์ตาคมเข้มที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับนางเอกสาวท้วง
“ไอ้โจรตัวอื่นฉันไม่รู้ แต่ไอ้หมียักษ์ที่โดนฉันจับทุ่มสลบคาที่น่ะ ไม่มีแรงลุกขึ้นมาวิ่งหนีได้แน่ๆ หรือถ้ามีเพื่อนผู้หวังดีหามมันไป ฉันว่าจะพากันหนีไม่รอดทั้งคู่มากกว่า” เพลินพิศยืนยันหนักแน่น
หลังจากเมื่อคืนเรียวยืนยันกับเธอว่าโจรทั้งสามคนหนีไปได้ เพลินพิศก็เก็บความสงสัยไว้ไม่อยู่ ลางสังหรณ์ของเธอบอกว่ามันต้องมีเบื้องหลังอะไรสักอย่างที่ทำให้เรียวโกหกปิดบังเธอและตำรวจ บอดี้การ์ดหนุ่มให้ข้อมูลเธอเพียงแค่ชื่อของผู้ต้องสงสัยที่ได้จากการสอบถามทีมงานที่จะต้องประจำอยู่หลังเวทีเท่านั้น แต่ไม่มีข้อมูลอื่นมากกว่านี้
ทีมงานทุกคนต่างให้การตรงกันว่า ‘สายฤทัย’ ผู้เป็นเจ้าของเครื่องประดับทั้งสองชิ้นที่พวกโจรหมายตา อนุญาตให้พวกเขาพักงานออกไปชมการเดินแบบที่หน้าเวทีได้ ทีมงานทั้งหมดจึงทิ้งงานและพากันออกจากห้องแต่งตัวไป พวกโจรคงจะอาศัยจังหวะนี้เข้ามาลักตัวเธอและฝากฟ้า แต่คำให้การเพียงแค่นั้นยังไม่สามารถลงข้อสรุปว่าสายฤทัยมีส่วนร่วมกับการปล้นเมื่อคืนหรือไม่ เพราะเธอยืนยันว่าไม่รู้เรื่อง และที่อนุญาตให้ทีมงานออกไปชมงานได้ก็เพราะเห็นว่างานด้านหลังไม่มีอะไรแล้ว และยังบอกอีกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะความบังเอิญที่ไม่มีใครตั้งใจอยากให้เกิด
...สรุปว่างานนี้ก็ยังไม่สามารถจับตัวคนผิดหรือสาวถึงตัวผู้เกี่ยวข้องได้
ยิ่งสามสาวฟังคำเพื่อนเล่าก็ยิ่งสงสัยหนุ่มเรียวขึ้นไปอีก ไม่เข้าใจว่าเขาจะปกปิดเรื่องนี้ไว้ทำไม แต่คิดอย่างไรก็คิดไม่ออก การประชุมด่วนที่เกิดขึ้นจึงหยุดเงียบไปพักใหญ่ เพราะต่างคนต่างตั้งหน้าตั้งตาใช้ความคิดของตนกันอย่างเอาจริงเอาจัง
“แกลองตะล่อมถามที่รักแกให้หน่อยสิไอ้มินิ” เพลินพิศบอกเพื่อนตัวเล็ก
“อะไรยะ” นิรันตราหรือ ‘ไอ้มินิ’ ของเพื่อนๆ ชักร้อนตัวกับคำว่า‘ที่รัก’
“ใช่ๆ เข้าทางคุณทรรศน์นี่แหละดีที่สุด” ตรินยาเห็นด้วยกับคนที่จุดประเด็นนี้ขึ้นมา
คนที่ถูกเพื่อนฝากความหวังอดไม่ได้ที่จะประท้วง “ทำไมมันมาลงที่ฉันวะ”
ละมุนพรรณยิ้มกริ่มก่อนจะเริ่มจัดแจงแบ่งหน้าที่ “เอาน่า... แกก็ทำในสิ่งที่แกทำได้ แล้วฉันกับไอ้ตรีจะช่วยหาข่าวจากวงนอกให้ ส่วนแก... ไอ้เพิร์ล หาทางหลอกล่อเอาข้อมูลจากเจ้าตัวนั่นแหละ”
