ตีพิมพ์ครั้งแรก โดย สนพ. คูลแคท
เผยแพร่ฉบับอีบุ๊ค โดย แก่นฝัน
เผยแพร่ฉบับอีบุ๊ค โดย แก่นฝัน
© สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามคัดลอกหรือดัดแปลงส่วนหนึ่งส่วนใดของนิยายเรื่องนี้
เพื่อนำออกเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต
001 : หนุ่มผู้กอง VS ลูกน้องสาว
ไอยราวัณเดินเข้ามาในที่ทำการของกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ ประจำกรมคดีพิเศษแต่เช้าด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสเป็นพิเศษ จนเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาอดที่จะเมียงมองมาอย่างแปลกใจไม่ได้ แม้ผู้บังคับบัญชาของตนจะเป็นคนสบายๆ อารมณ์ดี ไม่ใช่คนนิ่งขรึมอะไรนัก แต่ในช่วงที่ผ่านมานี้ งานที่รุมเร้าเข้ามาจากรอบด้านจนทำให้คนในทีมแทบจะหาวันหยุดกันไม่ได้ ก็ทำให้พวกเขาไม่ได้เห็นรอยยิ้มของผู้เป็นนายมาหลายสัปดาห์แล้ว
แล้วก็เป็นเหนือเมฆ... หมวดหนุ่มตี๋หน้าใสวัยยี่สิบปลายๆ ประจำโต๊ะหน้าห้องผู้กองหนุ่มที่กล้าเอ่ยทัก
“เช้านี้มีอะไรดีๆ หรือครับผู้กอง”
“ไม่รู้ว่าจะดีหรือไม่ดี นายรอดูเอาเองแล้วกัน” ไอยราวัณตอบพร้อมรอยยิ้มที่ไม่ได้ช่วยไขความข้องใจให้กับคนถามเลยสักนิด ก่อนจะหันไปทางโต๊ะที่อยู่ตรงข้ามกับผู้หมวดหนุ่มซึ่งเจ้าของยังไม่เข้ามาทำงาน “ถ้าพี่เนตรมาแล้วก็ให้เข้าไปหาฉันด้วยนะ”
เมื่อเห็นลูกน้องรับคำแข็งขัน ไอยราวัณก็พยักหน้าอย่างพอใจ เดินเข้าห้องทำงานของตัวเองไปโดยมีคนที่ยังค้างคาใจมองตามไปด้วยแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
หญิงสาวแปลกหน้าในชุดเสื้อเชิ้ตขาวตัดเย็บเก๋เข้ารูปกับกางเกงขายาวสีน้ำตาลเข้มที่ก้าวเข้ามาในที่ทำการกลุ่มตอนแปดโมงเศษ ทำให้เจ้าหน้าที่เกือบทุกคนต้องหันไปมองอย่างสนใจ ดวงตากลมโตของเธอกวาดมองไปทั่วห้องเพื่อหาใครสักคนที่พอจะช่วยเธอได้ สุดท้ายหญิงสาวก็เลือกที่จะสอบถามกับเจ้าหน้าที่ที่นั่งอยู่หลังโต๊ะด้านขวามือ
“ขอโทษนะคะ ฉันมาพบผู้กองไอยราวัณค่ะ”
“นัดไว้หรือเปล่า”
“ค่ะ” ละมุนพรรณนึกย้อนไปถึงคำสั่งกลายๆ ของสารวัตรเนติที่ให้เธอมาทำงานในวันจันทร์ โดยเข้ามาติดต่อรายงานตัวกับผู้กองไอยราวัณ ผู้ที่จะเป็นเจ้านายของเธอโดยตรง
มันก็คงจะเรียกว่านัดได้ล่ะมั้ง
แต่ยังไม่ทันที่จะได้คำตอบ หมวดหน้าตี๋ประจำกรมก็เดินตรงเข้ามาสมทบ “มีอะไรให้ตำรวจไทยหัวใจยังโสดรับใช้ครับ”
ละมุนพรรณได้ยินก็หันไปมองหน้าคนพูดทันที อมยิ้มขำคำพูดของชายหนุ่มผิวขาวจัดตัวสูงโปร่งที่ดูแล้วไม่ค่อยเหมือนตำรวจทั่วๆ ไปเท่าไหร่นัก ก่อนจะบอกจุดประสงค์ของเธอที่มาในวันนี้อีกครั้ง
เหนือเมฆยิ้มกว้างตอบรับรอยยิ้มเล็กๆ แต่จับตาคนมองของหญิงสาว มือขาวๆ ก็ผายไปตามทางเดินหลักของห้องทำงานโล่งกว้างที่มีฉากกระจกใสกั้นไว้เป็นสัดส่วน ให้เธอได้เห็นประตูกระจกฝ้าบานหนึ่งที่ปิดอยู่
“เชิญทางนี้เลยครับ น้อง...” ชายหนุ่มลากหางเสียงไว้เป็นคำถาม
“ละมุนพรรณค่ะ เรียกละมุนก็ได้” หญิงสาวยิ้มตอบไมตรีที่อีกฝ่ายมีให้ แล้วก็เดินตามหลังร่างสูงโปร่งของเขาเข้าไปด้านใน
“น้องละมุนมาขอพบครับผู้กอง” เหนือเมฆส่งเสียงบอก รอจนได้ยินเสียงทุ้มเข้มอนุญาตก็เปิดประตูให้หญิงสาว แถมยังเดินตามเข้าไปด้วย แต่เมื่อเห็นคนเป็นนายมองเหมือนจะไล่ ผู้หมวดหนุ่มก็หาเรื่องยังไม่ยอมออกจากห้องง่ายๆ
“รับน้ำ ขนม หรือของว่างอะไรดีครับผู้กอง”
“ไม่ใช่หน้าที่ของนายไม่ใช่เหรอ” เจ้าของห้องดักทางอย่างรู้ทันความ ‘อยากรู้’ ของลูกน้อง
“หมวดเนตรท้องแก่มากแล้วนะครับ ผมเลยอยากช่วยแบ่งเบาภาระ” ผู้หมวดหนุ่มตอบหน้าเป็น
“ของฉันไม่ต้อง” ไอยราวัณบอกปัด ก่อนจะหันไปถามกับหญิงสาวที่ยืนเงียบอยู่ “เธอล่ะ จะเอาอะไรไหม”
“ไม่ล่ะค่ะ ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวตอบ ก่อนจะหันไปขอบคุณน้ำใจของหมวดหนุ่มด้วยรอยยิ้มกว้างกว่าเดิม
จนเมื่อลูกน้องจอมวุ่นออกจากห้องไปแล้ว ไอยราวัณก็มองพิจารณาหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาอย่างละเอียด ดวงตากลมโตของเธอเป็นจุดเด่นบนใบหน้า และยิ่งดูน่ามองขึ้นเมื่อมันหยีเล็กเป็นประกายเพราะรอยยิ้มเมื่อครู่ของเธอ จมูกโด่งเชิดกับริมฝีปากบางที่เม้มแน่นก็บ่งบอกความดื้อเงียบของเธอได้ชัดเจน วันนี้ใบหน้าของหญิงสาวมีสีสันจากการตกแต่งด้วยเครื่องสำอางอ่อนๆ ไม่ได้ขาวนวลซีดแบบที่เจอกันเมื่อวันก่อน
แต่... ให้ตายเถอะ! ดูยังไงก็ไม่ถึงยี่สิบ และยิ่งไม่อยากเชื่อเข้าไปใหญ่ว่าจะเป็นแฮกเกอร์ฝีมือดีระดับเจาะระบบที่เขาดูแลอยู่ได้
“อ่าฮะ!” เสียงอุทานของแฮกเกอร์สาวทำให้ผู้กองหนุ่มหลุดจากความคิดของตัวเอง แล้วมองหน้าใสๆ ที่เบิ่งตาโตมองเขาอย่างตื่นเต้น “ฉันจำคุณได้แล้ว... คุณที่เป็นคนเดียวกับสิงห์นักบิดที่อยู่กับสารวัตรเนติตอนนั้นนั่นเอง”
“แล้วทำไม มีอะไรให้ต้องตื่นเต้นดีใจขนาดนั้น”
“ก็ไม่ทำไมค่ะ พอดีฉันไปเจอคุณอีกครั้งแว้บๆ เมื่อวันเสาร์ แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออกว่าเคยไปคุ้นหน้าคุณตอนไหน มันเลยค้างๆ คาๆ อยู่น่ะค่ะ แต่ตอนนี้ก็โล่ง... แล้วค่ะ เฮ้อ...” ละมุนพรรณไขข้อสงสัยของชายหนุ่มยืดยาว การที่เธอรู้สึกคุ้นหน้าใครแต่จำที่มาไม่ได้นั้นเป็นสิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกขัดใจเป็นอย่างมาก เพราะมันบั่นทอนความภูมิใจในการเป็นคนความจำดีของตัวเองลงไปไม่น้อย
