7 July 2017

# แก่นฝัน # ฉากรักดักหัวใจ

ฉากรัก ดักหัวใจ - ฉากที่ 6 : พบเจออีกหน


ฉากรัก ดักหัวใจ ชุดสี่สาว

ผู้เขียน : แก่นฝัน

ตีพิมพ์ครั้งแรก โดย สนพ. คูลแคท
เผยแพร่ฉบับอีบุ๊ค โดย แก่นฝัน

© สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามคัดลอกหรือดัดแปลงส่วนหนึ่งส่วนใดของนิยายเรื่องนี้
เพื่อนำออกเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต


ฉากที่ 6 : พบเจออีกหน

          ก่อนจะได้เข้าไปถ่ายละครในป่าอย่างที่ฝัน เพลินพิศต้องทำงานที่ตัวเองเผลอตกปากรับคำคุณหญิงฝันฟ้าจากเมื่อครั้งที่ได้ไปทานข้าวด้วยกันคราวนั้นเสียก่อน จะว่าเธอเผลอตัวก็ไม่เชิง เพราะสองแม่ลูกคู่นี้มีวิธีพูดหว่านล้อมที่เหมือนกันเสียจนเธอปฏิเสธไม่ลง จึงจำต้องยอมเป็นนางแบบรับเชิญในงานแสดงอัญมณีและเครื่องประดับฝีมือช่างไทยเพื่อการกุศลที่มีคุณหญิงฝันฟ้าเป็นแม่งานหลักในฐานะหัวหน้าสมาคม สำหรับนางแบบในงานนี้ส่วนใหญ่เป็นบรรดาลูกหลานของคุณหญิงคุณนายที่ล้วนแล้วแต่เป็นนางแบบกิตติมศักดิ์ทั้งนั้น มีแค่เธอและฝากฟ้าที่เคยผ่านประสบการณ์ด้านการเป็นนางแบบอาชีพมาก่อน ซึ่งสาเหตุที่คุณหญิงอยากให้เธอร่วมเดินด้วยก็เพื่อเรียกกระแสของงานให้เป็นที่สนใจมากขึ้น
          เช้านี้เพลินพิศจึงต้องพยายามรวบรวมแรงกายแรงใจ เพื่องัดตัวเองขึ้นมาจากที่นอนหนานุ่มแสนสบาย หลังจากที่เพิ่งทิ้งตัวนอนได้ไม่ถึงสามชั่วโมง เพราะเมื่อคืนกว่าจะเลิกกองก็ปาเข้าไปเกือบตีสี่ และเช้าวันนี้เธอมีนัดต้องไปช่วยฝึกซ้อมให้บรรดาคุณหนูลูกหลานชาวไฮโซทั้งหลาย ก่อนที่จะได้ขึ้นเวทีจริงกันในคืนพรุ่งนี้
          “ไปละนะพี่ไก่” เพลินพิศบอกลาเจ้าของห้องชุดห้องข้างๆ ที่เธอแวะมาฝากท้องมื้อเช้าจนอิ่มหน่ำสำราญ
          “อิ่มแล้วก็ลุกหนีเลยนะ” คนที่กำลังเก็บโต๊ะส่งสายตาค้อน คนอิ่มที่เตรียมจะคว้ากระเป๋าลุกหนีจึงหันมายักคิ้วให้
          “งั้นเดี๋ยวงานนี้เพิร์ลขโมยเพชรสักเม็ดไปขายแล้วซื้อเครื่องล้างจานมาติดให้ หรือไม่ก็จ้างเมทหนุ่มๆ มาช่วยสักคนดีไหมคะ
          “ขอหนุ่มหล่อกล้ามแน่นแบบพ่อซามูไรเรียวได้ไหมล่ะ” คนถูกย้อนไม่ปฏิเสธ แถมยังระบุสเปคอีกต่างหาก
          “ถ้าเจอจะลองถามให้แล้วกัน
          “นี่แสดงว่าจะไปเจอกันอีกใช่ไหม วันนั้นยังตามมาส่งกันไม่พอเหรอ เดี๋ยวนี้ไม่กลัวเป็นข่าวแล้วหรือไงกัน” ผู้จัดการหนุ่มชะม้ายตามาทัก
เมื่อสองสามวันก่อนนั้น ไม่รู้สาวหมวยไปสอนยิงปืนให้ฝากฟ้ายังไง ศุภชนม์ถึงได้เห็นพ่อหนุ่มแดนซามูไรขับรถตามหลังมาส่งนางเอกสาวถึงใต้คอนโดฯ แม้เขาจะอ้างว่าการปล่อยให้หญิงสาวขับรถกลับดึกๆ คนเดียวมันไม่ปลอดภัย แต่ความจริงเป็นเช่นไรก็รู้ๆ กันอยู่ เพราะคนอย่างนางสาวเพลินพิศนี่น่ะเหรอ พิษ เยอะสมชื่อ ใครหน้าไหนจะกล้าทำอะไรคุณเธอได้ง่ายๆ
เปล่า... เพิร์ลบอกพี่ไก่แล้วไงคะว่าวันนั้นเราเจอกันโดยบังเอิญ” หญิงสาวชักรู้สึกระแวงเพราะเห็นสายตาของศุภชนม์มองมาเหมือนกำลังนินทาเธอในใจ จึงรีบชิงตัดบทเมื่อนาฬิกาข้อมือส่งเสียงดังบอกเวลาแปดโมงเช้า
สายแล้ว เพิร์ลไปก่อนนะพี่ไก่ เจอกันตอนเย็น” หญิงสาวก้มลงมองเวลาที่ข้อมือก่อนจะรีบวิ่งปร๋อไปที่ประตู
จ้ะ โชคดีนะ


