ตีพิมพ์ครั้งแรก โดย สนพ. คูลแคท
เผยแพร่ฉบับอีบุ๊ค โดย แก่นฝัน
เผยแพร่ฉบับอีบุ๊ค โดย แก่นฝัน
© สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามคัดลอกหรือดัดแปลงส่วนหนึ่งส่วนใดของนิยายเรื่องนี้
เพื่อนำออกเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต
ฉากที่ 7 : เหตุระทึก
งานแสดงเครื่องประดับของคุณหญิงฝันฟ้าถูกจัดขึ้นที่ห้องประชุมใหญ่ของสมาคมผู้ส่งออกแห่งประเทศไทย และหลังจากการแสดงจบลงก็จะมีการจัดประมูลราคาเครื่องประดับทุกชิ้นที่นำมาจัดแสดงในวันนี้ โดยจะนำกำไรทั้งหมดเข้าร่วมสมทบทุนมูลนิธิเด็กกำพร้าของสมาคมด้วย บรรดาคุณหญิงคุณนายไฮโซทั้งหลายที่มาในงานนี้ดูเหมือนจะกลัวน้อยหน้าเหล่านางแบบบนเวที จึงพากันหยิบเครื่องประดับสุดหรูจากกรุสมบัติมาสวมใส่แข่งกันจนดูระยับตาไปทั่วทั้งงาน
เมื่อใกล้ถึงเวลาของการแสดงบนเวที เหล่าแขกเหรื่อที่เดินไปมาทักทายพูดคุยกันอยู่ก็เริ่มกลับไปนั่งประจำโต๊ะของตน ไฟรอบๆ ห้องประชุมค่อยๆ หรี่ลงเหลือไว้แต่สปอตไลต์บริเวณหน้าเวทีเท่านั้น
เหล่านางแบบรับเชิญต่างตั้งใจทำหน้าที่ของตนกันเต็มที่เพื่อให้งานออกมาดีที่สุด และเมื่อถึงคิวขึ้นเวทีของลูกหลานตระกูลไหนก็จะมีเสียงปรบมือให้กำลังใจดังมาจากแม่ยกของแต่ละคน รับรองได้เลยว่าคนกลุ่มนี้จะต้องยอมทุ่มเงินทั้งกระเป๋าเพื่อประมูลชุดเครื่องประดับที่มีลูกหลานของตนเป็นคนนำเสนอผลงานด้วยราคาแพงลิบอย่างแน่นอน
ร่างสูงโปร่งในชุดราตรีเกาะอกผ้าไหมสีดำเข้ารูปทิ้งชายยาวระพื้นที่ก้าวออกมาจากหลังเวทีเป็นคนสุดท้าย เรียกสายตาทุกคู่ให้จับจ้องไปที่เธอ แสงไฟบนเวทีช่วยเสริมความแวววาวระยิบระยับของเหล่าเพชรเม็ดใหญ่น้อยที่ประดับอยู่บนมงกุฏและกำไลข้อมือให้เจิดจรัสยิ่งขึ้น เสียงของพิธีกรบรรยายถึงแรงบันดาลใจในการออกแบบเครื่องประดับชุดนี้ว่าผู้ออกแบบตั้งใจจำลองลวดลายความอ่อนช้อยของดอกไม้และลายไทยให้รวมเป็นความหรูหรา บ่งบอกถึงความเป็นหนึ่งในฝีมือของช่างชาวไทยและความสวยที่ไม่เป็นสองรองใครเมื่อได้อยู่บนตัวของผู้สวมใส่
เพลินพิศย่างกรายไปตามทางเดินบนเวที และหยุดโพสต์ท่าให้กล้องได้จับภาพเธอชัดๆ แม้เครื่องประดับบนตัวจะมีอยู่น้อยชิ้นแต่เธอก็สามารถนำเสนอสินค้าให้แขกในงานและช่างภาพสนใจได้อย่างไม่มีที่ติ เพลินพิศหมุนตัวกลับพร้อมใช้มือด้านที่สวมกำไลเพชรซึ่งออกแบบให้มีลักษณะเหมือนมงกุฎอันเล็กมาช่วยสะบัดชายกระโปรงที่ยาวลากพื้นเพื่อให้เดินได้สะดวก เมื่อได้มาอยู่ทามกลางผืนผ้าไหมสีดำ เหล่าเพชรเม็ดงามก็ยิ่งแข่งกันเล่นแสงล่อตาล่อใจยั่วให้ผู้เห็นอยากเป็นเจ้าของ