“เอาเถอะ นั่งก่อนสิ ก่อนที่เธอจะเริ่มงาน เรามีข้อตกลงเกี่ยวกับกฎระเบียบกันสักหน่อย” ผู้กองหนุ่มตีมาดนิ่งจริงจังเข้าใส่ลูกน้องคนใหม่ ไม่ยอมใจอ่อนให้กับรอยยิ้มใสซื่อเหมือนเด็กๆ ของอีกฝ่าย “นี่เป็นระเบียบในการทำงานที่นี่”
ละมุนพรรณหยิบกระดาษที่มีคำว่า ‘ลับเฉพาะ’ ตัวแดงประทับอยู่ตรงหัวมุมมาอ่านทันทีอย่างสนใจ แต่ยังไม่ทันพ้นครึ่งหน้าแรก หญิงสาวก็เงยหน้าขึ้นมาโวยค้านอย่างรับไม่ได้
“อะไรกัน! ทำงานเจ็ดวัน จันทร์ถึงอาทิตย์ ไม่มีวันหยุดเลยงั้นเหรอคะ! จะไม่โหดร้าย ใช้แรงงานกันเกินไปหน่อยหรือไงคะ”
“คำสั่งมาอย่างนั้น ฉันแค่มีหน้าที่ควบคุมให้เธอปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด” ไอยราวัณยักไหล่บอกด้วยน้ำเสียงเฉยเมยติดจะรำคาญ “ทนเอาหน่อยเถอะ แค่สามเดือนเท่านั้นเอง”
“สามเดือนเชียวนะคะ ที่ฉันจะไม่มีวันหยุดอย่างคนอื่นเค้า” ละมุนพรรณพึมพำอย่างทรมานใจ ต้องตื่นเช้ามาทำงานทุกวัน ตายทั้งเป็นชัดๆ
“โทษจำคุกก็ไม่มีวันหยุดเหมือนกัน แต่อาจจะสบายกว่าที่ไม่ต้องทำงาน เธอจะเอาอย่างนั้นไหม จะได้ช่วยทำเรื่องให้”
หญิงสาวได้ยินก็ปิดปากเงียบสนิท รีบส่ายหน้าแล้วก้มอ่านเอกสารในมือต่อ ในขณะที่หูก็มีประโยคคล้ายจะกล่าวโทษเธอของผู้กองหนุ่มลอยเข้ามาให้ได้ยิน
“แล้วก็ไม่ใช่แค่เธอสักหน่อยที่จะไม่ได้มีวันหยุด ฉันในฐานะผู้คุมความประพฤติของเธอก็ต้องมาทำงานทุกวันเหมือนกัน”
“งั้นก็เอาอย่างนี้สิคะ!” แฮกเกอร์สาวยื่นข้อเสนออย่างมีความหวัง “เราก็นัดกันหยุดงานสักวัน เอาแค่วันอาทิตย์ก็ได้ ฉันไม่บอก คุณไม่บอก ไม่มีใครรู้หรอก น่า... นะ”
ไอยราวัณสบตาเป็นประกายเจ้าเล่ห์ของหญิงสาวแล้วต้องส่ายหน้าปลง “คิดจะติดสินบนหรือไง”
“ติดสินบนที่ไหน อย่ามาโยนข้อหาให้กันสิ ฉันยังไม่ได้เสนอให้ของมีค่าคุณสักอย่าง”
เมื่อเห็นว่าการเจรจาไม่เป็นผล สาวหน้าหวานก็ชักสีหน้าบูดบึ้ง ขมุบขมิบปากอ่านกฎระเบียบข้อบังคับในมือต่อ
“หากมีเหตุทำให้มาปฏิบัติงานไม่ได้ ต้องแจ้งผู้บังคับบัญชาให้รับทราบภายในหนึ่งวัน และต้องทำงานชดเชยเป็นเวลาสองเท่าของเวลางานที่ขาดไป...”
ยิ่งอ่าน หญิงสาวก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองถูกเอารัดเอาเปรียบ แล้วเธอก็ต้องเพิ่มเสียงกระแทกกระทั้นในข้อที่รับไม่ได้อย่างแรง
“ห้ามใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในการเจาะระบบอื่นๆ นอกเหนือจากการทำงานทุกประเภท ตลอดเวลาสามเดือน... จะบ้าหรือไง!”
“เธอควรจะรู้ตัวหน่อยนะ ว่าที่เคยทำมามันผิดกฎหมาย” ผู้กองหนุ่มเตือนนิ่งๆ “คำสั่งจากเบื้องบนมายังไงก็ต้องปฏิบัติไปตามนั้น ไม่ต้องสงสัย ไม่ต้องคัดค้านอีก ถ้าเป็นโทษจำคุกเธอจะต้องทนกับอะไรแย่ๆ กว่านี้อีกเยอะ”
ละมุนพรรณตวัดสายตาขุ่นใส่คนช่างขู่
เดี๋ยวก็ขอลองติดคุกดูซะเลยเป็นไง...
แต่หญิงสาวก็ต้องรีบสะบัดหน้าขับไล่ความคิดที่วูบขึ้นมาของตัวเอง
“ส่ายหน้าแบบนั้น แปลว่าไม่เห็นด้วยงั้นเหรอ” ไอยราวัณถามซ่อนรอยยิ้ม ชักสนุกกับการมองสีหน้าที่เปลี่ยนสลับไปมาตามอารมณ์ของหญิงสาว
คิดยังไงก็ออกมากับหน้าตาหมดอย่างนี้ ยังเด็กจริงๆ นั่นแหละ...
“เปล่าค่ะ แค่เส้นมันกระตุก”
คนถามแทบจะหลุดหัวเราะขำออกมากับคำแก้ตัวแบบขอไปทีของหญิงสาว แต่ต้องพยายามเปลี่ยนเป็นเสียงกระแอมไอในลำคอเพื่อกลบเกลื่อน ไม่อยากให้สาวน้อยตรงหน้าคนนี้ได้ใจและไม่เคารพเกรงกลัวเขา
“ยังมีปัญหาอะไรอีกไหม” ผู้กองหนุ่มถาม
“คำสั่งเบื้องบนมีมาอย่างนี้ ใครจะกล้าสงสัย กล้าคัดค้านอีกล่ะคะ เดี๋ยวคุณผู้กองโมโหจับยัดใส่คุกก็แย่พอดี” แม้จะยอมแพ้ แต่ละมุนพรรณยังไม่ทิ้งลายพยศ ย้อนประชดชายหนุ่มที่เอาแต่ตีหน้าดุด้วยน้ำเสียงรวน
“ไม่มีก็ดี เดี๋ยวจะพาไปหาพี่เลี้ยงของเธอ” ไอยราวัณยังวางหน้าเฉยไม่ถือสา ขยับลุกขึ้นยืนและเดินไปผลักบานประตูให้เปิดแง้มออก
“ค่า... ท่านผู้กอง” หญิงสาวลุกขึ้นรับคำเสียงยานหวังกวนอารมณ์คนฟัง แต่ผู้กองหนุ่มก็ยังเฉยเหมือนไม่รู้สึกอะไรกับสิ่งที่เธอทำแม้แต่น้อย
ไอยราวัณพาหญิงสาวมาหยุดอยู่ไม่ห่างจากประตูหน้าห้องของเขานัก ที่หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่มีหญิงสาวในชุดคลุมท้องสีฟ้าเรียบๆ นั่งก้มหน้าอ่านเอกสารอยู่
“พี่เนตรครับ”
เสียงเรียกที่นุ่มนวลแตกต่างจากที่ใช้กับเธอลิบลับทำเอาละมุนพรรณถึงกับเหลือบตาไปดูว่าใช่ผู้กองคนเดียวกับที่พูดเสียงเข้มกับเธอหรือเปล่า แต่เสียงนั้นก็กลับมาเข้มงวดอย่างเดิมเมื่อเขาหันมาบอกกับเธอ
“นี่ผู้หมวดเนตรทิพย์ จะช่วยสอนงานให้ในอาทิตย์แรกนี้ ต่อจากนั้นเธอต้องทำงานในส่วนของหมวดเนตรที่จะลาคลอดตั้งแต่อาทิตย์หน้าทั้งหมด”
“สวัสดีค่ะ” ละมุนพรรณหันไปเปิดรอยยิ้มกว้างทักทายเป็นการสานไมตรีเต็มที่ สาวรุ่นพี่เองก็ยิ้มตอบมาอย่างอ่อนหวาน และเริ่มเปิดบทสนทนาทำความรู้จัก โดยมีหนุ่มตี๋อัธยาศัยดีจากโต๊ะฝั่งตรงข้ามตรงรี่เข้ามามีส่วนร่วมด้วย
“ช่วยกันดูแลเด็กใหม่ให้ดีแล้วกัน” ไอยราวัณฝากฝังก่อนจะปลีกตัวกลับเข้าห้องทำงานของเขาไป
ทันทีที่ผู้กองหนุ่มกลับเข้ามาอยู่ในห้องเพียงลำพัง ใบหน้าที่เคยตีให้เรียบก็มีรอยยิ้มกว้างแตะแต้มขึ้นมาทันที ชายหนุ่มเดินตรงเข้าไปหยิบเอกสาร ‘ลับเฉพาะ’ ที่แฮกเกอร์สาวทิ้งเอาไว้บนโต๊ะขึ้นมาอ่านทวนอีกรอบ... หลังจากที่เป็นคนตั้งกฎและจัดพิมพ์ขึ้นมาเองกับมือ