หาอะไรนะคะ หญิงสาวถามย้ำเมื่อไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ได้ยินเป็นเรื่องจริง
          “คุณแม่กับพวกคุณป้าคุณน้า ตกลงกันว่าจะให้พี่เพิร์ลเป็นคนสวมชุดมงกุฎเพชรปิดท้ายค่ะ” สาวน้อยฝากฟ้าที่นั่งอยู่ข้างๆ บอกซ้ำอีกรอบ
          “พี่ว่าให้คนอื่นดีกว่าไหมจ๊ะ ความจริงงานนี้พี่เป็นคนนอกด้วยซ้ำ ให้แฟงใส่แทนพี่ก็ได้” เพลินพิศเอ่ยปัดอย่างเกรงใจ ไม่รู้ว่าคุณหญิงคุณนายทั้งหลายยอมให้เธอโดดเด่นกว่าบรรดาลูกๆ ของพวกเธอได้ยังไง ทั้งๆ ที่มันดูผิดวิสัยเกินไปหน่อย
          “แฟงเป็นคนเสนอชื่อพี่เพิร์ลเองแหละค่ะ พี่เพิร์ลน่ะเหมาะที่สุดแล้ว
เอาอีกแล้วไง คงเป็นกรณีคุณหญิงแม่ปฏิเสธคุณลูกสาวไม่ลง ทั้งตัวเองก็เป็นถึงหัวหน้าสมาคมอีก คนอื่นๆ เลยพากันเกรงใจไม่กล้าคัดค้าน
          “จะดีหรือคะ...” ถามจบก็เห็นสายตาของบรรดาคุณหนูทั้งหลายที่มองมา นี่ถ้าเป็นแสงเลเซอร์ ตัวเธอคงจะพรุนไปทั้งตัวแล้ว
          “ให้หนูนั่นล่ะจ้ะ ดีแล้ว” คุณหญิงฝันฟ้ายืนยัน เพราะอยากตัดปัญหาที่สมาชิกคนอื่นๆ พากันสนับสนุนลูกหลานของตัวเองกันยกใหญ่ ให้คนนอกแทนเสียเลย จะได้ไม่มีใครน้อยใจว่าเราว่าลำเอียง
หนูเป็นนางแบบอาชีพ เดินมาก็หลายงานแล้ว น้าคิดว่าน่าจะนำเสนอเพชรชุดนี้ได้ดีที่สุด
เอ่อ... ค่ะ
และก็เป็นอีกครั้งที่เธอปฏิเสธคุณหญิงฝันฟ้าไม่ลง ไม่ว่าจะด้วยคารมหรือจนต่อเหตุผลก็ตาม