หญิงสาวเดินย้อนกลับมาด้านหลังและหยุดยืนตรงตำแหน่งที่กำหนดไว้ตรงกลางเวที พร้อมกับแสงไฟที่ค่อยๆ ดับลง ก่อนจะสว่างวาบขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเวทีที่แน่นขนัดไปด้วยเหล่านางแบบที่กลับขึ้นมายืนเรียงประจำจุดตามที่ซักซ้อมกันไว้ แสงแฟลชวูบวาบขับให้ประกายของเครื่องประดับวิบวับละลานตา สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่ผู้ชมเป็นอย่างมาก บรรดานางแบบที่ยืนเรียงรายกันอยู่ตลอดความกว้างของเวทีเริ่มหันหน้าเรียงแถวเพื่อก้าวเดินอีกครั้ง
แต่คราวนี้นางแบบผู้สวมชุดมงกุฎเพชรและชุดไข่มุกสีชมพูได้หายไปจากเวที โดยที่แขกในงานไม่มีใครรู้สึกตัวเลยสักนิด เพราะต่างมัวแต่ชื่นชมยินดีกับลูกหลานของตน มีเพียงผู้ที่รู้กำหนดการในการเดินแบบครั้งนี้เท่านั้นที่รู้ถึงความผิดปกติ
ระหว่างที่เพลินพิศกำลังรอจังหวะให้ไฟสว่างขึ้นมาอีกครั้ง... เธอบังเอิญเหลือบไปเห็นฝากฟ้าที่ยืนอยู่ข้างๆ กำลังถูกชายร่างสูงคนหนึ่งใช้มือปิดปากแล้วฉุดลากให้ลงจากเวที เธอจึงรีบขยับตามหมายจะเข้าไปขัดขวาง แต่เพราะไม่ทันระวังตัว อีกทั้งยังลืมนึกถึงสภาพของตัวเองที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการขยับตัวเท่าไรนัก นางเอกสาวจึงถูกโจรตัวโตที่ยืนคุมเชิงอยู่ใกล้ๆ ใช้ปืนจ่อเข้าที่หลังและพาตัวมาด้วยอีกคน
ชายแปลกหน้าสามคนในชุดพนักงานขับรถของคณะช่างแต่งหน้าพาเพลินพิศและฝากฟ้าหลบหนีออกมาทางประตูหนีไฟที่อยู่ไม่ไกลจากห้องแต่งตัวด้านหลังเวทีมากนัก ดูท่าว่าชุดที่สวมอยู่จะสร้างปัญหาให้นางแบบสาวไม่น้อย เพราะมือหนึ่งต้องคอยจับชายกระโปรงยกขึ้น เพื่อให้เดินกึ่งวิ่งลงบันไดไปได้โดยสวัสดิภาพ กับอีกมือก็ต้องคอยขยับเกาะอกให้เข้าที่เข้าทางอย่างทุลักทุเล
ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้ชุดเกาะอกนี่นะ แกกับฉันได้เจอกันแน่ เพลินพิศอาฆาตในใจ ทั้งที่อยากจะตะโกนด่าทอออกไปแต่ก็ทำไม่ได้ เพราะมีมือใหญ่หนาปิดปากเธออยู่ ด้วยความโมโห นางแบบสาวจึงจัดการฝากรอยเขี้ยวไว้กับมือหยาบของมันเต็มแรง
“โอ๊ย!” เจ้าของมือร้องลั่นอย่างโมโห ก่อนจะสะบัดหลังมือใส่เธอจนหน้าหัน
“พี่เพิร์ล!” ฝากฟ้าร้องอย่างตกใจ จะขยับเข้าไปหาแต่ก็ถูกยึดตัวไว้แน่น
“อยากได้เพชรพวกนี้ก็เอาไปสิ จะจับพวกฉันมาด้วยทำไม” เพลินพิศที่หายจากอาการชาที่ใบหน้าได้ทีต่อรอง