ไอยราวัณจัดการเก็บซ่อนหลักฐานของการแก้เผ็ดโทษฐานที่แฮกเกอร์สาวเจาะระบบเข้ามาเหยียบจมูกเขาหลายต่อหลายครั้ง แถมยังชิงตัดหน้าจัดการไวรัสตัวปัญหาในระบบของเขาไปได้เสียอีก นึกย้อนไปถึงสีหน้าของคนบางคนตอนที่ได้อ่านกฎข้อบังคับสุดโหดของเขาแล้วก็กลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่
คำสั่งจากเบื้องบนที่ไหนไม่มีทั้งนั้นล่ะ มีแต่คำสั่งจากลุงเจ้าพ่อคนนี้นี่แหละ... หนูนางงาม
ละมุนพรรณใช้เวลาครึ่งเช้าแรกในการเดินตามผู้หมวดหนุ่มหน้าตี๋ ที่แต่งตั้งตัวเองเป็นผู้ช่วยพี่เลี้ยงของเธอไปแนะนำตัวให้เจ้าหน้าที่ในกลุ่มอื่นๆ ได้รู้จัก จนเมื่อผู้หมวดหนุ่มพาตระเวนทัวร์ครบทุกกลุ่มหลักๆ เขาก็พาเธอกลับมาส่งคืนให้สาวรุ่นพี่ที่นั่งทำงานรอไปพลาง
“พาน้องละมุนมาคืนแล้วครับพี่เนตร” เหนือเมฆบอกกล่าวก่อนจะเดินแยกกลับไปที่โต๊ะฝั่งตรงข้าม เพื่อเริ่มงานในส่วนของตนเองบ้าง
หมวดเนตรทิพย์เงยหน้าขึ้นจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ ส่งยิ้มใจดีให้กับหญิงสาวที่ก้าวเข้ามานั่งประจำโต๊ะตัวเล็กที่ถูกจัดไว้ชั่วคราวข้างๆ โต๊ะของเธอ แล้วเอ่ยซักถามชวนพูดคุย “นายเหนือพาไปอวดถึงไหนล่ะจ๊ะ หายไปนานเชียว”
“สามสี่ชั้นแถวๆ นี้แหละค่ะ แต่เมื่อกี้... แอบแวะไปพักเบรกที่ร้านกาแฟข้างล่างมาด้วย” ประโยคหลังหญิงสาวยื่นหน้าเข้ามาใกล้และลดเสียงลงเป็นกระซิบ สองตาก็มองไปทางประตูห้องทำงานที่ปิดอยู่ราวกับกลัวว่าคนในนั้นจะมาได้ยิน ก่อนจะยื่นถุงกระดาษสีน้ำตาลอ่อนประทับตราร้านกาแฟที่พูดถึงให้ว่าที่คุณแม่วัยสามสิบตอนปลาย
“ละมุนซื้อมาฝากพี่เนตรด้วยนะคะ เห็นพี่เหนือบอกว่าพี่ชอบ”
“ขอบใจจ้ะ” หมวดสาวรุ่นพี่ยิ้มบอก ก่อนจะแกะห่อขนมออกมาวางไว้บนโต๊ะ หยิบคุกกี้อัลมอนด์ช็อกโกแลตชิพชิ้นแรกขึ้นมาจัดการ พร้อมด้วยการเริ่มเล่าถึงหน้าที่และคดีที่อยู่ในขอบข่ายความรับผิดชอบของเธอให้แฮกเกอร์สาวได้รับรู้ ซึ่งน้องใหม่ของแผนกคนนี้ก็ฉายแววฉลาดเฉลียวเรียนรู้ไวให้เห็นอย่างชัดเจน
หน้าที่หลักๆ ของผู้หมวดสาวคือ คอยเช็กอีเมล์แจ้งเบาะแสเกี่ยวกับเว็บไซต์ที่มีข้อความไม่เหมาะสม ผิดกฎหมายหรือมีอะไรก็ตามที่น่าสงสัยว่าอาจเป็นการหลอกลวงประชาชน ซึ่งมีเครือข่ายสายตรวจไซเบอร์หรือไม่ก็ประชาชนทั่วไปแจ้งเข้ามา จากนั้นก็ติดตามเข้าไปตรวจสอบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ และหากพบว่ามีความผิดจริงก็ต้องทำการบล็อกเว็บไซต์นั้นไว้ชั่วคราวรอการดำเนินการสืบสวนขั้นต่อไป แต่งานเหล่านี้ก็ไม่ใช่งานเบาๆ สบายๆ เลย เพราะในแต่ละวันมีข้อร้องเรียนเข้ามามากมาย และถึงแม้จะจัดการกับเว็บไซต์นั้นได้แล้ว เจ้าของก็สามารถดิ้นหนีไปเปิดใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ต้องเสียเวลากับปัญหาเดิมๆ ซ้ำซากหลายครั้งหลายหนราวกับงานพวกนี้จะไม่มีวันจบสิ้น
“เราบล็อกไป พวกเขาก็หนีไปเปิดใหม่ได้อยู่ดี สู้เราส่งไวรัสไปบึ้มคอมพ์ของไอ้เจ้าของเว็บเลยดีกว่า สั่งสอนให้รู้ซะบ้างว่าที่ทำอยู่มันผิด” โปรแกรมเมอร์หน้าหวานบอกด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดกับความชักช้ายืดยาดของระบบแก้ไขปัญหาที่ปฏิบัติกันมา
“เรายังต้องอยู่ในระเบียบและกติกาของกฎหมายนี่จ๊ะ” เนตรทิพย์บอกสอนอย่างใจเย็น “ด้วยหน้าที่ของเรา เรามีสิทธิจัดการเพียงเบื้องต้นเท่านั้น ถ้าจะให้เด็ดขาดจริงๆ จังๆ ก็ต้องยื่นเรื่องฟ้องศาลและให้ศาลสั่งปิดหรือเอาผิดกับเจ้าของเว็บไซต์อีกที”
“กว่าจะได้ลงโทษคนทำผิดก็รอจนรากงอกพอดี ถ้าใช้วิธีละมุนนะ รับรอง... รวดเร็วทันใจ แล้วก็สะใจกว่าเยอะ” หญิงสาวทุบกำปั้นลงบนฝ่ามืออย่างมั่นใจในฝีมือของตน
“เอาน่า... อย่าเพิ่งรีบโมโหไปเลย แต่นี่ก็ใกล้จะเที่ยงแล้วล่ะ วันนี้พี่ขอเลี้ยงมื้อกลางวันน้องใหม่แล้วกันนะ” สาวรุ่นพี่เบี่ยงความสนใจของสาวไฟแรงเจ้าของความคิดหวังดีที่ออกจะนอกกรอบไปสักนิด ในขณะที่หมวดสาวกำลังจัดเก็บรวบรวมเอกสารที่กระจัดกระจายอยู่บนโต๊ะนั่นเอง ประตูกระจกของห้องด้านในก็ถูกผลักเปิดออก ตามด้วยร่างสูงของเจ้าของห้องที่ก้าวตรงมายังโต๊ะทำงานของสองสาวด้วยมาดสบายๆ
“ยังไม่ลงไปทานข้าวอีกหรือครับพี่เนตร เดี๋ยวสาวน้อยในท้องจะหิวเอานะครับ” ไอยราวัณเอ่ยถามกับผู้หมวดสาวอย่างสนิทสนมคุ้นเคยกันดี
“วันนี้สาวน้อยของพี่ไม่หิวหรอกค่ะผู้กอง ได้ขนมบรรณาการจากน้าละมุนมาแล้ว” ว่าที่คุณแม่ขยับถุงขนมอวดคนมาใหม่ ทำเอาทั้งผู้กองหนุ่มและแฮกเกอร์สาวต่างจ้องมองถุงขนมในมือของสาวรุ่นพี่กันเป็นตาเดียว
ละมุนพรรณอยากจะรีบห้ามสาวรุ่นพี่หรือไม่ก็คว้าขนมถุงนั้นมาซ่อนให้พ้นสายตาจับผิด แต่คงไม่ทันเสียแล้ว ไม่เข้าใจหมวดพี่เลี้ยงที่เปิดเผยหลักฐานการโดดงานของเธอได้หน้าตาเฉยเลยจริงๆ หญิงสาวก้มหน้า เตรียมพร้อมรับฟังเสียงเข้มงวดของหัวหน้าเฉพาะกิจดุว่าเต็มที่
ส่วนทางผู้กองไอยราวัณ หากเป็นลูกน้องคนอื่นเขาคงไม่มีปัญหาอะไรกับการหลบหายไปจากแผนกเพียงแค่นี้ หากว่ามันไม่กระทบกับงานและหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย แต่เมื่อหันไปเห็นอาการตื่นๆ ของแฮกเกอร์สาว ชายหนุ่มก็อดที่จะสวมวิญญาณโหดขึ้นมาไม่ได้
“เวลางานของเราคือ แปดโมงเช้าถึงสี่โมงเย็น นอกจากพักกลางวันแล้วก็ไม่มีพักเบรกตอนเช้าหรือบ่ายใดๆ ทั้งสิ้น อย่าให้มีครั้งต่อไปอีกแล้วกัน”
