8 July 2017

# แก่นฝัน # เจาะระบบ@หัวใจ

เจาะระบบ@หัวใจ - 008 : การตัด(สิน)ใจของผู้กองช้าง

เจาะระบบ@หัวใจ ชุดสี่สาว

ผู้เขียน : แก่นฝัน

ตีพิมพ์ครั้งแรก โดย สนพ. คูลแคท
เผยแพร่ฉบับอีบุ๊ค โดย แก่นฝัน

© สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามคัดลอกหรือดัดแปลงส่วนหนึ่งส่วนใดของนิยายเรื่องนี้
เพื่อนำออกเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต


008 : การตัด(สิน)ใจของผู้กองช้าง

ดวงเด่นหรือ ข้าวมันขาหมู’ กำลังฆ่าเวลาในการดูแลเว็บโคมันนี่ ด้วยการเข้าไปขุดคุ้ยข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ของชาวชุมชนช่างเจาะที่หลงโหลดลิงก์แฝงไวรัสของเขาเข้าไป นอกจากจะมีไวรัสที่ตัดขาดคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นจากโลกอินเทอร์เน็ตแล้ว มันยังมีโทรจันที่ไม่แสดงฤทธิ์อะไรแอบแฝงไปด้วยอีกหนึ่งตัว และเจ้าโทรจันตัวนี้นี่เองที่เป็นตัวเชื่อมต่อให้เขาสามารถเข้าถึงข้อมูลในคอมพิวเตอร์ของเหยื่อที่กำลังออนไลน์อยู่ได้อย่างสบายๆ เสมือนหนึ่งเป็นเจ้าของเครื่องเลยทีเดียว แต่แฮกเกอร์หนุ่มก็ซอกแซกในเครื่องเหล่านั้นอย่างนิ่งนอนใจได้ไม่นาน นายช่างใหญ่ก็ประกาศคำเตือนเรื่องโทรจันที่แอบแฝงมากับไวรัสของเขาขึ้นบนบอร์ดของชุมชน เขาจึงต้องเร่งมือให้รวดเร็วยิ่งขึ้น ก่อนที่ชาวเจาะทั้งหลายจะกำจัดมันออกจากเครื่องเสียก่อน
แล้วก็มาถึงคิวต่อไป... คอมพิวเตอร์ของนางงามรักเด็ก
ดวงเด่นพยายามอยู่นานทีเดียวสำหรับการเข้าไปค้นดูข้อมูลในเครื่องของแฮกเกอร์สาว แล้วก็ต้องคาดไม่ถึงกับข้อมูลมากมายเกี่ยวกับคดีโต๊ะบอลออนไลน์และเว็บโคมันนี่ รวมทั้งหลักฐานเชื่อมโยงทั้งสองเว็บเข้ากับตัวเขาที่อีกฝ่ายได้รวบรวมไว้ และมันทำให้แฮกเกอร์หนุ่มเริ่มร้อนใจสงสัยในตัวตนที่แท้จริงของนางงามรักเด็กขึ้นมาทันที แต่ก่อนอื่นเขาต้องรีบหาทางทำลายข้อมูลเหล่านั้นเสีย
แต่แล้วแฮกเกอร์หนุ่มก็ต้องกำมือทุบโต๊ะอย่างขัดใจ เมื่อฝ่ายนั้นไหวตัวทันและรีบขับไล่เขาออกจากอาณาเขตของตัวเองได้เสียก่อน ชายหนุ่มเริ่มร้อนใจยิ่งขึ้นเมื่อหวนคิดถึงตัวตนของแฮกเกอร์สาวที่อาจจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่ง ไม่อย่างนั้นทำไมต้องรวบรวมข้อมูลความผิดของเขาเอาไว้มากมายขนาดนั้น
หากร้อนรนเพียงไม่นาน... เขาก็นึกถึงวิธีสืบประวัติของเธอได้ เขาพิมพ์ที่อยู่อีเมล์ของนางงามรักเด็กลงบนช่องว่างในโปรแกรมที่เพิ่งเปิดขึ้นมา แล้วก็ส่งยิ้มท้าทายราวจะส่งผ่านหน้าจอไปให้หญิงสาวเจ้าของอีเมล์
เดี๋ยวเราจะได้รู้กันว่าเธอเป็นใครกันแน่