“แล้วจะปล่อยพวกแกให้วิ่งกลับไปบอกพวกในงานน่ะเหรอ”
“เร็วหน่อย เดี๋ยวพวกมันก็รู้ตัวกันหมด” อีกหนึ่งโจรท่าทางนิ่งๆ ที่เป็นคนจับตัวฝากฟ้าไว้เตือนขึ้น ก่อนที่คนดูต้นทางจะผลักประตูหนีไฟออกไปสู่ทางเดินข้างตัวอาคาร
รถตู้สีเทาเหมือนกับที่ทีมงานใช้สำหรับขนเสื้อผ้าจอดรออยู่ตรงสุดทางเดิน เพลินพิศเห็นท่าไม่ดีจึงต้องขอลองเสี่ยงเพื่อถ่วงเวลาไว้ให้นานที่สุด หญิงสาวฉวยจังหวะที่โจรคนนำทางกำลังเปิดประตูเข้าไปประจำที่คนขับ คว้ามงกุฎที่สวมอยู่บนศีรษะมาถือไว้และขยับเกาะอกให้ดีอีกครั้ง
“เฮ้ยรับ!”
เพลินพิศตะโกนเรียกโจรมาดนิ่งที่จับตัวฝากฟ้าไว้พร้อมกับโยนมงกุฏไปให้ นับว่าโจรนั่นก็สัญชาตญาณดีใช้ได้ รีบปล่อยมือและผลักตัวเด็กสาวให้พ้นทาง ก่อนจะโน้มตัวมาคว้ามงกุฎไว้ทั้งสองมือด้วยกลัวว่ามันจะตกพื้นเสียหาย
เด็กสาวฝากฟ้าได้สติก็รีบถอยกรูออกห่างทันที เพลินพิศรีบอาศัยช่วงจังหวะที่เหล่าโจรยังตั้งตัวไม่ทัน คว้าหมับไปที่ลำเลื่อนของปืนในมือโจรตัวโตที่จับตัวเธอไว้แน่นเพื่อไม่ให้มันยิงเปรี้ยงปร้างออกมา ก่อนจะบิดข้อมือและกระชากอาวุธสีดำนั่นมาถือไว้เอง หญิงสาวไม่ร้องขู่ให้เสียเวลา เธอลั่นไกไปทางโจรมาดนิ่งที่ยกปืนขึ้นมาจะต่อสู้ แต่ก็พลาดเป้าไปนิดเดียว เพราะโจรตัวโตรีบกระโจนเข้ามาหมายจะแย่งปืนในมือเธอไป ขณะที่กำลังยื้อแย่งกันอยู่ หญิงสาวก็ตัดสินใจยิงปืนขึ้นฟ้าอีกนัด หวังว่าจะเรียกให้คนในงานได้รู้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น
ไอ้หมียักษ์นี่แรงเยอะชะมัด! สาวหมวยนึกฉุน เมื่อรู้ตัวว่าคงฝืนสู้แรงคนตัวโตได้อีกไม่นาน แต่ถ้าให้ยอมแพ้ง่ายๆ ก็ไม่ใช่เพลินพิศแน่
ถึงตัวใหญ่แรงเยอะ แกก็ต้องมีจุดอ่อนบ้างละน่า คิดแล้วก็บรรจงกระแทกส้นเข็มสูงเกือบสี่นิ้วลงบนรองเท้าผ้าใบคู่โตของไอ้โจรตัวเขื่อง จนมันร้องโอดโอยออกมาเสียงดัง เมื่อฐานไม่มั่นคง คนตัวใหญ่ก็พานจะล้มเสียง่ายๆ เพลินพิศจึงกระชากคอเสื้อและกวาดเท้าตวัดลำแข้งด้านในของคนตัวโตให้เสียศูนย์ และปฏิบัติการทุ่มหมีให้ลงไปนอนกองกับพื้นก็สำเร็จผล
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ” เจ้าโจรมาดนิ่งสั่งพลางจ่อปากกระบอกปืนจนชิดขมับของฝากฟ้าที่ถูกจับตัวไว้ได้อีกครั้ง เด็กสาวยืนตัวเกร็ง น้ำตารินไหลลงมาด้วยความกลัว
“ใจเย็นนะ ยอมแล้วๆ” เพลินพิศยอมวางปืนลงกับพื้นและค่อยๆ ยกมือขึ้นอย่างยอมแพ้
“รีบขึ้นรถ! ฉันจะนับหนึ่งถึงสาม”
“แกจะพาฉันไปไหน” หญิงสาวพยายามถ่วงเวลา
“หนึ่ง... สอง...”