การเตรียมงานในวันนี้ก็เรียบร้อยดี ขอบใจทุกคนมากที่มาช่วย แล้วเจอกันพรุ่งนี้ค่ะ” คุณหญิงฝันฟ้ายิ้มหวานให้เหล่านางแบบจำเป็นทั้งหลายที่ฝึกซ้อมกันจนจดจำจังหวะและตำแหน่งได้แล้ว
พี่เพิร์ลคะ พี่เพิร์ลจะไปไหนต่อหรือเปล่าคะ
เพลินพิศเงยหน้าจากการเก็บของลงกระเป๋า อ๋อ พี่ว่าจะไปซื้อของเตรียมออกกองน่ะจ้ะ
แฟงขอไปด้วยนะคะ แฟงยังไม่ได้ซื้อของเตรียมตัวเหมือนกัน นะ... ให้แฟงไปด้วยนะคะ
เสียงอ้อนกับแววตาเปี่ยมด้วยความหวังทำให้นางเอกสาวปฏิเสธไม่ลง จึงต้องพยักหน้าอนุญาต
ขอแฟงบอกคุณแม่แป๊บเดียวนะคะ
เด็กสาวหันไปขออนุญาตคุณหญิงฝันฟ้า แต่คุณหญิงกลับชักชวนให้เธอทั้งสองอยู่รอดูเครื่องประดับที่จะใช้ในการเดินแบบด้วยกันก่อน ทั้งหมดจึงต้องเข้าไปนั่งรอในห้องพร้อมกัน
คุณหญิงคะ คุณสายฤทัยมาถึงแล้วค่ะ” เลขาประจำตัวของคุณหญิงฝันฟ้าเอ่ยรายงานหลังจากที่คุยโทรศัพท์เสร็จ
ดีเลย ให้เอาเข้ามาในนี้เลยแล้วกัน
สิ้นคำอนุญาต สายฤทัย’ หญิงวัยกลางคนในชุดผ้าไทยที่ตัดเย็บแบบทันสมัยก็เดินนำขบวนชายหนุ่มหุ่นล่ำสันในชุดสูทสีดำเข้ามาในห้อง กล่องกำมะหยี่สี่เหลี่ยมขนาดต่างๆ ที่ใช้บรรจุเครื่องประดับถูกวางลงบนโต๊ะประชุมกลางห้อง จากที่ประเมินราคาคร่าวๆ ด้วยสายตาแล้ว มูลค่ารวมกันน่าจะไม่ต่ำกว่าเลขเก้าหลัก การคุ้มกันถึงได้แน่นหนาขนาดนี้ คุณหญิงฝันฟ้าเปิดกล่องออกเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของเครื่องประดับทุกชิ้น แสงประกายแวววาวของอัญมณีล้ำค่าไม่สามารถเรียกความสนใจของเพลินพิศได้เท่ากับชายหนุ่มร่างสูงที่เดินเข้ามาในห้องเป็นคนสุดท้าย ทั้งสองต่างมองหน้ากันด้วยความแปลกใจที่ได้เจอกันอีกครั้ง ชายหนุ่มค้อมศีรษะลงเล็กน้อยและยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่นางเอกสาวจะส่งยิ้มตอบกลับไปเช่นกัน
ครู่หนึ่งคุณหญิงฝากฟ้าก็เรียกให้นางเอกสาวดูชุดเครื่องเพชรที่เธอต้องสวมใส่ แสงระยิบระยับจากชุดมงกุฏและสร้อยข้อมือลวดลายอ่อนช้อยทำให้ใบหน้าสวยของเพลินพิศเปลี่ยนเป็นปุเลี่ยนๆ ด้วยความไม่มั่นใจ
ถ้าไอ้เม็ดใหญ่มันกระเด็นหลุดหายไปสักเม็ด เราไม่ต้องชดใช้จนแก่ตายกันไปข้างหนึ่งเลยเหรอ
คุณแม่คะ แฟงกับพี่เพิร์ลไปก่อนนะคะ
ฝากฟ้าที่หายตื่นตาตื่นใจกับความแวววาวของเครื่องประดับในกล่องหันไปบอกกับมารดา ก่อนจะดึงมือนางเอกสาวให้เดินออกจากห้องไป โดยมีสายตาสงบนิ่งของบอร์ดี้การ์ดหนุ่มที่มองตามหลังพวกเธอออกไปด้วย