“แหม... ก็ถ้ามันง่ายอย่างนั้น ฉันก็ทำไปแล้ว เมื่อคืนฉันถามอยู่ตั้งนาน ถ่วงเวลาตั้งแต่บะหมี่ชามแรกยันเกี้ยวแห้งชามที่สามก็ยังไม่ได้อะไรเพิ่ม คนบ้าอะไรไม่รู้ ปากแข็งยังไม่พอ หน้าก็นิ่งซะจนจับโกหกไม่ได้อีก” เพลินพิศบอกกับเพื่อนอย่างจนใจ
“เอาน่า พยายามหน่อย ฉันรู้ว่ามันยาก แต่มันเป็นวิธีลัดสุดๆ แล้วนะ”
“ฉันไม่เหลือเวลาแล้วน่ะสิ พรุ่งนี้ต้องออกกองแล้ว ถึงได้มาฝากความหวังไว้กับพวกแกนี่ไง”
“เฮ่อ! มาเล่าให้พวกฉันเกิดอาการอยากรู้ แล้วทิ้งปัญหาไว้ให้ช่วยแก้ แผนสูงจังนะไอ้ไข่มุกเน่า” นิรันตราชี้หน้าคนแผนสูงเอ่ยประชดแบบไม่จริงจังนัก
“ฉันรู้ว่าแกใจดี๊ใจดี นะๆ ไอ้มินิ เฮ้ย! แกๆๆ นั่นมันรถคุณเรียวนี่” เพลินพิศหยุดการประจบเพื่อนสาวตัวเล็ก ก่อนจะเรียกให้เพื่อนทั้งสามหันไปมองรถยนต์สีดำที่เพิ่งเลี้ยวเข้ามาในบ้าน
“พวกแกว่าเขามาทำอะไร”
“เขาจะมาหาเจ้านายบ้างไม่ได้หรือไง”
“แล้วทำไมต้องมาหาวันนี้ด้วยล่ะ ฉันสังหรณ์ใจว่าต้องเกี่ยวกับเรื่องเมื่อคืนแน่ๆ” หญิงสาวตั้งสมมติฐาน
“แกเอาที่ไหนมามั่นใจ” ตรินยาแกล้งถามดักคอ ทั้งๆ ที่เห็นด้วยกับสังหรณ์ของเพื่อนสาวไม่น้อย
“ไม่รู้แหละ แต่ฉันว่าใช่” คนที่หาเหตุผลไม่ได้ยืนยันกับเพื่อนอย่างมั่นอกมั่นใจ “ไม่เชื่อก็ให้ไอ้มินิไปถามคุณทรรศน์ดูได้เลย”
“อ้าว แล้วโยนมาที่ฉันเลยเนี่ยนะ” คนตัวเล็กโวยวายอีกครั้ง
ทั้งสี่สาวพูดคุยหาข้อตกลงกันอยู่พักใหญ่ จนเมื่อเพลินพิศมองไปเห็นเป้าหมายของเธอเดินออกมาจากบ้านและกำลังเดินไปทางที่รถจอดอยู่ นั่นละ องค์ประชุมเฉพาะกิจจึงยุติการประชุม
“ไอ้ตรี ฝากแกขับอาตี๋ฉันกลับด้วยนะ” เพลินพิศล้วงกุญแจรถจากกระเป๋าโยนให้เพื่อนสาวตาคม
“ฉันไปทำหน้าที่ส่วนของฉันแล้ว แกก็อย่าลืมส่วนของแกนะไอ้มินิ” เธอกำชับเพื่อนตัวเล็ก ก่อนจะวิ่งไปดักรอรถที่กำลังเคลื่อนตัวออกจากบ้าน
เรียวเหยียบเบรกกะทันหันเมื่อเห็นหญิงสาวร่างสูงโปร่งวิ่งมาตัดหน้ารถ หญิงสาวทำหน้าไม่สะทกสะท้านแม้ว่ารถจะหยุดอยู่ห่างจากตัวไม่ถึงครึ่งเมตร ชายหนุ่มขมวดคิ้วยุ่งอย่างไม่พอใจกับการกระทำที่ไม่รู้จักระวังตัวของหญิงสาว เขามองไปในทิศที่เธอเพิ่งวิ่งมาก็เห็นสามสาวที่นั่งอยู่ริมสระโบกไม้โบกมือกลับมาให้
“เล่นอะไรไม่เข้าท่า ถ้าผมหยุดรถไม่ทันจะทำยังไง” ชายหนุ่มดุทันทีที่หญิงสาวก้าวเข้ามานั่งยิ้มเผล่อยู่ตรงที่นั่งข้างคนขับโดยไม่ขออนุญาตเขาสักคำ นอกจากฉีกยิ้มกว้างมาให้แทนใบเบิกทาง