“ค่า.. ค่ะๆ” ละมุนพรรณรับคำเสียงเหนื่อยกับบรรดากฎระเบียบ ก่อนจะหันไปหยิบกระเป๋าจากโต๊ะของเธอ จึงไม่ทันได้เห็นหมวดรุ่นพี่ส่งสายตาสงสัยไปให้ผู้บังคับบัญชาที่วันนี้ดูจะเข้มงวดกับเด็กใหม่ผิดปกติ ผู้กองหนุ่มเพียงขยิบตาและส่งยิ้มที่มุมปากไปให้แทนคำอธิบายมาให้ หมวดสาวก็เข้าใจว่าชายหนุ่มคงอยากแกล้งขู่น้องใหม่เล่นเท่านั้น
“แล้วจะลงไปกันหรือยังครับ”
“จะไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ ว่าจะพาน้องใหม่ไปเลี้ยงร้านลุงป้าด้วย คงต้องรีบหน่อย” เนตรทิพย์ตอบแล้วก็ค่อยๆ ลุกขึ้นอย่างระมัดระวัง
“งั้นพี่เนตรค่อยๆ เดินไปก็ได้นะครับ เดี๋ยวผมล่วงหน้าไปจองโต๊ะไว้ให้ก่อน” ผู้กองหนุ่มนับเอาตัวเองร่วมโต๊ะกับลูกน้องอย่างไม่ถือตัว อาสาจบก็หมุนตัวเตรียมจะออกเดิน แต่กลับมีเสียงของผู้หมวดสาวเรียกเอาไว้ก่อน
“เดี๋ยวค่ะ ผู้กองจะไปนั่งรออยู่คนเดียวหรือคะ พี่เกรงใจจัง ให้นายเหนือไปเป็นเพื่อนดีกว่า” เนตรทิพย์เสนอ ก่อนจะส่งเสียงข้ามฝากไปทางชายหนุ่มที่ยังไม่ยอมผละออกมาจากหน้าจอของตัวเองเสียที
“วันนี้ผมขอสละสิทธิ์ฮะ กำลังพัวพันกับโต๊ะบอลออนไลน์อยู่เลย แต่ถ้ามีใครใจดีหิ้วกะเพราหมูนุ่มไข่ดาวไม่สุกมาฝากผมกล่องหนึ่งก็จะเป็นพระคุณมาก” หมวดเหนือเมฆส่งเสียงไหว้วาน ก่อนจะหันไปจดจ่อกับสิ่งที่อยู่บนหน้าจอตามเดิม
“งั้น... ละมุน ไปเป็นเพื่อนผู้กองก่อนนะจ๊ะ เดี๋ยวพี่กับพี่โก้จะตามไป” เนตรทิพย์หมายถึงสามีของเธอที่ทำงานอยู่คนละฝ่าย
ละมุนพรรณได้ยินคำตัดสินใจของรุ่นพี่แล้วก็ทำหน้าแหย อยากจะปฏิเสธมากกว่า แต่เธอก็ไม่มีโอกาสนั้น เมื่อผู้กองหนุ่มหันมาพยักหน้าให้เธอเดินตาม ก่อนที่เขาจะเดินล้วงกระเป๋านำออกไป
เมื่อมาถึงร้านลุงป้า จำนวนลูกค้าที่นั่งอยู่หนาตาเป็นเครื่องยืนยันความนิยมในร้านนี้ได้เป็นอย่างดี ไอยราวัณรีบตรงเข้าไปจับจองโต๊ะเสริมหน้าร้านที่เพิ่งมีคนลุกออกไป และไม่ลืมความเป็นสุภาพบุรุษเล็กๆ น้อยๆ อย่างการขยับเก้าอี้ให้ลูกน้องสาว ก่อนที่ตัวเขาจะนั่งลงบนเก้าอี้ตัวที่อยู่ข้างๆ ด้วยท่าทางสบายๆ
“สั่งอะไรดีล่ะ”
“ไม่รอพี่เนตรก่อนหรือคะ” ละมุนพรรณถามเตือนกับคนที่กำลังจดรายการอาหารลงกระดาษแผ่นเล็ก
“เราก็สั่งของเรากันก่อน โต๊ะจะได้ไม่ว่างให้คนที่ไม่ได้โต๊ะเขาด่าในใจ ว่าไอ้สองคนนี้มานั่งทำไมให้เปลืองที่ ว่าไงล่ะ... อยากทานอะไร”
ละมุนพรรณหันซ้ายหันขวาก็ไม่เห็นจะมีเมนูให้ดูเลยสักแผ่น จึงเสสายตาลงไปอ่านรายการที่เจ้าถิ่นจดลงกระดาษใบเล็ก แล้วบอกอย่างง่ายๆ “เหมือนผู้กองก็ได้ค่ะ”
ไอยราวัณยักไหล่ให้เธอหนึ่งที ก่อนจะขีดฆ่าเลขหนึ่งเปลี่ยนเป็นเลขสอง แล้วยกขึ้นโบกเรียกให้เด็กเสิร์ฟมารับไป “เลี้ยงง่ายดีเหมือนกันนะ”
ไม่ถึงห้านาที ข้าวหมูทอดกระเทียมหอมฉุยโปะไข่ดาวดูน่ากินสองจานก็ถูกยกมาเสิร์ฟ ละมุนพรรณมองไข่ดาวฟองสวยแล้วตีหน้ายุ่งนิดๆ หญิงสาวใช้ส้อมสะกิดผิวของไข่ดาวเป็นรูเล็กๆ และเมื่อมันมีไข่แดงไหลเยิ้มออกมา ริมฝีปากบางสีสดก็บิดบึ้งอย่างขัดใจ จนไอยราวัณที่จับตามองอยู่อดที่จะหลุดหัวเราะขำออกมาไม่ได้ ...ทำหน้าทำตาเหมือนเจ้าสองลิงที่บ้านเลยแฮะ
“ไม่กินก็เอามานี่มา เดี๋ยวฉันสั่งให้ลุงทอดแบบสุกๆ ให้ใหม่”
ละมุนพรรณได้ยินเสียงกลั้วหัวเราะนั้นแล้วก็ต้องเงยหน้าขึ้นมามองคนที่กำลังใช้ช้อนส้อมหนีบไข่ดาวตัวปัญหาออกไปจากจานของเธอ แล้วก็ยิ่งประหลาดใจเมื่อเขาส่งยิ้มกว้างมาให้จนแทบจะเห็นฟันสวยๆ ครบสามสิบสองซี่
“...ไม่กินไข่ดิบเหมือนเด็กๆ ที่บ้านฉันเลยนะ” ว่าแล้วชายหนุ่มเจ้าของรอยยิ้มสวยก็ไม่ลืมหันไปตะโกนสั่งไข่ดาวฟองใหม่ให้เธอด้วย
“เอาใหม่ซิคะ” หญิงสาวเอ่ยกับชายหนุ่ม
“ก็สั่งให้ใหม่แล้วไง”
“ไม่ใช่... ฉันหมายถึงยิ้มน่ะค่ะ ยิ้มใหม่อีกทีซิคะ” หญิงสาวรบเร้าอีกครั้งอย่างตื่นเต้น “ไม่คิดเลยนะเนี่ย...ว่าผู้กองจะยิ้มสวย”
“เธอสั่งให้ยิ้มแล้วฉันก็ต้องยิ้มหรือไง” ไอยราวัณรู้ตัวว่าหลุดออกไปวูบใหญ่ก็วางตัวนิ่งเฉยยิ่งกว่าเดิม
“ก็ฉันอยากให้แน่ใจว่าไม่ได้ตาฝาดนี่คะ รู้ไหม ตั้งแต่เช้าผู้กองยังไม่ยิ้มให้ฉันเลยสักครั้ง เอาแต่หน้าบึ้ง ทั้งที่ผู้กองก็พูดจายิ้มแย้มกับลูกน้องดี จนอดคิดไม่ได้ว่าผู้กองต้องเกลียดอะไรฉันแน่ๆ”
“ไม่ได้เกลียดหรอก” ผู้กองหนุ่มค้านความคิดของเธอแค่สั้นๆ
“แค่ไม่ชอบใช่ไหมล่ะ” แฮกเกอร์สาวต่อให้ทันที... จะมีตำรวจที่ไหนจะชอบพวกที่ชอบท้าทายกฎหมายอย่างแฮกเกอร์ ก็พอๆ กับเธอที่ไม่ค่อยถูกชะตากับพวกคนในเครื่องแบบนั่นล่ะ
แต่ยังไม่ทันที่ไอยราวัณจะได้ตอบอะไร ไข่ดาวสีเหลืองทองฟูกรอบก็ถูกนำมาวางลงกลางโต๊ะ ละมุนพรรณมองดูมันแล้วค่อยยิ้มออกมาอย่างถูกใจ
“ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวส่งยิ้มหวานไปให้ผู้ร่วมโต๊ะอย่างไม่สนใจว่าท่าทีของอีกฝ่ายจะเป็นอย่างไร
“ไม่เป็นไร” ไอยราวัณกระแอมในลำคอเรียกหาเสียงขรึมๆ มาตอบ หลังจากที่โดนรอยยิ้มสวยๆ จากใบหน้าหวานๆ จู่โจมเข้าอย่างจัง “ลงมือเลยเถอะ คนรอโต๊ะเขาจ้องเราใหญ่แล้ว”
เป็นเวลาเกือบบ่ายโมง ที่ผู้กองไอยราวัณกับลูกน้องสาวทั้งเก่าและใหม่จะเดินกลับเข้ามาในที่ทำงาน โดยไม่ลืมหอบหิ้วกล่องข้าวตามคำไหว้วานของหมวดตี๋มาด้วย
“ขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งเลยครับผู้กอง ผมนึกว่าตัวเองจะถูกลืม ต้องหิ้วท้องรอเก้อซะแล้ว” เหนือเมฆรับถุงข้าวกล่องไปพร้อมแสดงท่าทางซาบซึ้งเกินเหตุ “เกรงใจผู้กองจังฮะ หิ้วมาให้แล้วยังจะเลี้ยงผมอีก แต่ถ้าพรุ่งนี้ได้อย่างนี้อีกก็ดีนะฮะ”