เช้าวันรุ่งขึ้น... ไอยราวัณเข้ามาทำงานอย่างมุ่งมั่นว่าจะต้องแก้ไขความเข้าใจผิดของแฮกเกอร์สาวให้จงได้ เพราะหากเธอยังเข้าใจผิดว่าเขามีครอบครัวแล้วอย่างนี้ ที่เคยหยอกเย้าอีกฝ่ายไป เธอจะไม่คิดว่าเขาเป็นพวกเจ้าชู้ประตูดินไปแล้วหรือ
เดี๋ยวตามไปพบฉันที่ห้องหน่อยสิ” ผู้กองหนุ่มเอ่ยสั่งกับหญิงสาวที่อยู่หน้าห้องทำงานเพียงสั้นๆ
ผู้กองมีอะไรจะสั่งงานหรือเปล่าคะ” ละมุนพรรณถามน้ำเสียงติดห่างเหิน ด้วยยังไม่หายเคืองเรื่องที่อีกฝ่ายกล่าวหาเธอไว้เมื่อวาน แต่เมื่อเขายังยืนยันคำสั่งอย่างจริงจัง เธอก็เข้าใจว่ามันคงเกี่ยวกับงาน ลับ’ ที่ติดตามอยู่ จึงรีบทิ้งอารมณ์เกี่ยงงอน หอบเอาเจ้ารอยเตอร์ตามเข้าไปทันที
นั่งก่อนสิ ไอยราวัณเพียงเอ่ยอนุญาต ก่อนจะนิ่งมองแฮกเกอร์สาวอย่างใช้ความคิด จนเป้าสายตาชักรู้สึกสะบัดร้อนสะบัดหนาวกับแววตาแปลกๆ ของผู้กองหนุ่ม จึงรีบถามเข้าเรื่องงานทันที
เรียกพี่เหนือเข้ามาสรุปหลักฐานที่เรามีอยู่กันเลยไหมคะ
แต่แทนที่ผู้กองหนุ่มจะตอบรับเรื่องงาน เขากลับพูดถึงอีกเรื่อง เรื่องเมื่อวานเรายังคุยกันไม่จบเลยนะ
ละมุนพรรณกลับเข้าใจไปว่าอีกฝ่ายทวงถามถึงคดีที่เธอไม่ได้ก่อ จึงรีบแก้ความเข้าใจผิดของเขาอย่างร้อนใจ
ฉันไม่ได้ใส่อะไรลงในน้ำส้มนั่นจริงๆ นะคะ
เรื่องนั้นฉันเชื่อ ผู้กองหนุ่มบอกปัดอย่างไม่ได้เห็นว่าเรื่องนี้สำคัญ จนคนฟังพานนึกเข้าใจไปว่าอีกฝ่ายคง เชื่อ’ เพียงแค่ในคำพูด
แต่เรื่องที่ฉันจะเคลียร์ คือเรื่องที่ฉันยัง...
สวัสดียามเช้าครับผู้กอง!” หมวดเหนือเมฆเปิดประตูพรวดเข้ามาส่งเสียงทักทายเช่นที่ทำเป็นประจำ แต่เมื่อเขาเห็นแววตาขุ่นๆ ที่ผู้กองไอยราวัณส่งไปให้ หมวดหนุ่มที่มั่นใจว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิดก็ชักรู้สึกหวั่นๆ ขึ้นมา งั้น... ไว้ผมค่อยเข้ามาใหม่ดีกว่า
ไม่ต้องหรอก มาแล้วก็เข้ามา” ไอยราวัณเอ่ยอนุญาตเสียงห้วน
เมื่อเห็นผู้บังคับบัญชาพร้อมทำงาน หมวดเหนือเมฆเองก็พร้อมปรับท่าทางให้ดูจริงจัง หลักฐานชุดสุดท้ายครับผู้กอง จะให้ผมส่งฟ้อง ท่าน’ กับนายดวงเด่นพร้อมๆ พวกนักศึกษาเลยไหมครับ
ยังหรอก เราจะทำงูตื่นเสียเปล่าๆ ตัวท่านคงจะไม่สะเทือนแค่เพราะคดีโต๊ะบอลหรอก
ผู้กองจะรอให้โคมันนี่มันแผลงฤทธิ์ แล้วเราค่อยตะครุบรวบสองกระทงให้ดิ้นไม่หลุดเหรอคะ
ใช่... คิดว่าคงอีกไม่นานหรอก
ไอยราวัณจัดการถ่ายโอนข้อมูลทั้งหมดมาไว้ในกล่องฮาร์ดดิสก์ที่มีหลักฐานของช่วงก่อนหน้านี้บันทึกอยู่ พอเสร็จสิ้นก็ถอดสายเชื่อมต่อข้อมูลออกและส่งมันต่อให้แฮกเกอร์สาว
ฝากสำเนาข้อมูลไว้ที่เธอด้วยนะละมุน เพราะเราเก็บหลักฐานไว้ในระบบของที่นี่ไม่ได้ มันเสี่ยงเกินไปที่จะให้คนอื่นมาเจอเข้า
ไว้ใจได้เลยค่ะ ละมุนพรรณรับกล่องสีดำนั้นมาด้วยหัวใจพองฟูอย่างประหลาด แค่เพียงเพราะได้รับรู้ถึงความไว้วางใจที่อีกฝ่ายมอบให้
หมวดเหนือเมฆเอ่ยขอตัวทันทีที่เห็นว่าหมดเรื่อง ส่วนละมุนพรรณเองก็เตรียมจะลุกตามหมวดรุ่นพี่ไปติดๆ
เดี๋ยวสิละมุน...” ไอยราวัณรีบรั้งตัวเธอเอาไว้ เพื่อจะได้คุยกันให้รู้เรื่องเสียที “จะเอาฮาร์ดดิสก์ออกไปข้างนอกด้วยหรือไง
อุ้ยขอโทษทีค่ะ ลืมไปเลย” หญิงสาวทรุดนั่งลงตามเดิม แล้วเริ่มการสำเนาข้อมูลเก็บไว้กับเจ้ารอยเตอร์อีกชุด ขณะรอหญิงสาวก็พูดคุยกับใครบางคนผ่านโปรแกรมสนทนาไปพลาง
เธออยู่บ้านคนเดียวหรือละมุน แล้วคนอื่นๆ ในครอบครัวล่ะ” ผู้กองหนุ่มเริ่มหาเรื่องชวนพูดคุย
หนีไปอยู่เมืองนอกกันหมดเลยค่ะ ไม่อยู่เมืองไทยสักคน” ละมุนพรรณเงยหน้ามาตอบหนึ่งประโยค สลับกับก้มลงไปพิมพ์อะไรบางอย่างกับเจ้ารอยเตอร์ แล้วค่อยเงยหน้าขึ้นมองคนฟังที่ขมวดคิ้วแสดงสีหน้าบางอย่างออกมา
แต่อย่ารีบตัดสินว่าละมุนเป็นเด็กมีปัญหานะคะ บ้านเรารักกันดี” หญิงสาวรีบแก้ แล้วก็ก้มลงไปใหม่
ยังไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย แล้วคุยอะไรกับใครอยู่ด้วยหรือไง” ไอยราวัณชักรู้สึกขัดตากับท่าทางก้มๆ เงยๆ แถมยังยิ้มหัวเราะให้หน้าจออย่างนั้นขึ้นมาตงิดๆ ทั้งที่เขาพยายามอย่างมากที่จะหาทางเข้าเรื่องที่ต้องการบอก แต่เธอกลับไม่ให้ความสำคัญกับการสนทนานี้เลย
ถึงคุยก็ไม่ได้เสียงานสักหน่อยนี่คะ” ละมุนพรรณเถียงทั้งที่มือยังพิมพ์ข้อความไม่หยุด คนนี้น่ะ เป็นอีกแรงสำคัญที่ช่วยหาหลักฐานให้เราเลยนะคะ
ฝ่ายผู้กองหนุ่มได้ยินเธอถือสิทธิทวงบุญคุณแทนใครคนนั้นแล้วก็ยิ่งหงุดหงิด เสียงที่ถามออกไปจึงเข้มขึ้นอย่างชัดเจน “เอาความลับของเราไปบอกให้คนนอกรู้ด้วยหรือละมุน ไว้ใจเขาได้หรือไง เธอควรปรึกษาฉันก่อน รู้หรือเปล่า
เมื่อจู่ๆ ก็ถูกตำหนิ แฮกเกอร์สาวก็ชักสีหน้าบึ้งตึงขึ้นมามองคนช่างดุทันที เพราะมั่นใจว่าทุกอย่างที่เธอทำลงไปไม่ได้เป็นความผิดให้เขามาตำหนิเธอได้เลยสักนิด
ฉันบอกไปเพราะรู้ว่าคนๆ นี้ไว้ใจได้แน่นอน ผู้กองไม่ต้องห่วงเรื่องที่เขาจะเอาความลับไปทำให้เสียเรื่องหรอกนะคะ
ความรู้สึกขุ่นมัวที่เกิดจากการถูกตำหนิในสิ่งที่เธอไม่ผิด บวกกับความน้อยใจจากคดีน้ำส้มที่ย้อนกลับมาอีกครั้ง ทำให้ละมุนพรรณเตรียมลุกหนี
จะไปไหน” ไอยราวัณก้าวมาคว้าต้นแขนของหญิงสาวเอาไว้ก่อน
ไปที่ไหนก็ได้ค่ะ ฉันเกลียดการถูกกล่าวหาหรือต่อว่าในสิ่งที่ไม่ได้ทำผิด เลยกำลังไม่ชอบหน้าผู้กองมากๆ เลยตอนนี้” ละมุนพรรณตอบกลับอย่างตรงไปตรงมาตามใจคิด
ฉันขอโทษแล้วกัน แต่เธอต้องเข้าใจนะละมุน ว่าถ้างานของเราพลาด มันจะมีผลกระทบกับเบื้องหลังของเราอีกหลายคน จะด่วนตัดสินใจทำอะไรโดยพลการไม่ได้” ไอยราวัณค่อยอธิบายอย่างใจเย็น
งั้นฉันก็ต้องขอโทษด้วยค่ะที่ทำอะไรโดยพลการ แต่ฉันขอรับรองว่าฉันไว้ใจคนๆ นี้เท่ากับที่ไว้ใจตัวเองค่ะ นอกเสียจากว่าผู้กองจะไม่เชื่อใจฉันด้วย” แฮกเกอร์สาวยืนยันทิ้งท้ายไว้ ก่อนจะเดินหนีออกจากห้องไป ไม่ทันสังเกตใบหน้าของผู้กองหนุ่มที่เคร่งขรึมคิดหนักยิ่งขึ้นเพราะคำพูดอันหนักแน่นของเธอ
ฉันไว้ใจในคนๆ นี้เท่ากับที่ไว้ใจตัวเองค่ะ...
ไอยราวัณเหลือบไปอ่านข้อความบนหน้าจอของเจ้ารอยเตอร์ที่หญิงสาวลืมทิ้งไว้เพราะความโมโห เขารู้ดีว่ามันเป็นการเสียมารยาท แต่ความอยากรู้และความร้อนใจมันก็ทำให้เขาห้ามสายตาตัวเองไม่ได้
La’ Mai Prohm พูดว่า: ดูแลตัวเองนะมูน คิดถึงเสมอเลยนะ
La’ Moon พูดว่าอืม... คิดถึงที่สุดเหมือนกัน
La’ Mai Prohm พูดว่า: รักตัวเองนะ
La’ Moon พูดว่า: ฮิๆ เค้ารู้อยู่แล้วน้า
ไอยราวัณเพิ่งตระหนักถึงอีกเรื่องหนึ่งที่เขาลืมนึกไป แม้ตอนนี้เขาจะยังโสดไม่มีพันธะ นอกจากหลานชายที่น่ารักสองคน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณนางงามหน้าหวานจะไม่มีใครเสียหน่อย ก็คำพูดหนักแน่นมั่นใจที่เธอเอ่ยถึงใครคนนั้น มันไม่ใช่สิ่งที่ใช้พูดถึงคนที่รักและเชื่อใจกันมากๆ หรอกหรือ