“อย่าโมโหสิ ฉันขอติดรถกลับด้วยคนนะ” หญิงสาวไม่สนใจสายตาดุๆ และเสียงเข้มๆ ของเจ้าของรถ เพราะเธอรู้สึกว่าเริ่มชินกับมันเสียแล้ว
“แล้วรถคุณไปไหนแล้วล่ะครับ” ชายหนุ่มหันมาถามก่อนจะออกรถ
“ไม่รู้สิคะ แล้ว... วันนี้คุณมาหาคุณทรรศน์ทำไมเหรอ” คนใจร้อนรีบถามโดยไม่รอให้เสียเวลา
“ไม่รู้สิครับ” ชายหนุ่มยวนกลับ
“เอ๊ะ! อย่ามาล้อเลียนกันนะ ฉันถามคุณจริงๆ เถอะ คุณจับไอ้หมียักษ์นั่นไม่ได้จริงๆ เหรอ”
“ซักผมมาตั้งแต่เมื่อคืนยังไม่ยอมแพ้อีกหรือครับ ผมรู้อะไรก็บอกคุณไปหมดแล้ว จะปิดบังคุณไปทำไม” ชายหนุ่มบอกเรียบเรื่อยไม่มีจังหวะสะดุดให้คนช่างสงสัยได้จับผิด
“นั่นน่ะสิ จะปิดบังกันทำไม” เพลินพิศส่งสายตาคาดคั้น แต่คนที่กำลังขับรถอยู่ก็แสร้งทำเป็นมองไม่เห็น
“จะให้ผมไปส่งที่ไหนดีครับ” เขาเลี่ยงการตอบคำถามโดยการถามเธอแทน
“ยังไงๆ คุณก็จะไม่ยอมบอกใช่ไหม” หญิงสาวเริ่มใช้เสียงเข้มบ้าง ดวงตาคู่เรียวสวยจ้องหน้าชายหนุ่มจอมปากแข็งอย่างไม่วางตา
เพลินพิศนึกฉุนอยากตามเอาผิดไอ้โจรพวกนั้นไม่หายที่มาทำให้งานเธอสะดุด แล้วยังรอยช้ำตรงแก้มที่ทำให้เธอต้องเจอบทสวดมาราธอนของศุภชนม์อีก แต่ลำพังเธอคงจะไม่สนใจเรื่องนี้มากขนาดนี้ ถ้าไม่ได้ยินคำโกหกน่าสงสัยของชายหนุ่ม ที่มากระตุ้นต่อมนักสืบของเธอพุ่งปรี๊ด
จนเมื่อรถยนต์ที่ทั้งคู่นั่งมาจอดสนิทติดแหง็กตามประสาการจราจรในเมืองกรุง เรียวจึงมีโอกาสหันมาจ้องตาตอบหญิงสาว เขามองลึกไปในดวงตาคู่เรียวสวย อาศัยความสงบนิ่งลึกเข้าสู้ สายตาของทั้งสองประสานกันอยู่ครู่ใหญ่ แต่ดูท่าว่าความนิ่งของฝ่ายชายจะเป็นฝ่ายชนะ เมื่อสาวหมวยหลบตาเสไปมองข้างทางแทน
“งั้นคุณก็จอดให้ฉันลงตรงป้ายรถเมล์ข้างหน้านี่แหละ” หญิงสาวกลัวว่าเขาจะเห็นใบหน้าระเรื่อเจือสีแดงของเธอจึงรีบตัดบทหาทางหนี ไม่บอกก็ไม่ต้องบอก ไม่ง้อหรอก
“คุณจะไปไหน ขึ้นรถผมมาแล้วก็ต้องให้ผมไปส่งถึงที่สิครับ” เรียวหันมาแย้ง
“ไปป้ายรถเมล์นี่แหละ ถึงแล้ว” เพลินพิศเกิดอาการงอนแบบไม่รู้ตัว เตรียมจะปลดเข็มขัดนิรภัยออกแต่ถูกมือใหญ่คว้าไว้ก่อน
“คุณเพิร์ล ผมเป็นห่วงคุณนะครับ” ชายหนุ่มพูดน้ำเสียงจริงจัง จงใจไม่ได้บอกให้ชัดว่าเป็นห่วงเธอเรื่องอะไรกันแน่ ระหว่างการไปส่งเธอหรือที่ต้องการกันเธอออกจากเรื่องเมื่อคืน