คนที่เจอลูกน้องโมเมหน้าซื่อต้องส่ายหน้า จะเออออเล่นด้วยอย่างเคยก็ติดกับสายตาของลูกน้องคนใหม่ที่มองอยู่ จึงตอบกลับไปแบบไม่ให้เสียเหลี่ยมตำแหน่งผู้บังคับบัญชานัก
“ถ้านายเคลียร์คดีโต๊ะบอลได้ภายในสามวันนี้ ฉันจะเลี้ยงข้าวกลางวันนายทั้งเดือนเลยเป็นไง” ไอยราวัณเอามื้อกลางวันเข้าล่อเพิ่มแรงจูงใจในการหาตัวเจ้าของเงินทุนและโต๊ะบอลออนไลน์ที่กำลังอยู่ในความรับผิดชอบของหมวดหนุ่ม
“ขอเพิ่มเป็นภายในสามอาทิตย์ ยังจะพอมีโอกาสได้กินเงินผู้กองบ้างนะฮะ” หมวดเหนือเมฆโอดครวญ การจะสาวไปถึงตัวการที่อยู่เบื้องหลังโต๊ะบอลที่มีที่ทางเป็นหลักแหล่งก็ว่ายากแล้ว แต่นี่เป็นในโลกอินเตอร์เน็ต ยิ่งยากกว่างมเข็มในมหาสมุทรเสียอีก
“ไม่ลองก็ไม่รู้หรอก ฉันรู้ว่านายมีฝีมือ” ไอยราวัณเอ่ยให้กำลังใจ ก่อนจะแยกย้ายกลับเข้าไปในห้องทำงาน
“จริงสิ! ผมลืมบอกว่าเบอร์สองมารอพบผู้กองในห้องตั้งแต่เที่ยง หลังผู้กองออกไปไม่นาน” เหนือเมฆรีบแจ้งข่าว ซึ่งก็ทำให้เขาได้สายตาตำหนิส่งตรงจากผู้กองหนุ่มที่เขายอมปล่อยให้มีคนนอกเข้าไปในห้องทำงานง่ายๆ
“ผมไม่มีนโยบายชอบทำให้ผู้หญิงสวยๆ เสียใจนี่ครับ ไม่เหมือน...” หมวดเหนือเมฆรีบแก้ตัว
“จบให้สวยนะไอ้หมวดเหนือ” ผู้กองหนุ่มที่กำลังจะถูกกล่าวหายกมือกอดอกส่งสายตาคาดโทษ
“ไม่เหมือน... ไม่เหมือนผู้หญิงไม่สวยฮะ จะเสียใจเท่าไหร่ผมก็ไม่สนใจเล้ย... นิสัยอย่างผมมันแย่ แย่จริงๆ เลยนะครับผู้กอง เฮ้อ...” หมวดหนุ่มเอาสีข้างเข้าถูจนรอดไปได้
“ไอย์! กลับมาแล้วหรือคะ” หญิงสาวที่ผลักประตูออกมาส่งเสียงขัดจังหวะสองหนุ่ม ก่อนที่ร่างโปร่งบางจะเดินตรงเข้ามาคว้าแขนของผู้กองหนุ่มไว้อย่างสนิทสนม “ดาวมารอตั้งนานแน่ะ”
“ผมไม่รู้ว่าดาวจะมานี่ครับ” ไอยราวัณวางตัวเฉย ก่อนจะชวนหญิงสาวให้เข้าไปคุยกันในห้อง เพื่อหลบสายตาอยากรู้อยากเห็นของเหล่าลูกน้อง
เมื่อบานประตูกระจกฝ้าปิดลง หนึ่งหมวดหนุ่มและสองสาวต่างวัยก็ก้าวเข้ามารวมตัวกันทันที
“ผู้กองของพวกพี่นี่เสน่ห์แรงไม่เบานะคะเนี่ย มีสาวมาตามถึงที่ทำงานด้วย” ละมุนพรรณเป็นคนเปิดประเด็นขึ้นมาก่อน “แล้วพี่เหนือบอกว่าเป็นเบอร์สอง... แสดงว่ามีหลายเบอร์เหรอคะ”
“แค่สองนี่แหละฮะ น้องละมุน แค่นี้ผู้กองก็สับรางแทบไม่ทันแล้ว” ผู้หมวดหนุ่มพร้อมเสมอที่จะอัพเดทข่าวสารให้น้องใหม่
“ก็อยากควงสองเองทำไมล่ะคะ” สาวหน้าหวานเลือกที่จะเข้าข้างผู้หญิงด้วยกันไว้ก่อน
“เปล่าจ้ะ ผู้กองไอย์น่ะ สับรางให้ตัวเองหลบรถไฟที่จะพุ่งเข้าชนต่างหาก” เนตรทิพย์รีบปกป้องผู้บังคับบัญชาเต็มที่
“สาวน่ารักอย่างนั้นยังไม่ชอบ ผู้กองชอบผู้ชายหรือคะ” สาวหน้าหวานถามออกมาตรงๆ จนรุ่นพี่ทั้งสองต้องสะดุ้ง
“ไม่หรอกครับ ผู้กองน่ะไม่ชอบผู้ชายหรอก ไม่งั้นหล่อๆ อย่างพี่คงไม่เหลือ” เหนือเมฆหาเหตุผลมายืนยันคำตอบแบบที่ไม่ค่อยเข้าข้างตัวเองเลยสักนิด
“เชื่อเถอะค่ะ ว่าผู้กองไม่ได้เป็นอย่างนั้นแน่ๆ ผู้กองมีลูกแล้วนะคะ” เหตุผลที่หมวดสาวพี่ใหญ่ยกมาค้านน่าเชื่อถือกว่าเยอะ
“อ้าว! ว้า... จบ หมดสนุกเลย” หญิงสาวบ่น “แล้วเบอร์หนึ่งกับเบอร์สองของผู้กองนี่ก็ยังไงกันนะ ผู้ชายเขาแต่งงานมีลูกแล้วยังจะตามจับอยู่ได้”
ยังไม่ทันที่สามคนจะได้ถ่ายทอดแลกเปลี่ยนข่าวสารเกี่ยวกับสาวของผู้กองกันต่อ ประตูห้องทำงานด้านในก็ถูกผลักให้เปิดออกอย่างรวดเร็ว ตามด้วยเสียงหวานๆ ที่เอ่ยอย่างน้อยอกน้อยใจ
“ถ้างานไอย์เร่งจนไม่มีเวลาคุยกับดาวอย่างนี้ ดาวก็กลับดีกว่า ขอโทษที่มารบกวนนะคะ”
ไม่มีชายหนุ่มเดินตามออกมาเพื่องอนง้ออย่างที่เห็นบ่อยๆ ในละคร มีเพียงเสียงนุ่มๆ ที่เล็ดลอดออกมาให้ได้ยินแว่วๆ
“ขอโทษนะครับดาว ที่ผมไปส่งไม่ได้”
“โห... ผู้กองไอย์นี่เด็ดขาดใช้ได้เลยนะเนี่ย แจ๋วๆๆ” ละมุนพรรณเอ่ยกระซิบชม หลังจากคล้อยหลังสาวร่างบางไปไม่นาน มองผู้กองหนุ่มในแง่ดีมากขึ้นในเรื่องที่เขาซื่อสัตย์ต่อครอบครัว เมื่อเห็นหมวดเหนือเมฆเดินแยกกลับไปนั่งประจำหน้าจอก็เดินตามไปขันอาสาเป็นตัวช่วยเต็มที่
“อยากกินข้าวฟรีหนึ่งเดือนไหมคะพี่เหนือ ละมุนจะช่วยอีกแรง”
เมื่อนาฬิกาบอกเวลาแปดโมงเช้า เจ้าหน้าที่เฉพาะกิจสาวอย่างละมุนพรรณก็ก้าวเข้ามาทำงานด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เธอวางกระเป๋าใบโตลงบนเก้าอี้พร้อมกับทักทายหมวดสาวรุ่นพี่ที่นั่งประจำอยู่หลังโต๊ะอยู่ก่อนแล้ว ก่อนจะรีบเดินมาหาหมวดเหนือเมฆที่กำลังนั่งหน้ายุ่งอยู่
“อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่เหนือ ได้เรื่องคืบหน้าไปถึงไหนแล้วคะ” เสียงหวานใสไต่ถามกระตือรือร้น
“มาแล้วเหรอ... พี่กำลังคิดถึงน้องละมุนอยู่พอดี” หมวดเหนือเมฆละความสนใจจากงานขึ้นมาทักทายด้วยน้ำเสียงสดใสผิดกับร่องรอยตรงใต้ตาที่ดูหมองคล้ำลงเพราะการอดนอนมาตลอดคืน
“คิดถึง เพราะกลัวจะไม่มีใครเป็นผู้ช่วยหรือเปล่าคะ” ละมุนพรรณโต้กลับความปากหวานของหมวดรุ่นพี่อย่างรู้ทัน พร้อมกับกวาดตามองหาที่ว่างสำหรับวางคอมพิวเตอร์ขนาดพกพาของเธอ เหนือเมฆเห็นท่าทางอย่างนั้นก็รีบรวบรวมแฟ้มเอกสารที่ไม่จำเป็นไปกองรวมกันในตู้เก็บเอกสารที่อยู่ข้างๆ ก่อนจะหันมาขยับเก้าอี้ให้หญิงสาว