“เดี๋ยวๆ ไปแล้วๆ” เพลินพิศเลิกหาเรื่องดึงดัน รีบก้าวขึ้นรถตามคำสั่ง ก่อนที่ฝากฟ้าจะถูกดันตัวให้ตามเข้าไปติดๆ
ปัง! ก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะตามพวกเธอเข้ามาในรถ เสียงปืนนัดหนึ่งก็ดังขึ้น
ตามด้วยปืนในมือของโจรมาดนิ่งตกลงกับพื้น ก่อนที่เจ้าตัวจะร้องครวญครางสะบัดนิ้วมือที่หงิกงอเพราะถูกโกร่งไกปืนบิดอัดจนหักผิดรูป เมื่อเห็นท่าไม่ดีก็รีบใช้อีกมือกระชากสร้อยไข่มุกของฝากฟ้าออกจากลำคอของเด็กสาว แล้วสองโจรก็ใช้ยุทธศาสตร์การกระจายกำลังอาศัยความมืดหลบหนีออกไป ...แบบตัวใครตัวมัน!
“ตามจับพวกมันมาให้ได้” เสียงเข้มสั่งบรรดาชายหนุ่มในชุดสูทที่วิ่งกรูออกมาจากประตูหนีไฟ ก่อนจะรีบวิ่งมายังประตูรถตู้ที่เปิดค้างอยู่ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ฝากฟ้าถูกเพลินพิศดันตัวให้ลงมาจากรถ
“ว้าย!” ฝากฟ้าอุทานเมื่อเห็นคนตัวโตยืนขวางอยู่หน้ารถ ฝ่ายรุ่นพี่ในวงการที่ได้ยินเสียงร้องก็รีบคว้าตัวเด็กสาวเบี่ยงไปด้านหลังอย่างพร้อมปกป้อง
“โธ่... คุณเรียวนี่เอง” ความตึงเครียดกังวลเมื่อครู่คลายลงทันทีที่ได้เห็นหน้าชายหนุ่ม
“ฟักแฟง... ลูกแม่เป็นยังไงบ้าง” คุณหญิงฝันฟ้าโผเข้าสวมกอดลูกสาวไว้ทันทีที่บอดี้การ์ดหนุ่มพาสองสาวกลับมายังห้องพัก
แม้การหายตัวไปกลางงานของหญิงสาวทั้งสองจะสร้างความประหลาดใจให้แขกเหรื่อในงานอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะผู้จัดงานได้แจ้งกับบรรดาแขกว่าเครื่องประดับทั้งสองชุดถูกนักการเมืองใหญ่ชิงขอประมูลไปแล้ว จึงทำให้งานในคืนนี้ยังดำเนินต่อไปได้ด้วยดี
เมื่อหมดหน้าที่แล้ว เรียวก็ถอยออกมาจากสองแม่ลูก ชายหนุ่มหาน้ำเย็นๆ มาราดรดลงบนผ้าเช็ดหน้าผืนบาง ก่อนจะบิดหมาดๆ แล้วเดินตรงไปหาหญิงสาวที่นั่งเงียบใช้ความคิดอยู่ตรงมุมห้อง
“ขอโทษนะครับ” เรียวเอ่ยเสียงแผ่วเบา ก่อนจะประคบผ้าเย็นลงบนแก้มที่มีรอยแดงของหญิงสาวเบาๆ
คำขอโทษของเขาเหมือนจะใช้ขออนุญาต แต่อาการนิ่งขรึมกว่าปกติของเขา ทำให้เพลินพิศสัมผัสได้ว่ามันมีความหมายมากกว่านั้น หญิงสาวจึงถามเขาไป
“มาขอโทษฉันทำไม” ถามแล้วก็คว้าเอาผ้าจากมือเขามาประคบที่รอยช้ำด้วยตัวเอง