“จะห่วงทำไม นั่งรถเมล์อีกแค่สองสามป้ายก็ถึงแล้ว ฉันไม่หลงหรอกค่ะ” หญิงสาวค่อยๆ ดึงมือออกจากการเกาะกุมของมือใหญ่ แต่เขาก็ยังยึดที่ล็อกหัวเข็มขัดไว้ ไม่ปล่อยให้เธอปลดออกง่ายๆ
“นั่นสิครับ อีกสองสามป้ายก็จะถึงแล้ว จะลงไปทำไม ข้างนอกนั่นร้อนออก นั่งรถผมสบายกว่าตั้งเยอะ” เรียวอดยิ้มออกมาไม่ได้เมื่อเห็นอาการขัดเขิน ตามด้วยการถอนใจยอมแพ้ของหญิงสาว
รถสีดำเคลื่อนมาจอดตรงหน้าทางเข้าที่พัก เพลินพิศรีบบอกขอบคุณก่อนจะก้าวลงจากรถ เพราะหลังจากที่ได้เจอกับสายตานิ่งสงบ สยบทุกการเคลื่อนไหวของหนุ่มซามูไรแล้ว สาวหมวยก็ไม่ได้พูดหรือซักถามอะไรเกี่ยวกับเรื่องเมื่อคืนอีกเลย
“คุณเพิร์ลครับ” เรียวก้าวตามเธอลงมาด้วย
“คะ...” หญิงสาวหันกลับมามองหน้าเขาอย่างสงสัย
“ความจริงมีอีกเรื่องที่ผมยังไม่ได้บอกคุณ”
เพลินพิศได้ยินเท่านั้นก็หูผึ่ง รีบยิ้มกว้างประจบทันที
“ไม่แน่ใจว่าคุณจะรู้หรือยัง” ชายหนุ่มยังไม่ยอมบอกออกไปง่ายๆ หวังจะเพิ่มความอยากรู้ให้คนที่รอฟังอยู่
สาวหมวยรีบส่ายหน้าก่อนจะเดินเข้าไปใกล้อีกฝ่ายด้วยความกระตือรือร้นเต็มที่ “ไม่รู้ค่ะ ฉันไม่รู้เรื่องอะไรเลย”
“งั้นหรือ ถ้าอย่างนั้นก็รู้ไว้นะครับคุณเพิร์ล” เรียวก้มลงมองใบหน้าระบายด้วยรอยยิ้มของเธอ ก่อนที่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเขาจะผุดออกจากริมฝีปากคู่สวย “ว่าผมกำลังจีบคุณอยู่”
ในระหว่างรอการประมวลผลของหญิงสาว บอดี้การ์ดหนุ่มก็สบโอกาสพิศมองใบหน้านวลใสของดาราสาวใกล้ๆ ไปพลาง หนึ่งวินาที... สองวินาที... สามวินาที... หน้าขาวผ่องของสาวหมวยค่อยๆ เปลี่ยนสีระเรื่อแดงเข้มขึ้นเรื่อยๆ จนเมื่อเธอรู้สึกตัว ดวงตายาวรีก็กะพริบปริบๆ
“จะบ้าเหรอ!” หญิงสาวตะโกนเสียงดังอย่างลืมตัว
“ทำไมเวลาเขิน ผู้หญิงต้องกลบเกลื่อนด้วยคำว่า ‘บ้า’ ทุกคนเลยครับ” เรียวถามกึ่งสงสัยกึ่งล้อเลียน
เมื่อหญิงสาวกำมือขึ้นสูง คนที่ระวังตัวอยู่แล้วก็รีบคว้ามือเธอเอาไว้ทันที เพราะดูท่าแล้วหมัดแก้เขินของหญิงสาวคงไม่ใช่เบาๆ แน่
“ขึ้นห้องดีๆ นะครับ บอกแล้วว่าผมเป็นห่วง” เขาบอกลาแล้วเดินกลับไปที่รถและขับออกไปอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้คนที่ยังทำอะไรไม่ถูกยืนมองตามท้ายรถของเขาไปอย่างขัดใจ
หลังจากที่เพื่อนทั้งสามกลับไปแล้ว นิรันตราก็เริ่มแผนการในส่วนของเธอ