“เชิญครับ คุณผู้ร่วมขบวนการล้วงกระเป๋าผู้กอง” มือขาวๆ ผายออกมาเชื้อเชิญ ก่อนที่ตัวเขาจะกลับไปนั่งที่เก้าอี้ตัวเดิมและหมุนตัวมาบอกเล่าความคืบหน้าในการตามหาตัวเจ้าของเว็บพนันบอลรายใหญ่แห่งหนึ่ง
“หลังจบบอลยูโร เว็บนี้ก็เงียบๆ ไปพักหนึ่ง ทำให้ร่องรอยอะไรๆ มันขาดๆ หายๆ ไปบ้าง แต่พอบอลโลกใกล้เข้ามาแบบนี้ เจ้าของเว็บก็แจ้นเข้ามาตกแต่งโต๊ะใหม่ พี่เลยย่องตามไปขโมยไอพีของมันมาได้ นี่ไง...” หมวดเหนือเมฆยื่นกระดาษที่มีตัวเลขสิบเอ็ดหลักมีแบ่งคั่นด้วยจุดสามจุดส่งให้
“ตามที่อยู่นี้... ตัวการของเราไม่ได้ใช้เน็ตบ้าน แต่ใช้อินเตอร์เน็ตผ่านเครือข่ายมหาวิทยาลัย”
“แสดงว่าอาจจะเป็นพวกนักศึกษาหรือคะ”
“ก็น่าจะเป็นไปได้สูงแหละครับ หรือไม่ก็อาจจะมีกันหลายคน เพราะจากที่พี่ตามเช็คมาที่อยู่ของเขาเปลี่ยนไปหลายที่แล้วเหมือนกัน” ผู้หมวดหนุ่มส่งกระดาษจดหมายเลขอีกสามสี่ใบให้กับหญิงสาว ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ “บางที่ก็เป็นร้านเน็ตสาธารณะที่อยู่ไกลจากมหาวิทยาลัยด้วยซ้ำ”
“ก็ถือว่าเขาฉลาดไม่เบา แต่ยังไงพวกเขาก็หนีเราไปไม่พ้นหรอกค่ะ” แฮกเกอร์สาวพูดยิ้มอย่างมั่นใจ ก่อนจะแสร้งปรับน้ำเสียงให้เป็นทางการ
“ขอแนะนำให้รู้จักผู้ช่วยคนสำคัญของเรานะคะพี่เหนือ เจ้านี่... มิสเตอร์รอยเตอร์ค่ะ”
ละมุนพรรณแนะนำพร้อมหมุนหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้หมวดรุ่นพี่ได้เห็นชัดๆ กลางหน้าจอขนาดสิบสามนิ้วมีแอนิเมชั่นรูปหมีขาวมาดเข้มในชุดสูทและแว่นตาสีดำนั่งไขว้ห้างอยู่หลังโต๊ะทำงาน และเมื่อเธอเห็นอีกฝ่ายมองหน้าเธอแปลกๆ หญิงสาวก็ยิ้มร่าอธิบายต่อ พร้อมๆ กับคลิกเม้าส์บนรูปคอมพิวเตอร์จำลองที่ตั้งอยู่บนโต๊ะนั้น
“คอมเครื่องนี้นี่แหละค่ะ รอยเตอร์... มีมันก็เหมือนมีสำนักข่าวส่วนตัว”
แนะนำจบก็พรมปลายนิ้วโต้ตอบคำทักทายของเจ้าหมีอีกชุดใหญ่ ซึ่งเปรียบเสมือนการป้อนรหัสผ่านสำหรับการเปิดใช้คอมพิวเตอร์เครื่องนี้นั่นเอง
“อืม... ตั้งได้สมตัวดีนะครับ” ผู้หมวดหน้าตี๋เออออ ก่อนจะยักไหล่น้อยๆ เลิกใส่ใจกับนิสัยช่างคิดช่างตั้งชื่อของหญิงสาว
“เช้านี้เราจะเริ่มจากตรงไหนกันดีคะ” แฮกเกอร์สาวถามหาจุดตั้งต้นของการตามล่าผ่านเครือข่ายไร้สาย
“ก็พวกที่เล่นบอลในนี้เขาจ่ายเงินกันทางไหนก็ทางนั้นล่ะ เพราะยังไงพวกเลขที่บัญชีก็ไม่มีทางเปลี่ยนได้บ่อยๆ เหมือนเปลี่ยนคอมพ์แน่ เมื่อคืนพี่ลองเข้าไปไล่อ่านในเว็บบอร์ดมาแล้วล่ะ ดูเหมือนพวกสมาชิกจะโพสต์ แลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับฟุตบอลบังหน้า แต่บางข้อความก็มีหลุดเป็นนัยมาบ้างว่ามีการแทงบอลผ่านข้อความลับที่ส่งถึงกัน เรื่องราคาและการจ่ายเงินก็คงมีการตกลงกันทางนั้นด้วย” หมวดเหนือเมฆสั่งพิมพ์ข้อความที่น่าสงสัยออกมาส่งให้สาวรุ่นน้อง ซึ่งพอรับไปแล้วก็ก้มหน้าก้มตาอ่านพลางพยักหน้าเห็นด้วย
“งั้นเดี๋ยวละมุนลองเจาะเข้าไปในเซิร์ฟเวอร์ แล้วดึงข้อความลับของสมาชิกที่โพสต์ข้อความพวกนี้ออกมาให้แล้วกันนะคะ” สาวหน้าหวานขันอาสาด้วยรอยยิ้มกริ่มอย่างนึกสนุก และเมื่ออีกฝ่ายทำสัญญาณมือมาว่า ยกมอบหน้าที่นี้ให้เธอจัดการได้ตามสบาย หญิงสาวก็ได้ฤกษ์ในการเริ่มเกมเจาะระบบของเธอ
“ส่วนพี่จะบุกยึดน้องแมวของสมาชิกต้องสงสัยพวกนี้เอง” หมวดหนุ่มเล่นเสียงของคำว่าอีเมล์หวังเรียกรอยยิ้มจากหญิงสาว
“ค่า... ขอให้เจอแมวเชื่องๆ ยอมให้คุณผู้หมวดเป็นเจ้าของง่ายๆ นะคะ” หญิงสาวยิ้มหัวเราะให้ แล้วส่งคำอวยพรแบบล้อเลียนกลับทันควัน
“นายเหนือ น้องละมุน เที่ยงแล้วนะจ๊ะ ไปทานข้าวกันก่อนเถอะ” เสียงอ่อนโยนดังมาจากโต๊ะทำงานฝั่งตรงข้าม เพื่อเรียกความสนใจจากสองหนุ่มสาวที่เอาแต่นั่งจดจ่ออยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ของแต่ละคนมาตั้งแต่เช้า
“ไปก่อนเลยค่ะ/ครับ พี่เนตร” หนึ่งเสียงหวานหนึ่งเสียงห้าวประสานกันพร้อมเพรียง ก่อนที่เจ้าของเสียงจะละสายตาจากหน้าจอสี่เหลี่ยมมาส่งแววตาระรื่นให้หมวดสาวรุ่นพี่
“กำลังติดพันกันอยู่เลยฮะ” หมวดหนุ่มตี๋บอกอย่างอารมณ์ดี เพราะตั้งแต่เช้าที่ได้สาวรุ่นน้องมาช่วยอีกแรง อะไรๆ ก็ดูสะดวกสบาย จะขุดจะเจาะที่จุดไหนก็ง่ายดายไปเสียหมด หรือจะต้องขอบคุณโปรแกรมเด็ดๆ ที่หญิงสาวพกพามากับเจ้าหมีรอยเตอร์ด้วยดี
“แต่พี่ว่าลงไปทานอะไรก่อนจะดีกว่านะ ลุกยืดเส้นยืดสายกันเสียบ้าง แต่เช้าก็ไม่เห็นลุกไปไหนกันเลย” เนตรทิพย์เกลี้ยกล่อมด้วยความเป็นห่วงเป็นใย
“อีกนี้ด... นะคะ เดี๋ยวเราก็จะได้เลขที่บัญชีธนาคารของเจ้าของเว็บแล้วค่ะ รับรองเลยว่าไม่พ้นคืนนี้เราก็จะสาวถึงตัวเจ้าของโต๊ะบอลนี้แน่ๆ แล้วเดือนนี้ทั้งเดือนพี่เหนือก็จะได้กินมื้อกลางวันฟรีๆ ชัวร์ป้าบค่ะ” ด้านแฮกเกอร์สาวบอกอย่างมั่นอกมั่นใจ ก่อนจะเปลี่ยนอารมณ์เป็นหัวเราะเสียงแห้ง “แต่มื้อนี้... ฝากพี่เนตรหิ้วขึ้นมาฝากหน่อยได้ไหมคะ”
และเมื่อเนตรทิพย์เดินออกจากกองไป สองหนุ่มสาวแห่งกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศก็ก้มหน้าก้มตาทำงานกันต่ออย่างกระตือรือร้นที่จะหาตัวการให้ได้ภายในวันนี้
“บิงโก!!” เสียงเฮลั่นของหญิงสาวทำเอาเท้าของไอยราวัณที่กำลังผลักประตูออกจากห้องทำงานชะงัก ก่อนที่เขาจะก้าวออกมามองต้นเสียงอย่างสงสัย