อะไรกันเนี่ย ดาราสาวบ่นอย่างหงุดหงิดใจ เมื่อเครื่องยนต์ของรถคู่ใจไม่ยอมทำงานสักที
ถ้าไม่ติดว่าแกเป็นเพื่อนคู่ทุกข์คู่ยากกันมาตั้งแต่เข้าวงการใหม่ๆ เป็นรถที่ซื้อมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของฉันเองล่ะก็ จะเอาไปจอดทิ้งไว้ที่ร้านให้แม่ครัวใช้ปลูกสะระแหน่ทำกับข้าวขายเลยคอยดู 
รถเป็นอะไรคะ น้ำมันหมดหรือเปล่า” ฝากฟ้าตั้งข้อสันนิษฐานเมื่อเห็นว่าเครื่องยนต์ติดๆ ดับๆ
ไม่รู้เหมือนกันแฟง โธ่... อาตี๋จ๋า อย่าทำอาหมวยขายหน้าแขกสิ” หญิงสาวอ้อนวอนกับรถโฟร์วีลคันโตด้วยชื่อที่ฟังดูไม่ค่อยจะเข้ากับสัญชาติของมันสักนิด
เมื่อคิดได้ว่าหงุดหงิดใส่มันไปก็เท่านั้น ดาราสาวจึงลงมาเปิดกระโปรงหน้ารถและสวมวิญญาณช่าง ตรวจหาความผิดปกติ ส่องดูตรงนู้น แตะๆ จับๆ ตรงนี้ไปทั่ว
พี่เพิร์ลซ่อมรถเป็นด้วยหรือคะ” ฝากฟ้าถามด้วยน้ำเสียงและแววตาที่ทึ่งจัด ยิ่งชื่นชมความสามารถของพี่สาวร่วมวงการเข้าไปใหญ่
ระดับพี่น่ะเหรอ... ไม่เป็นหรอก” เพลินพิศบอกแล้วก็หัวเราะเมื่อได้ยินเสียงผิดหวังเต็มที่ของเด็กสาว
เห็นเราเป็นซุปเปอร์วูแมนหรือไงกัน
แค่ลองจับๆ ดูน่ะ แหม... ก็ตอนถ่ายละครนะ พอพระเอกมาช่วยนางเอกทีไร แค่แตะนั่นจับนี่นิดหน่อย รถก็สตาร์ตติดปุ๊บปั๊บ
แล้วเราจะทำยังไงดีคะ แฟงไม่ได้เอารถมาเองด้วย
คงต้องเลื่อนโปรแกรมไปก่อนละมั้ง” เพลินพิศบอกด้วยน้ำเสียงผิดหวังเพราะหมดอารมณ์สนุก อุตส่าห์วางแผนไว้แล้วว่าจะซื้ออะไรดี นี่พี่ไก่ก็น่าจะออกมารอแล้วด้วย โทรไปบอกยกเลิกตอนนี้ มีหวังเจอบทสวดยาวเยียดแน่
รถเป็นอะไรหรือครับ” เสียงเรียบทุ้มเอ่ยมาจากด้านหลังของหญิงสาวที่ก้มๆ เงยๆ อยู่หน้ารถ
เพลินพิศจำเสียงของคนถามได้ทันที เธอจึงยืดตัวขึ้นก่อนจะหันไปมองเจ้าของเสียงสวรรค์ พร้อมส่งรอยยิ้มหวานไปให้อย่างดีใจ
รถฉันสตาร์ตไม่ติดค่ะ ไม่รู้เป็นอะไรเหมือนกัน
ขอดูหน่อยนะครับ
เรียวก้มลงดู ดึงๆ จับๆ ไม่ต่างจากเจ้าของรถที่ทำไปก่อนหน้านี้เท่าไรนัก แล้วต้องอมยิ้มขำเมื่อได้ยินเสียงซุบซิบของสองสาว
อย่างกับพระเอกขี่ม้าขาวเลยนะ
อะไรมันจะเหมือนในละครขนาดนั้นคะ พี่เพิร์ล
ไม่รู้สิ ถ้าเกิดซ่อมได้ขึ้นมา เขาก็กลายเป็นพระเอกเลยน่ะสิ แล้วงานนี้ใครจะเป็นนางเอกดีล่ะ...