ละมุนพรรณตรงไปหาเจ้าธันเดอร์... รถสปอร์ตสีฟ้าเข้มของเธอในทันทีที่ออกจากตึกคดีพิเศษมาได้ หญิงสาวเหยียบคันเร่งพารถคันงามพุ่งทะยานเต็มความแรงไปบนทางด่วน สลับกับปาดซ้ายแซงขวาอย่างน่าหวาดเสียวมาช่วยระบายความหงุดหงิดสับสนที่อยู่ในหัวใจอยู่สักครู่ใหญ่ คันเร่งของเจ้าธันเดอร์ก็ถูกผ่อนลงตามอารมณ์ของนักซิ่งสาวที่เย็นลง ก่อนที่หญิงสาวจะบังคับรถให้เบี่ยงซ้ายลงจากทางด่วน เพื่อที่จะไปที่ทำงานของใครบางคน คนที่อาจจะช่วยให้เธอหายจากอาการสับสนวุ่นวายใจอย่างที่เป็นอยู่ได้
“ทำไมวันนี้ถึงมีเวลามาชวนฉันโดดงานได้ล่ะ ไม่ต้องไปเป็นพลเมืองดีช่วยเหลือพวกคุณตำรวจแล้วหรือไง” ตรินยาถามขึ้น หลังจากนั่งสังเกตความผิดปกติบนสีหน้าของเพื่อนสาวอยู่พักใหญ่ “ว่าไง เป็นอะไรไป”
“แกว่าฉันเป็นคนขี้ใจน้อยไหม” ละมุนพรรณยังไม่ตอบ แต่ถามกลับ
“ไม่เลย... ถ้าเป็นกับคนทั่วไปที่แกไม่ได้ให้ความสำคัญกับเขาน่ะนะ”
คำตอบของตรินยาทำให้คนตั้งคำถามยิ่งขมวดคิ้ว
ให้ความสำคัญ’ กับผู้กองน่ะเหรอ...
แย่แล้วไอ้มูนเอ๊ย มันเป็นอาการเริ่มต้นของความรู้สึกอันตรายเลยนะนั่น... ละมุนพรรณโวยวายอยู่ในใจ ก่อนจะถอนหายใจยาวจนตรินยายิ่งนึกห่วง
“ไอ้ตรี... เพื่อนแกแย่แน่แล้ว” ละมุนพรรณเงยหน้ายุ่งๆ ขึ้นมาขอความช่วยเหลือจากศิราณีประจำกลุ่ม เมื่อรับรู้ได้ว่าสิ่งที่ตัวเองรู้สึกต่อคำพูดของผู้กองหนุ่มแต่ละคำนั้นมันไม่เหมือนเธอคนเดิมเลยสักนิด
“แย่อะไร อย่าบอกนะว่าแกมีเรื่องน้อยอกน้อยใจนายตำรวจคนไหนอยู่” ตรินยาคาดเดาได้แม่นราวตาเห็น
“ฉันไม่อยากรู้สึกอย่างนี้เลยนะแก” ละมุนพรรณครวญออกมาอย่างนึกกลัวในความรู้สึกที่อาจจะพัฒนาต่อไปได้
“มีอะไรอยากเล่าให้ฉันฟังไหม”
ละมุนพรรณสบตาเพื่อนรักอย่างชั่งใจ จากนั้นเรื่องราวต่างๆ ก็พรั่งพรูออกมา โดยมีตรินยาพยักหน้ารับฟัง พลางวิเคราะห์สถานการณ์เพื่อให้คำปรึกษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเพื่อนสาว
“แกก็แค่ประทับใจ บวกกับ ชื่นชม’ ผู้กองเท่านั้นแหละน่า” ตรินยาพยายามเลี่ยงคำว่า ชื่นชอบ ที่คิดว่าเพื่อนสาวอาจกำลังรู้สึกต่อผู้กองคนนั้น
“เขาเป็นคนดีที่แกดันไปเจอในที่ที่เคยเชื่อและไม่คิดว่าจะมีคนอย่างเขาอยู่ ก็เลยประทับใจ นึกนับถือเขาขึ้นมา ส่วนที่คิดมากกับคำพูดของเขา มันก็เหมือนกับเวลาแกโดนคุณครูที่แกนับถือดุนั่นแหละ”
ละมุนพรรณรับคำพูดของเพื่อนมาทบทวน เมื่อได้คำตอบสำหรับหัวใจที่สับสนของตัวเองแล้วก็สบายใจขึ้นมาบ้าง
“แต่เรื่องแบบนี้... ถึงแกจะไม่คิดอะไรเวลาทำตัวสนิทสนมกับเขา แต่คนอื่นก็อาจคิดไม่ดีได้ ฉันว่าแกควรอยู่ห่างๆ จากเขาดีกว่า” ตรินยาแนะนำวิธีป้องกันหัวใจ... สิ่งที่ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถควบคุมได้ ด้วยการตัดปัญหาที่อาจเกิดจากฝ่ายชายหนุ่ม เพราะเท่าที่ฟังจากเพื่อนสาวแล้ว เธอรู้สึกว่าความประพฤติของเขาดูไม่น่าไว้ใจสักเท่าไหร่
ครอบครัวก็มีแล้ว ยังจะต้องอ้างให้เพื่อนเธอเป็นคนรักด้วยทำไม ถึงเขาจะเป็นตำรวจที่ดี ก็ใช่ว่าจะเป็นผู้ชายที่ดีไม่เจ้าชู้เสียหน่อย
“โอเค… มาปรึกษาตรี ก็ต้องเชื่อตรีสิเนอะ” ละมุนพรรณยอมรับฟังอย่างไว้วางใจในคำพูดของเพื่อนสาวเต็มที่ “ที่แท้ฉันก็แค่นับถือผู้กอง ยังไม่ได้คิดเป็นอย่างอื่นเสียหน่อย รู้อย่างนี้แล้วค่อยโล่งใจหน่อย”
“อือ... แกสบายใจแล้วก็ดี ไปหาอะไรกินแล้วค่อยกลับกันเถอะ” ตรินยาชักชวนด้วยเสียงรื่นเริง แต่ลึกในใจนั้นยังไม่ได้หมดห่วงไปกับเพื่อนสาวเลย

เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์แล้วที่หมวดเหนือเมฆเฝ้าสังเกตความเปลี่ยนแปลงระหว่างผู้บังคับบัญชาของตนกับรุ่นน้องสาวอย่างสนใจ ทั้งคู่ไม่มีการพูดเล่นหยอกเย้ากันเหมือนในช่วงก่อนหน้าอีกเลย แม้ท่าทีของสาวรุ่นน้องจะดูเหมือนเดิมแทบทุกอย่าง แต่หมวดหนุ่มก็ยังรู้สึกได้ถึงความระมัดระวังไว้ตัวที่เธอแสดงออกมาเป็นครั้งคราว
ส่วนฝั่งผู้กองไอยราวัณนั้น จากที่ทำงานด้วยกันมานาน หมวดเหนือเมฆมั่นใจได้เลยว่าผู้บังคับบัญชาของเขากำลังมีความขัดแย้งบางอย่างอยู่ในตัว รวมถึงการแสดงออกต่อแฮกเกอร์สาวที่แปลกไป แม้ว่าผู้กองของเขาจะพยายามทำทุกอย่างให้เหมือนปกติแล้วก็ตาม
“ผู้กองอยากได้กาแฟ ทำไมไม่บอกล่ะคะ จะชงเข้าไปให้” ละมุนพรรณเงยหน้าขึ้นจากกองเอกสารปึกใหญ่ที่เธอกำลังจัดเรียง เพื่อร้องถามกับผู้กองหนุ่มที่เดินถือถ้วยกาแฟผ่านหน้าเธอไป
“เห็นเธอยุ่งๆ กับการเตรียมรวบรวมหลักฐานส่งฟ้องคดีเกมออนไลน์อยู่ เลยไม่อยากกวน” ไอยราวัณหยุดเท้าแล้วหันมามองลูกน้องสาว บังคับตัวเองให้ตอบด้วยท่าทางง่ายๆ สบายๆ อย่างที่ปฏิบัติต่อลูกน้องทุกคน
“ไม่ยุ่งอะไรมากหรอกค่ะ ชงกาแฟไปส่งให้ผู้กองได้อยู่แล้ว”
ไอยราวัณมองหน้าหวานที่ส่งยิ้มแข็งขันมาให้แล้วก็อยากจะหัวเราะให้กับความคิดที่เคยหลงเข้าข้างตัวเองอีกครั้ง การได้รู้ความจริงว่าเธอมีคนรักอยู่แล้วในวันนั้น มันทำให้เขามองเธอด้วยสายตาที่เป็นกลางมากขึ้น จึงได้รู้ว่าเธอไม่ได้มองเขาแตกต่างไปจากที่มองหมวดเหนือเมฆหรือมองใครคนอื่นเลย
“พูดเองนะ งั้นวันหลังฉันจะเรียกใช้เธอ แล้วอย่ามาบอกว่าไม่ว่างแล้วกัน” ผู้กองหนุ่มเอ่ยพร้อมรอยยิ้มฝืดๆ
“ผู้กองอย่าแกล้งเรียกตอนที่เพิ่งโยนงานมาให้ก็พอค่ะ” ละมุนพรรณส่งค้อนแง่งอนใส่อีกฝ่ายอย่างเผลอตัวแล้วก็ก้มหน้าก้มตาทำงานของเธอต่อไป โดยไม่ได้รู้ตัวเลยว่า ท่าทางทำปากยื่นแก้มป่องกับสายตาวิบวับของตัวเองนั้นได้จู่โจมเข้าไปในใจของผู้ชายคนหนึ่งเข้าเต็มเปา หลังจากที่เขาเคยถูกโจมตีไปแล้วไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา และนับวัน... ไอยราวัณก็ยิ่งไม่มั่นใจเลยว่าจิตสำนึกของเขาจะถูกเธอน็อคกลางอากาศเมื่อไหร่
เดี๋ยวก็เปิดศึกชิงนางงามกับไอ้ ไหมพรม’ นั่นเสียหรอก