“ไงล่ะ เห็นฤทธิ์เจ้ารอยเตอร์ไหมพี่เหนือ” ละมุนพรรณโอ้อวดอย่างภาคภูมิใจขณะคลิกเมาส์สั่งพิมพ์ข้อมูลส่วนตัวของนักศึกษากลุ่มหนึ่งผู้เป็นเจ้าของเลขที่บัญชีธนาคารที่ปรากฏในเว็บโต๊ะบอลออกมา เมื่อต้องใช้เวลารอก็คลิกลากเม้าส์ลูบหัวเจ้าหมีมาดเข้มบนหน้าจอราวกับมันมีตัวตน และตอนนี้มันก็สามารถหัวเราะตอบกลับเธอมาได้จริงๆ เสียด้วย
“ทำได้ดีมาก... เจ้าหมีรอยเตอร์ หมีเทอร์โบลูกแม่”
“ฝีมือน้องละมุนก็ไม่เบาเหมือนกัน” หมวดเหนือเมฆเอ่ยชมรุ่นน้องอย่างนึกทึ่งจัด เขาคิดอยู่แล้วว่าคนที่หัวหน้าหามารับช่วงต่อจากหมวดสาวที่จะลาคลอดต้องมีฝีมือพอตัวแน่ แต่ไม่คิดว่าจะคล่องปรื๋อและมีลูกเล่นแพรวพราวขนาดนี้
“ทีนี้แผนการล้มทับผู้กองช้างสามหัวของเราก็สำเร็จแล้วนะคะ แต่ละมุนว่า... เรายังไม่ต้องบอกว่าเราหาตัวเจ้าของเว็บเจอแล้วดีกว่า รอใกล้ๆ ครบกำหนดพี่เหนือก็เข้าไปต่อรองว่าเบาะแสมันหาย๊าก...ยาก ขอเพิ่มแรงจูงใจเป็นอาหารญี่ปุ่นดีกว่า นะคะ นะๆ ละมุนชอบกินปลาดิบ” คนที่หวังพ่วงท้ายรุ่นพี่กินฟรีด้วยยังกะเกณฑ์วางแผนต่อ ไม่ทันได้รู้ตัวว่าในห้องทำงานตอนนี้ไม่ได้มีเพียงเธอและหมวดรุ่นพี่อีกต่อไปแล้ว
“น้องละมุนก็ลองขอผู้กองเองสิฮะ” เหนือเมฆพยายามขยิบตาเป็นสัญญาณบางอย่างให้ แต่ฝ่ายหญิงสาวก็ยังไม่สนใจเงยหน้าขึ้นมามองเลยสักนิด เพราะมัวแต่อ่านข้อมูลที่ได้มาอย่างปลื้มใจ แม้ว่าผู้กองช้างสามหัวที่เธอพูดถึงจะมายืนทำหน้าเครียดอยู่ด้านหลังของเธอแล้วก็ตาม
“ได้ไงคะ ผู้กองบอกจะเลี้ยงพี่เหนือ ละมุนไม่ได้มีชื่อเอี่ยวด้วยเสียหน่อย แค่พี่เหนือไปทานแล้วสั่งใส่กล่องมาฝากก็พอค่ะ เกิดให้ผู้กองรู้ว่าละมุนมาช่วยแล้วโมเมยกเลิกคำสัญญาเพราะหาว่าเราโกงก็อดกันพอดี”
“แล้วที่ทำกันอยู่มันเรียกว่าโกงจริงหรือเปล่าล่ะ”
เสียงดุห้าวที่ถามสวนกลับมา ทำเอาคนช่างวางแผนถึงกับสะดุ้งโหยงและหมุนตัวไปหาต้นเสียงแทบไม่ทัน ละมุนพรรณรีบซ่อนกระดาษสองสามแผ่นในมือไว้ด้านหลังตามสัญชาตญาณของคนร้อนตัว ก่อนจะฉีกยิ้มประจบกลบเกลื่อน
“ผู้กองยังไม่ไปทานข้าวอีกหรือคะ”
“ถ้าไปแล้วจะได้ยินอะไรดีๆ อย่างเมื่อกี้งั้นเหรอ” ไอยราวัณตอบกลับนิ่งๆ ไม่มีทีท่าว่ายอมอ่อนลงให้กับแฮกเกอร์สาวเลยแม้แต่น้อย
“ถ้าผู้กองได้ยินอะไรแปลกๆ ก็อย่าไปสนใจเลยนะคะ ดีลีทมันทิ้งเสียดีกว่า เปลืองหน่วยความจำในสมองเปล่าๆ” หญิงสาวว่าติดตลก ก่อนจะตีหน้าใสซื่อเขยิบเท้าก้าวเข้าไปใกล้ “นี่ค่ะผู้กอง”
“อะไร” ไอยราวัณเพียงเหลือบมองกระดาษสองสามแผ่นที่หญิงสาวยื่นส่งมาให้
“รายชื่อของบรรดาเจ้าของโต๊ะบอลฝีมือพี่เหนือไงคะ”
“ฝีมือนายเหนือคนเดียว?” ผู้กองหนุ่มผันเสียงท้ายขึ้นสูงพอๆ กับคิ้วที่เลิกขึ้นเป็นคำถาม
“มีฉันช่วยบ้าง... แค่นิดๆ หน่อยๆ เอง” ละมุนพรรณแก้ตัวไม่เต็มเสียงนัก
“นิดหน่อยจริงหรือ...”
“สงสัยอะไรมากจังคุณผู้กองนี่ รีบๆ รับไปเถอะค่ะ ลูกน้องเค้าอุตส่าห์เร่งทำงาน ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน ลำบากแท้ๆ” หญิงสาวบอกพร้อมทำตาละห้อยน่าสงสาร จนคนมองอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้
“ย้ำจริงเรื่องอดข้าวเนี่ย กลัวฉันยกเลิกมื้อกลางวันขนาดนั้นเลยหรือไง”
“กลัวแทนพี่เหนือหรอกค่ะ ของฉันเนี่ยยังไงก็ได้ แล้วแต่ศรัทธาของคุณผู้กอง” เมื่อเห็นอีกฝ่ายเริ่มพูดจาหยอกล้อกลับมา ละมุนพรรณก็กล้าคุยอย่างสนิทสนมมากขึ้น
“บังเอิญว่าตอนนี้ยังไม่มีเสียด้วย” ไอยราวัณมองหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะส่ายหน้า ท่าทางแบบนั้นของเขาทำให้คนถูกมองแทบเต้น ผู้กองหนุ่มมองหน้าหวานๆ เปลี่ยนเป็นย่นยุ่งปากเม้มแน่นแล้วก็ยิ่งนึกสนุก
“แต่อย่าหาว่าใช้เลยนะ... ช่วยชงกาแฟให้ฉันแทนหมวดเนตรสักถ้วยแล้วกัน ว่างงานกันแล้วไม่ใช่เหรอ” ชายหนุ่มบอกก่อนจะคว้ากระดาษรายชื่อจากมือบาง แล้วก็หมุนตัวกลับเข้าห้องไป สบายใจขึ้นกว่าตอนที่เดินออกมาเพื่อหากาแฟจิบแก้เครียดสักถ้วยลิบลับ
ไอยราวัณนั่งรออยู่ในห้องทำงานอย่างครึ้มอกครึ้มใจ ฆ่าเวลาด้วยการอ่านรายงานจากฝีมือของทั้งคู่ไปไม่ถึงห้านาที ประตูหน้าห้องของเขาก็ถูกเคาะถี่รัวสามครั้ง บ่งบอกถึงอารมณ์ของคนที่เขามองเห็นเป็นเงารางๆ ผ่านบานกระจกฝ้าได้เป็นอย่างดี ผู้กองหนุ่มเก็บซ่อนอาการอมยิ้มพราวไว้มิดชิด ก่อนจะเอ่ยอนุญาต
“ในกฏระเบียบที่ผู้กองให้อ่าน ไม่เห็นระบุว่าฉันจะต้องทำหน้าที่ชงกาแฟให้ผู้กองเลยสักบรรทัด” ละมุนพรรณเดินเร็วๆ มาวางถ้วยกาแฟลง พร้อมบ่นกระปอดกระแปด
“จะบ่นอะไรนัก ตามสัญญาบอกว่าให้ทำหน้าที่แทนหมวดเนตร ก็ต้องรวมหน้าที่ทุกอย่าง ไม่ใช่แค่เรื่องคดีเท่านั้น” ไอยราวัณวางท่าไม่ใส่ใจกับท่าทีไม่เต็มใจของหญิงสาว เขามองดูเครื่องดื่มสีน้ำตาลอ่อนที่ส่งกลิ่นหอมกรุ่นในถ้วยกระเบื้องแล้วต้องถามออกมา “ชงกาแฟสูตรไหนมากัน”
“ผู้กองไม่ได้บอกก่อน ฉันเลยชงหนึ่งสองสองสูตรมาตรฐานมาให้ ทำไมหรือคะ” เจ้าของฝีมือสบตาแบบหาเรื่องกลับ
“ไม่รู้แล้วทำไมไม่ถามก่อนล่ะ ไปชงมาใหม่ กาแฟจืดชืดอย่างนี้ฉันกินไม่ลงหรอก ยิ่งกินยิ่งง่วงเสียมากกว่า” ผู้กองหนุ่มเอ่ยสั่งผสมรอยยิ้มหัวอย่างนึกสนุก
รอยยิ้ม... ที่ช่างขัดตาหญิงสาวเสียเหลือเกิน ต่างจากรอยยิ้มที่เขาเผลอตัวแย้มออกมาในร้านลุงป้าเมื่อวันวานราวคนละคน
“ค่ะ!” ละมุนพรรณตาลุกวาวรับคำเสียงแข็ง ก่อนจะคว้าถ้วยกาแฟที่ไม่เป็นที่ต้องการเดินออกจากห้องไป “...รับรองถ้วยใหม่ถูกใจผู้กองแน่”
หญิงสาวปึงปังออกจากห้องไปแล้ว เหลือเพียงเจ้าของห้องที่นั่งกลั้นเสียงหัวเราะให้อยู่แต่ในลำคอ ...