ผมว่าให้ช่างมาดูดีกว่านะครับ” ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาแนะนำ พร้อมซ่อนรอยยิ้มไว้อย่างมิดชิด
อ้าว!” คราวนี้เสียงของความผิดหวังดังประสานกันอย่างถูกจังหวะ
ฉันก็นึกว่าคุณจะซ่อมเป็นซะอีก เล่นทำท่าซะน่าเชื่อถือขนาดนั้น” เพลินพิศอดแขวะคนที่อาสาให้ความช่วยเหลือไม่ได้
พวกแค่ลองตรวจดูอะไรคร่าวๆ” เรียวย้อนหน้านิ่งทั้งที่นึกขำ ผมเป็นบอดี้การ์ดนะครับ ไม่ใช่ซุปเปอร์แมนถึงทำได้ทุกอย่าง
 ตาบ้านี่ ช่วยไม่ได้ยังจะมากวนอีก เพลินพิศแขวะชายหนุ่มในใจอย่างนึกหมั่นไส้ เริ่มจะไม่แน่ใจแล้วว่าไอ้ท่าทางที่เคยเห็นว่านิ่งขรึม สุภาพและดูเป็นคนดีของเขามันหลอกตาเธอหรือเปล่า
ไม่คิดจะช่วยยังมากวนให้เสียเวลาอีก” เด็กสาวอีกคนยั้งปากไว้ไม่ทัน โพล่งว่าเขาไปเต็มๆ
ช่วยสิครับ เดี๋ยวผมเรียกช่างมาดูให้ แล้วอาสาเป็นบอร์ดี้การ์ดไปส่งทั้งสองคนที่ห้างดีไหมครับ
นี่รู้ได้ไงว่าเราจะไปไหนกันต่อ” ฝากฟ้าถามด้วยความไม่ไว้ใจ
ชายหนุ่มยิ้มบางๆ ให้แทนคำตอบ แล้วผายมือไปทางรถยนต์สีดำเงาวับที่จอดอยู่ไม่ไกลนัก
ส่วนเจ้าคันนี้ก็จอดไว้ที่นี่ พอซ่อมเสร็จผมจะให้คนของผมขับไปส่งคืนให้ที่คอนโดคุณเพิร์ลนะครับ
ไม่กวนคุณเกินไปเหรอคะ” เพลินพิศถามย้ำอย่างเกรงใจ แต่ในเมื่อมีคนอาสามาช่วย ไม่เห็นมีเหตุผลอะไรให้ต้องปฏิเสธ
ไม่เลยครับ ผมเต็มใจ” เรียวพูดขณะปิดกระโปรงรถลง พลางปัดฝุ่นที่มือสองสามทีก่อนจะแตะที่ข้อศอกหญิงสาวอย่างสุภาพ
ไปเถอะครับ
แต่ก่อนที่จะได้ขยับไปไหน เพลินพิศก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังแว่วออกมาจากในรถ หญิงสาวเกือบลืมมันทิ้งไว้ในรถเสียแล้ว โทรศัพท์ที่ดังขึ้นเป็นเพลงพิเศษทำให้เพลินพิศรู้ทันทีว่าใครเป็นคนโทรเข้ามา จึงทำใจสักครู่ก่อนจะหยิบมันมากดรับ แล้วก็เป็นไปตามที่คาดไว้ เสียงบ่นไม่เว้นช่วงหายใจพ่นออกมาตามสาย เพราะศุภชนม์ไปถึงที่นัดหมายและนั่งรอเธอเกือบชั่วโมงแล้ว
เพลินพิศรีบคว้ากระเป๋าถือออกมาจากเบาะหลัง เอาโทรศัพท์ออกห่างจากหูไม่อยากรับฟังคำบ่นของผู้จัดการส่วนตัว ก่อนจะเดินนำลิ่วไปขึ้นรถของเรียว ไม่วายหันมาเร่งชายหนุ่มที่ขันอาสาไปส่ง
เอาให้ด่วนจี๋ เหมือนขี่จรวดเลยนะคุณ


