21 June 2017

# แก่นฝัน # โคแก่

รักล่วงเวลา - กาลที่ 6 : พี่เลี้ยงเด็ก

รักล่วงเวลา ชุด กาลรักหนึ่ง

ผู้เขียน : แก่นฝัน

เผยแพร่ฉบับรูปเล่มทำมือ และอีบุ๊ค โดย แก่นฝัน

© สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามคัดลอกหรือดัดแปลงส่วนหนึ่งส่วนใดของนิยายเรื่องนี้
เพื่อนำออกเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต






กาลที่ 6 : พี่เลี้ยงเด็ก


           เมื่อวานนี้ เด็กหญิงพีณาได้สอนให้ฝนปรายรู้จักกับเครื่องมือมหัศจรรย์ ที่ทำให้เธอเรียนรู้คำศัพท์และประโยคสนทนาในชีวิตประจำวันได้อย่างมากมายในเวลาอันรวดเร็ว ราวกับเป็นสายน้ำไหลเป็นทางเข้ามาเก็บกักอยู่ในสมอง เพียงแค่มองบนหน้าจอกระดาษอิเล็กทรอนิกที่ปรากฏรูปภาพและอักษรขึ้นมาพร้อมๆ กับที่มีคำออกเสียงกำกับจากหูฟัง เริ่มต้นจากช้าๆ และเพิ่มความเร็วขึ้นจนเธอคิดว่าสายตาเธอจะมองตามไม่ทัน แต่ผิดคาดที่เธอจดจำมันได้ทุกสิ่งที่แล่นผ่านโดยแทบไม่ต้องใช้ความพยายาม
          ฝนปรายแทบไม่รู้ตัวว่าเวลาผ่านไปกว่าสิบนาทีที่เธอจ้องหน้าจออยู่นิ่งแต่นัยน์ตากลับกวาดไปมาเร็วริก จนกระทั่งบทเรียนจบเว้นช่วงและหน้าจอมืดสนิทลง เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นใบหน้าเปื้อนยิ้มของเด็กหญิงที่นั่งเท้าค้างมองมาอย่างจดจ่อรอคอย และส่งคำทักทายที่เธอเข้าใจได้ไม่มีตกหล่นมาให้
          เมื่อคืนเธอจึงใช้เวลายามค่ำคืนที่ไหนๆ ก็นอนไม่ค่อยหลับมาตลอดตั้งแต่หลุดมาอยู่ที่นี่ เปิดบทเรียนภาษาภาคเร่งรัดยัดทุกสิ่งเข้าหัวให้มากที่สุด ทำให้เช้านี้ถึงแม้ใบหน้าของเธอจะอิดโรยจากการอดหลับอดนอน แต่ใจเธอกลับเริงโลดเป็นที่สุดที่สามารถพูดคุยกับใครต่อใครได้เข้าใจ จนสร้างความประหลาดใจให้กับเพื่อนร่วมเรือนพักคนงานกันใหญ่ แม้ว่าเธอจะยังพูดได้ช้าและสำเนียงที่ส่งออกมายังไม่คุ้นปากนักก็ตาม
          “คิมมี่!” เสียงใสของเด็กหญิงตะโกนเรียกนำมาก่อน ตามด้วยร่างผอมบางในชุดโลลิต้าสีชมพูอ่อนจางจนเกือบขาว กระโปรงพองฟูบานพริ้วไหวไปตามจังหวะที่เด็กสาววิ่งตรงมา ผมสีบลอนด์เทาถูกรวบถักเป็นเปียคู่โตผูกริบบิ้นสีชมพูลายจุด