“ขอโทษที่ไม่ได้ตรวจดูความเรียบร้อยด้านหลังเวทีให้ดี แล้วก็ขอโทษที่ผมไปช้า จนทำให้คุณต้องเจ็บตัว...” เรียวกล่าวโทษตัวเองพลางสบตาหญิงสาวด้วยแววตารู้สึกผิด
“ไม่เป็นไร อย่าโทษตัวเองเลย คุณทำดีที่สุดแล้ว ไอ้รอยนี่ก็เพราะฉันเกิดอาการพูดมาก ดันไปหาเรื่องพวกมันเอง เลยโดนหมีตะปบเข้าให้” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงสดใส ไม่อยากให้เขารู้สึกผิดหรือโทษตัวเอง
“แต่ฉันก็ส่งมันลงไปนอนกองกับพื้นแล้วล่ะ”
เรียวได้ยินคำบอกเล่าก็นึกไปถึงไอ้โจรตัวยักษ์ที่นอนสลบอยู่ข้างรถ ดูจากสภาพคงโดนทุ่มแล้วหัวฟาดพื้นจึงสลบไป
งั้นสำหรับไอ้หมอนี่ คงต้องสอบสวนให้หนักหน่อย โทษฐานที่บังอาจมาฝากรอยแดงไว้บนใบหน้าของหญิงสาวที่เขายอมรับกับตัวเองแล้วว่าเป็นคนสำคัญต่อหัวใจ...
“ฉันว่ามันแปลกๆ อยู่นะคะ” เพลินพิศเห็นสายตาเย็นเยียบของเขาก็รู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก จึงต้องหาเรื่องเบี่ยงเบนความสนใจ ซึ่งดูจะได้ผลดีทีเดียว เพราะเขาเปลี่ยนกลับมามองเธอด้วยแววตานิ่งสงบเหมือนเก่า
“แปลกยังไงครับ”
“ก็ตอนที่ฉันถูกพาตัวลงมาจากเวที ปกติแล้วในห้องนี้จะต้องมีพี่ช่างแต่งหน้ากับช่างผมอยู่ แล้วก็ทีมงานอีกหลายๆ คน แต่นี่ฉันไม่เห็นใครเลยสักคน” หญิงสาวตั้งข้อสังเกต
เรียวพยักหน้าก่อนจะรับปากด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ผมจะตามดูเรื่องนี้อีกที”
“อย่าคิดมากเลยน่า คิ้วย่นจะเป็นคนแก่อยู่แล้ว” เพลินพิศแกล้งเย้าต่อเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้ากลับเข้าสู้โหมดคนเครียดอีกแล้ว
เรียวรับรู้ได้ว่าหญิงสาวพูดเพราะเป็นห่วงก็ผ่อนคลายความเครียดลงไปได้บ้าง จึงส่งยิ้มอ่อนๆ ไปให้ “ขอบคุณนะครับ”
“ฉันไม่ได้ทำอะไรให้สักหน่อย ขอบคุณทำไม” หญิงสาวรู้สึกร้อนวูบๆ เพราะนัยน์ตาสีดำสนิทของเขาแฝงแววแปลกๆ
“ผ้าผืนนั้น...” เรียวเปลี่ยนเรื่อง มองไปที่ผ้าผืนบางในมือหญิงสาว “จะเก็บไปเป็นคู่กับผืนที่แล้วก็ได้นะครับ มันจะได้ไม่เหงา” เรียวบอกด้วยน้ำเสียงและรอยยิ้มบางที่ทำให้เขาดูผ่อนคลายมากขึ้น