“คุณทรรศน์คะ วันนี้นิทำขนมที่คุณชอบด้วยละ”
“เอ... อยู่ๆ มาเอาใจ มีแผนอะไรหรือเปล่าหนูมินิ” ทรรศน์ลุกจากโต๊ะทำงานมารับถาดขนมจากมือคนตัวเล็กไปถือ ก่อนจะพาเธอไปนั่งตรงโซฟามุมห้อง
“แกล้งทำเป็นไม่รู้ทันนิสักเรื่องได้ไหมคะ” คนตัวเล็กเริ่มจะหมั่นไส้คนตัวโตแสนรู้ที่รู้ทันเธอไปเสียทุกเรื่อง
“เอ้า! ไม่รู้ก็ไม่รู้” ทรรศน์แกล้งพูดอย่างเอาใจ ก่อนจะใช้ส้อมคันเล็กส่งขนมเข้าปาก
“ทำไมคุณเรียวรีบมารีบกลับจังคะ นิยังไม่ทันได้คุยกับเขาเลย” นิรันตราเกริ่นนำตามแผนการ
เพียงแค่ได้ยินชื่อลูกน้อง ชายหนุ่มก็หรี่ตามองคนถามทันที “เขามีธุระของเขา”
หญิงสาวขยับตัวเข้าไปใกล้ แล้วส่งเสียงหวานถามเขา “ธุระอะไรหรือคะ”
“ไม่รู้สิ บอกแค่ว่าจะขอลาหยุดสักพัก”
“อ้าว! ทำไมคุณไม่ถามล่ะคะ” หญิงสาวผิดหวังในคำตอบ
“เรียวเป็นคนมีเหตุผล ไม่ว่าจะทำอะไรผมก็เชื่อในเหตุผลของเขาเสมอ ครั้งนี้ก็เหมือนกัน” ทรรศน์เหมารวมไปถึงเรื่องที่คู่หมั้นสาวกำลังสงสัยด้วย
“ไม่ใช่คุณไม่รู้หรอก คุณไม่ยอมบอกนิมากกว่า ถ้างั้นนิไม่ง้อก็ได้ นิมีทางรู้ของนิแล้วกัน คอยดูนะ ถ้านิรู้อะไรมา นิจะไม่เล่าอะไรให้คุณฟังเหมือนกัน” นิรันตรางัดไม้เด็ดสะกิดใจให้ชายหนุ่มนึกห่วงขึ้นมาใช้ ก่อนจะลุกหนี แต่แล้วเธอก็ต้องลอบอมยิ้มอย่างพอใจ เมื่อคนที่นั่งใจเย็นรีบคว้ามือเธอไว้ ก่อนจะดึงให้กลับไปนั่งข้างตัวเขาเหมือนเดิม
ทรรศน์รู้ดีว่าต่อให้เขาห้ามเธอเท่าไร เธอก็คงไม่ฟัง จึงยอมแพ้ต่อความดื้อแพ่งของเธออย่างอ่อนใจ “ก็ได้ๆ แต่นิต้องสัญญาก่อนว่าจะไม่แอบไปยุ่งกับเรื่องนี้โดยไม่บอกผม” อย่างน้อยยังอยู่ในสายตาเราก็ยังดีกว่า
หญิงสาวหันมายิ้มกว้างให้เขาอย่างสมใจ “สัญญาค่ะ”
...ก็แค่นินะคะ แต่ไอ้เพิร์ล ไอ้ละมุน กับไอ้ตรีไม่เกี่ยว
อ่านต่อ >> ฉากที่ 9 : สู่กองถ่าย
หรือเป็นเจ้าของความฟินกันแบบเต็มๆ ได้เลย!
สั่งซื้อรูปเล่ม... ที่เว็บ สนพ. Coolkat หรือร้านหนังสือออนไลน์
โหลดฉบับอีบุ๊ค... ได้ตามแหล่งที่ถูกใจเลยค่ะ
โหลดฉบับอีบุ๊ค... ได้ตามแหล่งที่ถูกใจเลยค่ะ
Meb : https://goo.gl/FockyR
The1Book : https://goo.gl/AR33tY
Hytexts : https://goo.gl/RL9qJX
Ookbee : https://goo.gl/iia4wb
NaiinPann : https://goo.gl/RczUnR
Dek-D : https://goo.gl/dqU2Zz
No comments:
Post a Comment