          “ไบร์ทมอร์นิ่งค่ะพีณา”
          คำทักทายของฝนปรายสร้างรอยยิ้มกว้างอย่างภูมิอกภูมิใจให้กับผู้เป็นครูตัวเล็ก อดไม่ได้ต้องเอ่ยปากชม
          “ว้าว! คิมมี่เป็นนักเรียนรู้ที่หัวไวมากๆ”
          “เพราะคุณครูพีณาเก่งไงคะ” หญิงสาวชมกลับ ทำให้เด็กหญิงยิ่งยิ้มกว้างกว่าเก่า ระหว่างที่มองรอยยิ้มนั้นเพลิน มือเล็กขาวสะอาดก็ยื่นส่งมาคว้ามือของนักเรียนตัวโตกว่าเอาไว้แล้วเริ่มดึงรั้งให้เดินตาม
          “จะไปไหนคะ ขิมต้องไปทำงานนะคะ” ฝนปรายรั้งชะลอฝีเท้าเอาไว้ แม้อีกฝ่ายจะเรียกเธอว่า คิมมี่แต่เธอก็ยังไม่คุ้นชินที่จะแทนชื่อตัวเองด้วยชื่อใหม่สดๆ นั้น
          “แต่อังเคิลคีนส์อนุญาตให้คิมมี่เป็นเพื่อนเล่นพีณาได้นะคะ ถือเป็นงานอันดับหนึ่งของคิมมี่” วาจาฉลาดเฉลียวบอกหน้าที่ของอีกฝ่ายให้รู้
          หญิงสาวเหลือบตามองออร่าเพื่อนคู่หูที่เดินมาจากเรือนพักด้วยกัน ลำบากใจ ไม่อยากทิ้งให้อีกฝ่ายทำงานในส่วนที่ได้รับมอบหมายเพียงลำพัง
          “เธอทำตามที่คุณหนูว่าไปนั่นแหละ เดี๋ยวฉันเรียนให้มิสยาเรียหาใครสักคนมาช่วยก็ได้” ออร่าหาทางออกให้ มองหน้าคนที่กำลังขึ้นหม้อเป็นคนโปรดของคุณหนูในเวลาอันสั้นด้วยแววตาเห็นอกเห็นใจ
          ถ้าให้เลือกระหว่างทำงานทั่วไปประจำวัน กับคอยติดตามเด็กหญิงไปทั้งวัน และหากเผลอปล่อยปละละเลยจนเกิดเรื่องผิดพลาดขึ้นก็ต้องรับโทษหนักอย่างเดซี่... เป็นเธอหรือแม่บ้านคนไหนก็ขอเลือกอย่างแรกจะดีกว่า
          “เห็นไหมคะ ตามพีณามาเถอะค่ะ พีณาจะเอาคิมมี่ไปอวดอังเคิล” เด็กหญิงบอกเสียงใสก่อนจะหัวเราะคิกคัก
          เมื่อวานเธอเพิ่งสอนให้อ่านอีเปเปอร์ด้วยฟังก์ชันพิเศษแค่ไม่กี่บทก็พูดคุยรู้เรื่องแล้ว จึงคิดจะเอานักเรียนรู้หัวไวไปอวดผลการเรียนการสอนแลกของรางวัลเสียหน่อย
          “อะไรนะคะ เดี๋ยวค่ะ!” ฝนปรายถามทั้งที่ได้ยินทุกสิ่งชัดเจน ขาที่ยาวกว่าต้องก้าวเร็วเพื่อตามร่างเล็กที่แทบวิ่งให้ทัน จะออกแรงต่อต้านมากกว่านี้ก็สามารถทำได้สบาย แต่เธอไม่อยากใช้กำลังกับเด็กหญิงที่ดูบอบบางราวตุ๊กตากระเบื้องเคลือบคนนี้เลยแม้แต่น้อย
         