หญิงสาวที่เขินจนหน้าแดงเรื่อยังไม่ทันได้ตอบอะไร ลูกน้องคนหนึ่งก็เข้ามาเขาบอกว่าคุณหญิงฝันฟ้าเรียกพบ ชายหนุ่มจึงส่งยิ้มน้อยๆ แทนคำลาก่อนจะขอตัวจากไป
เมื่อบอดี้การ์ดหนุ่มเสร็จธุระกับคุณหญิงฝันฟ้าแล้วกลับมาที่หลังเวทีอีกครั้ง ก็ทันเห็นเพลินพิศในชุดลำลองสบายๆ ตามปกติของเธอกำลังเดินออกไปทางลานจอดรถพอดี เขาสั่งกำชับลูกน้องให้จัดการงานที่เหลือให้เรียบร้อย ก่อนจะเร่งฝีเท้าเดินตามหลังดาราสาวออกไป
“จะกลับแล้วหรือครับ” เรียวทักเธอทันทีที่เดินตามมาถึงรถ
“ค่ะ ทั้งเหนื่อย ทั้งหิว ทั้งง่วงเลย” เพลินพิศบอกไปตามที่รู้สึก เพราะเธออยากกลับไปกินอะไรอร่อยๆ ไปแช่น้ำอุ่นๆ แล้วก็นอนหลับบนเตียงนุ่มๆ จะแย่อยู่แล้ว
“ให้ผมขับไปส่งนะครับ”
หญิงสาวอึ้งไปเล็กน้อย “ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันกลับเองได้”
“คุ้มครองพยานไงครับ ถึงคุณไม่ให้ผมไปส่ง ยังไงผมก็ต้องขับรถตามคุณไปอยู่ดี” เรียวอ้างเหตุผล
“ตามใจแล้วกัน” สาวหมวยที่ง่วงตาปรือใกล้จะปิดเต็มทีขี้เกียจต่อความยาว ยอมส่งกุญแจในกระเป๋าให้คนตรงหน้า
อย่างน้อยก็ลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุจากการหลับในของเธอละนะ คิดแล้วเธอก็เดินไปเปิดประตูเข้าไปนั่งด้านข้างคนขับ
“จะเอนหลังหลับไปก็ได้นะครับ ผมจำทางได้ รับรองว่าถึงที่อย่างปลอดภัย ไม่มีหลงแน่นอน” เรียวติดเครื่องรถก่อนจะหันไปบอกหญิงสาว
“ไม่เป็นไรค่ะ คุยเป็นเพื่อนคุณดีกว่า เดี๋ยวไม่หลง แต่จงใจออกนอกเส้นทางแล้วฉันจะแย่เอา” เพลินพิศแหย่เล่นด้วยอารมณ์ขัน
“อย่าชี้โพรงให้กระรอกสิครับ” เรียวตอบด้วยรอยยิ้มทั้งที่ไม่ได้หันหน้ามา
“ถึงกระรอกจะอยากเข้าโพรง แต่ยามหน้าโพรงก็ถือปืนนะคะ” หญิงสาวเคาะนิ้วที่ช่องเก็บของตรงหน้า
“ไหนจะที่ช็อตไฟฟ้ากับสเปรย์พริกไทยอีก” เพลินพิศตบใต้เบาะที่นั่งก่อนจะลูบกระเป๋าถือด้วยแววตาเจ้าเล่ห์
เรียวได้ยินถึงกับต้องละสายตาจากท้องถนนมามองที่ยามเฝ้าโพรงสาวและหัวเราะในลำคอ
ขู่กันจริง ชักอยากลองออกนอกเส้นทางบ้างแล้วสิ
เพลินพิศรู้ดีว่าการเปิดเผยอาวุธให้ศัตรูรู้ตัวนั้นไม่ใช่เรื่องดีนัก แต่เธอมั่นใจเต็มร้อยว่าเขาคนนี้ไม่มีทางทำอะไรไม่ดีกับเธอแน่
แล้วเราไปเอาความมั่นใจนั้นมาจากไหนกันนะ?