ไอยราวัณรีบออกจากกรมคดีพิเศษในทันทีที่ได้เวลาเลิกงาน ซึ่งไม่ใช่นิสัยของผู้กองหนุ่มเลยแม้แต่น้อย วันนี้เขามีนัดต้องไปรับสองแฝดที่โรงเรียน รถมอเตอร์ไซค์คู่ใจของเขาจึงถูกจอดทิ้งไว้ในโรงรถ เปลี่ยนเป็นรถครอบครัวคันโตเพื่อความปลอดภัยของสองหนุ่มน้อยแทน
ในขณะที่ไอยราวัณกำลังจะก้าวเข้าไปในรถ ภาพจากกระจกมองข้างก็สะท้อนให้เขาเห็นชายคนหนึ่งกำลังถ่ายภาพอะไรสักอย่างในลานจอดรถแห่งนี้ และดูจากองศาของกล้องแล้ว เป้าหมายนั้นคงเป็นใครอื่นนอกจากเขาได้ยาก ผู้กองหนุ่มหมุนตัวกลับอย่างไม่ให้อีกฝ่ายได้ตั้งตัว จึงทันได้เห็นเขาสะดุ้งตกใจเล็กน้อย ก่อนจะตีหน้าไม่รู้ไม่ชี้เบี่ยงหน้ากล้องไปทางอื่นอย่างแนบเนียน
แต่เพราะวันนี้ต้องไปรับเด็กๆ ไอยราวัณจึงตัดสินใจทำเฉยไม่เสี่ยงกระโตกกระตากให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขารู้ตัว ผู้กองหนุ่มก้าวเท้าต่อช้าๆ ทำเหมือนไปหยิบของที่ท้ายรถ ฉวยจังหวะที่เขาแสร้งก้มหาของ เหลือบมองข้ามไหล่ไปจดจำทะเบียนรถของชายคนนั้นเอาไว้ขึ้นใจ... จับไม่ได้ในวันนี้ก็ใช่ว่าวันหลังจะไม่มีโอกาส