ศุภชนม์นั่งไขว่ห้างเอนหลังพิงกับพนักเก้าอี้ในร้านกาแฟอย่างเบื่อหน่ายกับการรอคอย ปลายนิ้วสะอาดสะอ้านเคาะโต๊ะด้วยจังหวะถี่ยิบราวกับมันจะเร่งให้คู่นัดของเขามาถึงเร็วขึ้น และจังหวะรัวก็ต้องสะดุดลงเมื่อเห็นคนที่นัดไว้เดินเข้ามาในร้าน
อ้าวไหงมากับคุณเรียวและน้องแฟงได้ล่ะนี่ ไม่กลัวใครเอาไปเขียนข่าวเลยหรือไงกันนะ
โทษทีพี่ไก่ อาตี๋ของเพิร์ลมันทรยศ อยากอู้งานขึ้นมาซะอย่างนั้น” เพลินพิศรีบอธิบาย ไม่ปล่อยโอกาสให้คนที่ทำหน้ายุ่งอยู่ได้มีช่องว่างแทรกบทสวดขึ้นมาก่อน แล้วก็จัดแจงจับบอดี้การ์ดมาดซามูไรนั่งลงข้างๆ ผู้จัดการหนุ่มเพื่อเป็นกันชนให้เธอที่ทรุดตัวนั่งลงข้างๆ นางเอกรุ่นน้อง
มาช้าก็ยังดีกว่าไม่มาละนะ
เมื่อได้เห็นหน้าชายหนุ่มในสเปค หนุ่มตาหวานก็อารมณ์ดีขึ้นมากะทันหัน
ทานอะไรกันก่อนไหม ผู้จัดการหนุ่มเปลี่ยนอารมณ์ทันที
ผู้มาใหม่ทั้งสามส่ายหน้าพร้อมเพรียง ศุภชนม์จึงเรียกพนักงานให้มาเก็บเงิน แล้วทั้งสี่ก็ได้ฤกษ์ยกขบวนกันออกไปเดินเลือกซื้อของตามที่ตั้งใจไว้