เวลาผ่านไปไม่ถึงยี่สิบนาที กระรอกหนุ่มหน้านิ่งก็เริ่มแผลงฤทธิ์ เมื่อรถของหญิงสาวจอดติดไฟแดงอยู่ในช่องสำหรับเลี้ยวขวา ทั้งที่เลี้ยวซ้ายไปอีกไม่ไกลก็จะถึงที่พักของเธอแล้ว หญิงสาวหันขวับมาทางคนที่มองเธออยู่ก่อนแล้วตาขวาง
“หลงหรือเปล่าคุณ” เธอลองถามดูให้แน่ใจ
“เปล่าครับ” เรียวตอบกลับเต็มปากเต็มคำ เพราะพอใกล้ถึงที่พักของเธอ เขาก็เริ่มไม่อยากให้มันถึงเสียอย่างนั้น
“คอนโดฉันต้องเลี้ยวซ้ายนะ” เพลินพิศลองถามอีกที
“รู้ครับ” ชายหนุ่มตอบ พลางเก็บอาการขำกับสีหน้าหวาดระแวงของคนอวดเก่ง
เมื่อกี้ไม่น่าหลงผิดไว้ใจนายมาดนิ่งนี่เลย เพลินพิศร้องโวยในใจ ก่อนจะอำพรางความรู้สึกไว้ด้วยใบหน้าเรียบเฉย
แต่ชายหนุ่มยังสามารถจับปฏิกิริยาผิดปกตินั้นได้ จึงรีบแก้ตัวก่อนที่หญิงสาวจะไม่ไว้ใจแล้วหนีลงจากรถไปเสียก่อน
“ผมเห็นคุณบ่นหิว เลยจะพาไปทานข้าวก่อน กลัวว่าถ้ากลับไปที่ห้องแล้วจะไม่มีทานน่ะครับ” เรียวบอกขณะหมุนพวงมาลัยบังคับรถให้เลี้ยวขวา
“เอ่อ... จริงๆ แล้วฉันต้มบะหมี่กินที่ห้องจะดีกว่า” เพลินพิศพยายามเก็บอาการให้นิ่งเข้าไว้
“บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หรือจะสู้บะหมี่เกี๊ยวทำมือเจ้าอร่อย เถอะครับ... แค่ได้ยินรายชื่ออาวุธของคุณ ผมก็ไม่กล้าทำอะไรแล้ว” ชายหนุ่มบอกให้หญิงสาวสบายใจ
“รู้จักกลัวบ้างก็ดี” เพลินพิศพยักหน้าวางมาดข่ม “แล้วไปอีกไกลไหม”
“อีกไม่ถึงสิบนาทีครับ” เรียวหันไปสนใจกับการขับรถต่อ พลางเหลือบมองสาวเจ้าที่นั่งหลังตรงวางมาดข่มเป็นระยะ คนที่ทำฟอร์มว่าไม่กลัวเขาสักนิด แต่สายตากลับอยู่ไม่สุข หลุกหลิกมองซ้ายมองขวาจนชายหนุ่มต้องแอบยิ้มอยู่คนเดียว
อ่านต่อ >> ฉากที่ 8 : สิ่งที่ยังไม่ได้บอก
หรือเป็นเจ้าของความฟินกันแบบเต็มๆ ได้เลย!
สั่งซื้อรูปเล่ม... ที่เว็บ สนพ. Coolkat หรือร้านหนังสือออนไลน์
โหลดฉบับอีบุ๊ค... ได้ตามแหล่งที่ถูกใจเลยค่ะ
โหลดฉบับอีบุ๊ค... ได้ตามแหล่งที่ถูกใจเลยค่ะ
Meb : https://goo.gl/FockyR
The1Book : https://goo.gl/AR33tY
Hytexts : https://goo.gl/RL9qJX
Ookbee : https://goo.gl/iia4wb
NaiinPann : https://goo.gl/RczUnR
Dek-D : https://goo.gl/dqU2Zz
No comments:
Post a Comment