“ทะเบียนรถใครหรือฮะผู้กอง” หมวดเหนือเมฆสอบถามเพิ่มเติม เมื่อไอยราวัณยื่นส่งกระดาษจดหมายเลขทะเบียนรถคันหนึ่งให้ในตอนเช้า
“ใครสักคนที่แอบไล่ตามฉันอยู่น่ะสิ”
“ผู้กองก็โดนตามเหมือนกันหรือคะ” ละมุนพรรณถามอย่างแปลกใจ เพราะตัวเธอเองก็รู้สึกเหมือนมีใครจับตามองอยู่เช่นกัน เพียงแต่ยังไม่แน่ใจนัก
“เหมือนกัน?... เธอก็ด้วยงั้นเหรอ”
“ตั้งแต่ช่วงอาทิตย์ก่อนน่ะค่ะ แต่ก็จับไม่ได้แบบจังๆ แค่รู้สึกไปอย่างนั้นเอง”
ผู้กองหนุ่มได้ยินก็หน้าเคร่ง คิดใคร่ครวญเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ถี่ถ้วนขึ้น คนที่คอยตามเธอและเขาเป็นใครกันแน่ และมันจะเกี่ยวอะไรกับคดีที่เธอคอยช่วยเขาอยู่หรือเปล่า
“งั้น... จนกว่าจะเจอตัวและรู้จุดประสงค์ของพวกมัน ต่อไปนี้ฉันจะไปรับส่งเธอเองแล้วกัน”
เพื่อไม่ให้ลูกน้องสาวเฉพาะกิจคนนี้ได้รับอันตรายเพราะงานของเขาเท่านั้นเอง ไอยราวัณพยายามให้เหตุผลอันแสนชอบธรรมกับการตัดสินใจของตัวเอง
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” ละมุนพรรณรีบส่ายหน้าหวือปฏิเสธอย่างไม่ต้องคิด ก็ตรินยาเตือนไม่ให้เธออยู่กับเขาสองต่อสองนี่นา
“ตอนนี้เราประมาทอะไรไม่ได้หรอก ทำตามที่ฉันบอกนั่นแหละ เพื่อความปลอดภัยของตัวเธอเอง”
แม้ไอยราวัณจะออกคำสั่งรวบรัด แต่ความห่วงใยในน้ำเสียงนั้นก็ทำให้หญิงสาวรู้สึกอุ่นใจอย่างประหลาด จึงยอมรับความหวังดีของเขาอย่างเต็มใจ
“ขอบคุณค่ะ”