เห็นพี่เพิร์ลไหมคะ ฝากฟ้าหันซ้ายหันขวาถามศุภชนม์
เมื่อครู่เธอเห็นเสื้อกันหนาวสีหวานน่ารักมากๆ จึงแวะเข้าไปดู โดยลืมเรียกคนอื่นๆ ให้หยุดรอ พอกลับออกมาก็เหลือแต่ผู้จัดการหนุ่มที่ยังยืนดูของอยู่ใกล้ๆ
อ้าว! พี่นึกว่าน้องแฟงอยู่กับเพิร์ลซะอีก
ไม่ค่ะ พอดีแฟงแวะร้านตรงนู้น หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้” อธิบายแล้วเธอก็ยืดคอเขย่งเท้ามองหา
ไม่เป็นไร ค่อยๆ เดินไปเดี๋ยวก็เจอเอง มา... พี่ถือให้” เสียงใจดีเอ่ยปลอบเด็กสาว
ศุภชนม์เอื้อมมือไปหวังจะคว้าถุงเสื้อผ้าในมือเด็กสาวมาถือให้ แต่ปลายนิ้วที่เฉียดไปโดนหลังมือของเธอก็ทำเอาฝากฟ้ารีบชักมือกลับอย่างรวดเร็ว มันเป็นปฏิกิริยาอัตโนมัติที่เกิดจากการไม่ไว้ใจผู้ชายของเธอ แม้ว่าเหตุการณ์ร้ายๆ จะผ่านมานานแล้วก็ตาม แต่ทุกครั้งที่เข้าใกล้เพศตรงข้าม ความทรงจำก็จะแวบเข้ามาเตือนให้เธอนึกขยาดอยู่เสมอ
พี่ขอโทษครับ พี่แค่เห็นว่าน้องแฟงอาจจะหนักเลยอยากช่วย” ศุภชนม์เข้าใจว่าเป็นเพราะเด็กสาวได้รับการอบรมมาอย่างดี จึงอดนึกชื่นชมเอ็นดูอยู่ในใจไม่ได้ที่เห็นเด็กสมัยใหม่อย่างเธอรู้จักรักนวลสงวนตัว
เอ่อ... แฟงขอโทษด้วยค่ะ
ฝากฟ้าไม่อยากอธิบายเหตุผลของการกระทำ แต่ก็กลัวว่าคนตรงหน้าจะคิดว่าเธอถือตัว จึงก้มหน้าลงรับความผิด ศุภชนม์ยิ้มให้อย่างเข้าใจ ก่อนจะเอื้อมมือไปรอรับถุงทั้งหมด โดยไม่แตะโดนมือของเด็กสาว ฟักแฟงจึงยอมรับไมตรีของอีกฝ่ายโดยการส่งถุงในมือให้ แล้วก็นึกแปลกใจตัวเองไม่น้อยที่เกิดความรู้สึกสบายใจอย่างประหลาดเมื่ออยู่ใกล้ผู้ชายคนนี้