คิดจะมาล้มทับคนอย่างไอยราวัณก็ต้องเจอสั่งสอนเสียหน่อย แล้วยังโทษฐานที่ลามปามมานินทาว่าเขาเป็น ‘ช้างสามหัว’ อีก
ไม่นานนัก หญิงสาวก็กลับเข้ามาอีกครั้ง
“นั่นอะไร...” คำถามสั้นๆ ถูกส่งออกมาด้วยความแปลกใจของไอยราวัณ เมื่อเห็นลูกน้องสาวกลับเข้ามาพร้อมถาดพลาสติกใบย่อมที่ดูแล้วท่าทางจะหนักไม่น้อย เพราะเธอเล่นยกมาทั้ง ถ้วยกาแฟใส่น้ำร้อน แก้วใส่น้ำเย็น ขวดกาแฟ กระปุกน้ำตาลและครีมเทียม ครบชุด
“ก่อนออกไปฉันก็ลืมถามว่าผู้กองชอบกาแฟสูตรไหน ขี้เกียจกลับเข้ามาถาม เลยยกเข้ามาให้ผู้กองชงเองเลยดีกว่า ทีนี้ก็จะมาหาเรื่องกันว่าไม่ถูกใจไม่ได้แล้ว... นี่ค่ะ” หญิงสาววางถาดลงตรงที่ว่างบนโต๊ะใกล้ๆ กับมือเจ้าของห้อง มือเรียวบางผายไปที่ถาดอย่างเชื้อเชิญให้เขาทำตามที่เธอบอก
“หึ... นึกว่าจะออกไปชงกาแฟสูตรพิสดารมาแกล้งกันเสียอีก” ไอยราวัณดักคออย่างที่ได้คิดเตรียมพร้อมระวังตัวไว้แล้ว มือก็จัดการชงกาแฟไปด้วย ภายใต้สายตาของละมุนพรรณที่จ้องมองมาไม่กะพริบ
“ฉันไม่ทำอะไรเด็กๆ อย่างนั้นหรอกค่ะ อีกอย่าง... ผู้กองก็ระแวงฉันขนาดนี้ คงไม่หลงกลมุกตื้นๆ อย่างนั้นหรอก” เสียงหวานเอ่ยบอกเรียบเฉย จนเมื่อเห็นเขาใช้ช้อนคันเล็กคนผสมของเหลวในถ้วยนั่นล่ะ เธอค่อยยิ้มบอกอย่างมั่นใจ “โอเคค่ะ ต่อไปนี้ฉันก็รู้แล้วว่ากาแฟผู้กองต้องสองหนึ่งหนึ่ง คราวหน้ารับรองไม่พลาด ขอตัวก่อนนะคะ”
แฮกเกอร์สาวเจ้าของแววตาซนเดินออกจากห้องไปแล้ว เหลือไว้เพียงถ้วยกาแฟฝีมือเจ้าของห้องเอง และแก้วน้ำเปล่าเย็นเจี๊ยบที่มีหยดน้ำเกาะพราวอยู่ข้างแก้ว ไอยราวัณยกถ้วยกาแฟขึ้นมาพลางหมุนตัวเข้าหาจอคอมพิวเตอร์ที่เปิดค้างเอาไว้ แค่ได้แกล้งคนหน้าหวานให้ตีหน้ามุ่ยอย่างเด็กถูกขัดใจเล่นก็ทำให้เขาผ่อนคลายความตึงเครียดจากเรื่องราวบางอย่างที่ระแคะระคายมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ ผู้กองหนุ่มยกถ้วยกาแฟขึ้นจิบเข้าไปอึกใหญ่
แล้วใบหน้าของชายหนุ่มที่เคยมีรอยยิ้มเกลื่อนอยู่เมื่อครู่ กลับเปลี่ยนเป็นเบิกตาโตและบ้วนกาแฟทิ้งแทบไม่ทัน ไอยราวัณส่ายหน้ายิ้มเยาะตัวเองที่เผลอไปหลงไว้ใจหน้าซื่อตาใสของใครบางคนเสียได้ ก่อนจะรีบคว้าเอาแก้วน้ำเย็นที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาดื่มล้างปากอย่างรวดเร็ว แต่มันไม่ใช่ความใจดีของหญิงสาวที่เตรียมน้ำเปล่าเย็นๆ มาให้เขาได้ล้างปากล้างคออย่างที่ไอยราวัณคิดในทางที่ดี ทันทีที่น้ำเย็นใสผ่านลำคอของผู้กองหนุ่มเข้าไปอึกใหญ่ด้วยความรีบร้อน เขาก็แทบสำลักกระอักกระไอออกมาหน้าดำหน้าแดงเพราะความฉุนเปรี้ยวจัดของมัน... น้ำส้มสายชู!
ผู้กองหนุ่มรีบลุกพรวดพราดก้าวเดินเร็วๆ ออกจากห้องส่วนตัว ตรงดิ่งไปหาตู้น้ำเย็นในส่วนที่จัดไว้สำหรับใช้เป็นครัวเล็กๆ ของกลุ่มทันที หลังจากดื่มน้ำเปล่า ‘ของจริง’ เข้าไปสองแก้วใหญ่ อาการแสบปากแสบคอของเขาก็พอทุเลาลงได้บ้าง จากนั้นสองขายาวแข็งแรงก็พาเขากลับมาหยุดยืนที่โต๊ะของหญิงสาวด้วยใบหน้าบึ้งตึง และเขาต้องยิ่งขุ่นใจหนักเมื่อไม่เจอตัวเจ้าของผลงาน
“ละมุนพรรณไปไหน” ไอยราวัณถามกับหมวดหนุ่มลูกน้องที่นั่งมองมาอย่างสงสัย เขาเห็นสมาชิกใหม่ของกลุ่มเดินออกมาจากห้องของผู้กองด้วยอาการรีบร้อนและผลุบหายตัวไปอย่างรวดเร็ว หลังจากสั่งความกับเขาเพียงสั้นๆ
“ไปห้องน้ำครับ” เหนือเมฆตอบตามที่สาวรุ่นน้องได้บอกเอาไว้
“หึ! คิดว่าหลบเข้าห้องน้ำไปแล้วฉันจะไม่กล้าตามไปเอาเรื่องงั้นสิ” ชายหนุ่มพึมพำเบาๆ อย่างรู้ทัน ก่อนที่สายตาของเขาจะมองกวาดไปเจอถาดใบย่อมตัวปัญหาที่หญิงสาววางทิ้งไว้บนโต๊ะก่อนจะหลบภัย
ผู้กองหนุ่มเปิดฝาขวดแก้วและกระปุกต่างๆ ออกแล้วก้มลงมองสำรวจมันอย่างตั้งใจ แต่ทุกๆ อย่างก็เป็นปกติไร้สิ่งที่เรียกว่า ‘เกลือ’ ปนปลอมอยู่
งั้นก็คงเป็นในน้ำร้อน... ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ เมื่อได้ข้อสรุป พร้อมๆ กับตอกย้ำข้อเตือนใจข้อใหม่กับตัวเอง
อะไรที่ดูโปร่งใสไร้อันตรายนั้นน่ากลัวและยิ่งควรระวังเป็นที่สุด ดูอย่างน้ำใสๆ หรือหน้าใสๆ ของใครบางคนนั่นไง!
อ่านต่อ >> 004 : ความร่วมมือ
หรือเป็นเจ้าของความฟินกันแบบเต็มๆ ได้เลย!
สั่งซื้อรูปเล่ม... ที่เว็บ สนพ. Coolkat หรือร้านหนังสือออนไลน์
โหลดฉบับอีบุ๊ค... ได้ตามแหล่งที่ถูกใจเลยค่ะ
โหลดฉบับอีบุ๊ค... ได้ตามแหล่งที่ถูกใจเลยค่ะ
Meb : https://goo.gl/IgOeDz
The1Book : https://goo.gl/FhbRpL
Hytexts : https://goo.gl/JM29dP
Ookbee : https://goo.gl/DBsttW
NaiinPann : https://goo.gl/n3R8Xs
Dek-D : https://goo.gl/lhWSl9
No comments:
Post a Comment