ก่อนเวลาพักกลางวันเพียงเล็กน้อย ไอยราวัณก็ได้รับรายงานเกี่ยวกับเจ้าของทะเบียนรถจากหมวดเหนือเมฆ รถยนต์คันดังกล่าวเป็นทรัพย์สินของสำนักงานนักสืบพันตา สำนักงานนักสืบฝีมือดีแห่งหนึ่งซึ่งเคยรับงานเครือข่ายกำลังเสริมช่วยทางกรมสืบเรื่องราวต่างๆ มาแล้วหลายคดี
ไอยราวัณยกหูโทรศัพท์ติดต่อไปยังเจ้าของสำนักงานนักสืบแห่งนั้นโดยตรง เพราะคิดว่ามันจะทำให้เขาได้คำตอบที่ชัดเจนและรวดเร็วที่สุด แต่นายพงษ์พิทักษ์ก็รีบปฏิเสธว่าเขาไม่ได้รู้รายละเอียดของงานที่นักสืบในสังกัดรับมาหมดทุกเรื่อง หากก็รับปากว่าจะรีบตามตัวนักสืบคนนั้นมาสอบถามและสั่งยกเลิกงานนั้นโดยเร็วที่สุด
คำชี้แจงถึงที่มาของคำสั่งพร้อมคำขอโทษที่ไอยราวัณได้รับจากนายพงษ์พิทักษ์ในตอนใกล้จะเลิกงาน ทำให้ผู้กองหนุ่มอดไม่พอใจปรีดาสาขึ้นมาไม่ได้ ที่ดึงดันไม่ยอมเชื่อในสิ่งที่เขาบอก จนถึงกับจ้างนักสืบมาวุ่นวายกับความเป็นส่วนตัวของเขาอย่างนี้ ผู้กองหนุ่มใช้เวลาไม่นานสำหรับวางแผนโต้กลับหญิงสาวหัวดื้อครั้งใหญ่