เมื่อเรียวเห็นโอกาสเหมาะที่นางเอกสาวเดินอยู่คนเดียว ก็ตรงเข้าไปแย่งถุงข้าวของในมือของเธอมาถือไว้และออกเดินไปโดยไม่วายหันมาขอร้องกึ่งออกคำสั่ง
คุณเพิร์ลครับ ช่วยตามมาทางนี้หน่อยนะครับ
อะไรกัน คุณ!” เจ้าของถุงรีบเดินตามอย่างงงๆ แล้วทำไมต้องมาเดินเบียดกับคนอื่นด้วยนะ ทางโล่งๆ มีก็ไม่ไป
คนเดินนำใช้เพียงหางตาเหลือบไปมอง แล้วก็อมยิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นนางเอกสาวเดินตามมาอยู่ไม่ห่าง เรียวค่อยชะลอฝีเท้าให้เธอได้ตามทัน พร้อมเตรียมหูไว้รับฟังคำโวยวาย
นี่จะไปไหนของคุณฮะ เล่นเดินดุ่มๆ มาอย่างนี้ หัดดูคนเดินตามบ้างสิ
เพลินพิศเดินมาทันก็เริ่มโวยทันที และยิ่งโมโหใหญ่เมื่อเห็นรอยยักโค้งที่มุมปากกับแววระยิบระยับในดวงตาของเขา
ยิ้มอะไรไม่ทราบ
เปล่าครับ
เปล่าอะไรของคุณ เปล่าดูคนตาม... หรือว่าเปล่ายิ้ม
เรียวได้แต่ส่ายหน้ายิ้มๆ ไม่ถือสาที่เธอบ่นยาวเยียด เมื่อเห็นเธอบ่นจนหนำใจแล้ว เรียวก็เริ่มก้าวเท้าเดินต่อ
หลังจากที่เดินตามบอดี้การ์ดหนุ่มมาได้ไม่นาน เพลินพิศก็ถูกหลอกล่อให้หันไปทุ่มเทความสนใจกับการเลือกซื้อของใช้จำเป็นตามที่ชายหนุ่มชักชวนและให้คำแนะนำ แถมยังเป็นแรงงานช่วยถือของอีกต่างหาก
ไหนว่าคุณจะมาซื้อของด้วยไง ไม่เห็นได้อะไรเลย” เพลินพิศมองดูข้าวของจากร้านค้าต่างๆ ในมือชายหนุ่มที่ล้วนแต่เป็นของของเธอทั้งนั้น เธอไม่เห็นว่าเรียวจะแยกไปหาซื้อของอย่างที่ได้บอกไว้ในตอนที่เขาขอตามพวกเธอเข้ามาในห้างเลยสักนิด
ชายหนุ่มเพียงแค่ยิ้มแล้วเปลี่ยนเรื่อง จะเข้าป่า ควรพกยาทากันยุงไปด้วยนะครับ
เรียวหันไปหยิบโลชั่นทากันยุงที่เป็นขวดสำหรับทดลองใช้มาเปิดฝาออก และยื่นไปตรงหน้าหญิงสาว ลองเลือกดูสิครับ อันนี้ก็ใช้ได้ดีเหมือนกัน กลิ่นไม่แรงมาก
เพลินพิศคว้าขวดใบเล็กจากมือเขาขึ้นมาและลองสูดจมูกฟุดฟิดแทนการดมจากที่เขายื่นให้ตรงๆ เมื่อยังไม่ได้กลิ่นก็ออกแรงบีบที่ข้างขวดหวังจะให้มันพ่นเอากลิ่นที่อยู่ข้างในออกมา แต่แล้วก็ต้องผงะออก เมื่อสิ่งที่พุ่งพรวดออกมากลับเป็นโลชั่นสีชมพูอ่อนๆ แถมยังกระเด็นมาโดนปลายจมูกของคนที่พยายามดมกลิ่นของมันอีก ตอนนี้ดาราสาวจึงได้กลิ่นของมันชัดเจนเชียวล่ะ
ฮึ่ย!” หญิงสาวรีบวางมันลงกับชั้นเหมือนเดิม พลางใช้หลังมือป้ายโลชั่นที่ติดบนปลายจมูกออกอย่างลวกๆ แล้วกวาดตาอ่านรายชื่อกลิ่นต่างๆ ที่เรียงอยู่บนชั้นพร้อมพยักหน้าพึมพำกับตัวเอง
อืม... กลิ่นไม่แรงจริงๆ ด้วยแฮะ จะเข้าไปอยู่ในจมูกอยู่แล้วยังได้แค่กลิ่นอ่อนๆ เอง
เรียวมองหน้าหญิงสาวแล้วก็ต้องยิ้มตาม ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่น ป่านนี้คงวุ่นวายหาผ้ามาเช็ด หาน้ำมาล้างหน้ากันยกใหญ่แล้ว ไม่มีใครจะมาเลือกของสบายใจอยู่อย่างนี้หรอก
ว่าแล้วชายหนุ่มก็ล้วงเอาผ้าเช็ดหน้าออกมาจากสูทด้านใน และยื่นมือไปหวังจะเช็ดให้คนที่ไม่ใส่ใจตัวเอง
มันย้ายมาติดอยู่ที่แก้มแน่ะครับ” เรียวบอกกึ่งขออนุญาตเมื่อหญิงสาวปัดมือเขาออกอย่างตกใจ
ชายหนุ่มใช้จังหวะที่เพลินพิศหันขวับ เงยหน้าขึ้นมามองเป็นโอกาสให้ได้ทำตามที่ตั้งใจ เช็ดคราบโลชั่นบนใบหน้าเธออย่างเบามือ ท่าทางสุภาพของเขาทำให้ดาราสาวยอมยืนอยู่นิ่งๆ แต่เธอรู้สึกได้ว่าหัวใจของเธอชักจะอยู่ไม่นิ่งเสียแล้ว มันกำลังเต้นตึกตักเสียงดังราวกับว่าเธอเพิ่งวิ่งรอบสนามฟุตบอลมาสักสาม รอบ กลิ่นหอมสดชื่นจากน้ำหอมผู้ชายที่ติดมากับผ้าผืนบางนั้นก็ยิ่งชวนให้หัวใจทำงานหนักขึ้นไปอีก
ฉันเช็ดเองก็ได้” เพลินพิศรู้สึกตัวส่งเสียงท้วงเมื่อชายหนุ่มคว้ามือข้างที่เธอใช้ป้ายจมูกขึ้นมา รีบฉวยเอาผ้าผืนเล็กในมือเขามาเช็ดที่หลังมือตัวเองให้สะอาด ก่อนที่จะเก็บมันลงกระเป๋า
เดี๋ยวฉันเอาไปซักให้ แล้วจะเอามาคืนให้ทีหลังนะ
ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นเมื่อเห็นอาการเก้อเขินของนางเอกสาว ก่อนจะอมยิ้มอย่างพอใจ
จะเก็บไว้แทนตัวผมก็ได้นะครับ” ชายหนุ่มบอกด้วยหน้านิ่งๆ อันเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว ทำเอาดาราสาวต้องมองตาค้างเพราะคาดไม่ถึงว่าจะได้ยินอะไรทำนองนี้จากปากเขา
ตาบ้า! กินยาลืมเขย่าขวดมารึเปล่าเนี่ย


อ่านต่อ >> ฉากที่ 7 : เหตุระทึก


หรือเป็นเจ้าของความฟินกันแบบเต็มๆ ได้เลย!
สั่งซื้อรูปเล่ม... ที่เว็บ สนพ. Coolkat หรือร้านหนังสือออนไลน์
โหลดฉบับอีบุ๊ค... ได้ตามแหล่งที่ถูกใจเลยค่ะ




No comments:

Post a Comment