ไอยราวัณเกลี้ยกล่อมอยู่นานกว่าที่ละมุนพรรณจะยอมจอดรถสุดรักของเธอทิ้งไว้ที่นี่ โดยที่ผู้กองจอมเจ้าเล่ห์ไม่ได้บอกหรอกว่า เขาจัดการเคลียร์เรื่องที่ถูกสะกดรอยตามไปเรียบร้อยแล้ว ผู้กองหนุ่มเดินนำหญิงสาวตรงมายังรถของเขาด้วยความเร่งรีบเล็กน้อย เพราะกลัวว่าสองแฝดพี่น้องจะงอนที่ต้องรอนานจนทำเขาเสียแผน
“อ้าว...” ละมุนพรรณร้องออกมาอย่างแปลกใจกับรถยนต์เจ็ดที่นั่งคันโตที่ผู้กองหนุ่มเปิดประตูให้เธอก้าวขึ้นไป
“ฉันนึกว่าจะได้ลองซ้อนท้ายฮาร์เลย์ของผู้กองดูสักหน่อย รู้งี้ไม่ยอมจอดเจ้าธันเดอร์ทิ้งไว้หรอก” หญิงสาวที่รักความเร็วเป็นชีวิตจิตใจบ่นอย่างผิดหวังเต็มที่
“ช่วงนี้ฉันต้องไปรับส่งสองลิงเลยเอาคันนี้มาใช้ ให้เด็กๆ ซ้อนท้ายมันไม่ปลอดภัยนักหรอก แต่ถ้าอยากลองนั่งจริงๆ ก็เอาไว้วันหลังสิ” ผู้กองหนุ่มรับปากอย่างเอาใจ
ละมุนพรรณได้ยินคำอนุญาตก็เงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มกว้าง ดวงตาเปล่งประกายวิบวับให้คนมองได้ใจกระตุกอีกระลอก “ถ้าวันไหนเราจะกลับมอไซค์ ผู้กองต้องบอกกันล่วงหน้านะคะ”
ผู้กองหนุ่มยิ้มให้คนหน้าระรื่นอย่างเอ็นดู เผลอเอื้อมมือไปเหน็บปอยผมที่หลุดลงมาระข้างแก้มให้คุณนางงามที่ดูจะซนและห้าวกว่าที่คิด แต่เพียงไม่นานก็รู้สึกตัว ชายหนุ่มจึงแสร้งฉีกยิ้มกว้างให้ดูเปิดเผยกว่าเดิม เลื่อนมือไปขยี้ผมเธอเบาๆ สองสามที ก่อนจะจับตัวหญิงสาวหมุนกลับหลังหันและรุนตัวเธอให้ก้าวเข้าไปในรถ
“รีบไปกันเถอะ เดี๋ยวเด็กๆ จะรอ”
รถคันใหญ่เคลื่อนตัวออกจากลานจอดรถช้าๆ นิ่มนวลกว่าที่ละมุนพรรณขับเองเป็นร้อยเท่า เบาะที่นั่งอยู่ก็นุ่มสบาย แต่หญิงสาวกลับกระวนกระวายนั่งแทบไม่ติด ใจที่เต้นโครมครามอยู่ในตอนนี้เป็นเหมือนสัญญาณร้องเตือนถึงความรู้สึกบางอย่างที่เธอเคยทำเพิกเฉยไม่ใส่ใจ
ไม่ใช่แค่ให้ความสำคัญแล้วไอ้ละมุนเอ๊ย แกเขินบ้าอะไร... นี่แกคิดไม่ซื่อกับผู้กองช้างแล้วใช่ไหมเนี่ย...
“เป็นอะไรหรือเปล่า” เสียงนุ่มที่เอ่ยถามทำให้ละมุนพรรณหลุดจากความคิดฟุ้งซ่าน แต่เมื่อหันไปสบสายตาเป็นห่วงเป็นใยเข้าก็ต้องรีบเมินหน้าหนีโดยไม่รู้ตัว
“แค่กังวลเรื่องที่เราโดนตามน่ะค่ะ ตอนนี้เราถูกตามอยู่หรือเปล่าคะ” หญิงสาวตัดสินใจเปลี่ยนเรื่อง
“คันสีเงินที่ตามหลังเราไปอีกสองคันนั่นไง” ไอยราวัณตอบคำถาม เมื่อได้เห็นว่าหญิงสาวไม่แสดงอาการตื่นตระหนกหรือหันหลังไปชะเง้อมองทันที หากแต่ใช้การมองผ่านทางกระจกมองหลังไปก็นึกชมแฮกเกอร์สาวจากโออีอยู่ในใจ นึกว่าจะเจาะระบบเป็นอย่างเดียวแต่ไม่รู้เรื่องภาคสนามเสียอีก
“จะเป็นอะไรไหมละมุน ถ้าเราอาจต้องกลับถึงบ้านค่ำๆ หน่อย พอดีฉันรับปากเจ้าอาร์กับเจ้าอัลไว้ว่าถ้าคะแนนสอบของพวกแกออกมาดี ฉันจะพาไปซื้อของเล่น” ไอยราวัณพาเปลี่ยนเรื่องอย่างไม่มีแวววิตกกังวลกับการถูกตาม
“ตามสบายเถอะค่ะผู้กอง ฉันเองก็คิดถึงพวกแกอยู่พอดี”
“พวกแกก็บ่นถึงพี่มูนบ่อยๆ เหมือนกัน” ไอยราวัณถือโอกาสลองเรียกเธอด้วยชื่อที่สองหนุ่มแฝดใช้ และมันก็มีผลเรียกริ้วสีชมพูขึ้นมาบนแก้มใสๆ ของหญิงสาวได้อย่างที่ชายหนุ่มยังนึกแปลกใจ
แค่เรียกละมุนก็แย่แล้ว อย่ามาตีสนิทเรียกมูนอย่างที่พ่อแม่กับไม้เรียกนะ
หญิงสาวประท้วงอยู่ในใจพร้อมเกลื่อนสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด ในขณะที่ฝ่ายผู้กองกลับจ้องมองสำรวจอาการของเธอต่อไปอย่างสนใจ ก่อนจะยิ้มที่มุมปากออกมา
“ร้อนเหรอ หน้าแดงเชียว... แต่แอร์รถก็ทำงานดีนะ หรือว่าไม่สบาย” ไอยราวัณจงใจเอื้อมมือไปแตะหน้าผากมนเพื่อพิสูจน์สมมติฐาน เมื่อเห็นหญิงสาวรีบปัดมือเขาออก หันหน้าแดงๆ มามองคล้ายจะต่อว่า จิตใจที่เคยห่อเหี่ยวของผู้กองหนุ่มก็เริ่มมีความหวังขึ้นมารำไร
เขาไม่ได้คิดไปเองเสียด้วย คุณนางงามกำลังเขิน...
“ไม่รู้ค่ะ ปวดหัว ง่วง...” หญิงสาวตัดบทเสียงห้วนอย่างหงุดหงิดทั้งตัวเองและชายหนุ่มที่เป็นสาเหตุ ก่อนจะหันหน้าออกไปอีกทาง กอดอกแน่นแล้วปิดตาหนีเสียเลย แต่เสียงหัวเราะทุ้มต่ำในลำคอเหมือนเขาจะรู้ทันก็ยิ่งทำให้เธอเม้มปากแน่นอย่างขัดใจ... ไอ้ผู้กองหน้าหม้อ!



อ่านต่อ >> 009 : เริ่มแผนรุก


หรือเป็นเจ้าของความฟินกันแบบเต็มๆ ได้เลย!
สั่งซื้อรูปเล่ม... ที่เว็บ สนพ. Coolkat หรือร้านหนังสือออนไลน์
โหลดฉบับอีบุ๊ค... ได้ตามแหล่งที่ถูกใจเลยค่ะ




No comments:

Post a Comment