          การได้เห็นแม่บ้านคนล่าสุดของวิลตัลไชลด์โดมเดินตามหลังหลานสาวเข้ามาในห้องอาหารตอนเช้า ทำให้คีนส์ละความสนใจจากรายงานข่าวสารที่กำลังอ่านอยู่ เขาสังเกตเห็นอาการอิดออดฉายชัดอยู่บนใบหน้าสีน้ำผึ้งไร้สิ่งปรุงแต่ง แต่ที่สะดุดตาจนทำให้เขาต้องขมวดคิ้วเล็กๆ ก็คือรอยคล้ำใต้ดวงตาคู่สวยคมที่โดดเด่นชัดราวคนอดนอนมาหลายคืน
          “ไบร์ทมอร์นิ่งค่ะอังเคิลคีนส์” พีณาทักทายเสียงใสอารมณ์ดี นั่งลงบนเก้าอี้ด้านซ้ายมือของผู้เป็นลุง โดยไม่ลืมหันไปกล่าวขอบคุณผู้คุ้มกันร่างสูงที่ลุกมาขยับเก้าอี้ให้ “ขอบคุณค่ะสกาย”
          ทุกคนในห้องอาหารนั้นนั่งประจำที่กันครบ โดยมีชายหนุ่มเจ้าของบ้านนั่งประจำหัวโต๊ะ ซ้ายมือคือหลานสาวตัวเล็กที่สื่อสารนัดกันมาก่อนแล้วว่าจะมาทานอาหารเช้ากับอังเคิล ส่วนด้านขวาก็เป็นผู้คุ้มกันร่างสูงใหญ่ทั้งสองคนที่แผ่รัศมีนิ่งขรึมไม่ต่างจากผู้เป็นนาย เหลือเพียงหญิงสาวที่ถูกเด็กหญิงฉุดลากมาที่ยืนมองละล้าละลัง ไม่รู้ว่าควรจะขอตัวออกจากห้องไปก่อนดีหรือไม่
          “นั่งสิ” คำอนุญาตกึ่งสั่งเรียบๆ เรียกสายตาไม่แน่ใจจากคนที่กำลังประเมินสถานการณ์อยู่ แต่เมื่อได้เห็นเขาปรายตาไปยังเก้าอี้ตัวข้างๆ เด็กหญิง ฝนปรายก็พยักหน้ารับคำสั่ง ก้าวเข้าไปนั่งลงอย่างอึดอัดเล็กน้อย
          “เพิ่มอาหารเช้าอีกที่” คีนส์เอ่ยสั่งแม่บ้านอีกคนที่ยืนอยู่ห่างไปไม่ไกลซึ่งกำลังนิ่งอึ้งมองคนที่อยู่ในชุดไม่ต่างกัน แต่กลับได้นั่งร่วมโต๊ะกับเจ้านาย
          หลังจากนั้นไม่นาน ตรงหน้าฝนปรายก็มีอาหารเช้ามาวางเพิ่ม หญิงสาวก้มมองชุดอาหารเช้าชุดใหญ่สไตล์ตะวันตกที่ค่อนมาทางอาหารเพื่อสุขภาพ ทั้งไข่ลวกฟองสวยวางอยู่บนผักเขียวและมะเขือเทศชิ้นโต รองด้านล่างสุดด้วยขนมปังปิ้งสีน้ำตาลทอง ในถ้วยเล็กๆ มีโยเกิร์ตโรยหน้าด้วยธัญพืชและผลไม้สดหลากสี เครื่องดื่มที่เสิร์ฟมามีทั้งน้ำส้ม นม และน้ำเปล่า
          อย่างนี่สิถึงเรียกว่าอาหาร... ฝนปรายรำพึงอย่างปลาบปลื้มในใจหลังจากที่ได้จัดการอาหารเช้าเข้าไปคำแรก
          ตั้งแต่มาอยู่ที่โลกอนาคต เธอก็ได้ทานแต่อาหารกึ่งสำเร็จจากซอง ที่ทีแรกก็นึกตื่นตากับการนำเจ้าอาหารแห้งออกจากซอง เรียงใส่จานและนำเข้าเตาคล้ายๆ ไมโครเวฟ เมื่อนำออกมาก็ได้อาหารหน้าตาดูดีคล้ายที่ปรากฏอยู่หน้าซอง แต่รสชาติและรสสัมผัสนั้น เธอต้องขอบอกตามตรงว่าสุนัขไม่รับประทานเอาเสียเลย
          แต่มื้อที่แย่ยิ่งกว่านั้นก็คือมื้อเช้าที่เธอได้รับอาหารเม็ดไม่ใหญ่ไปกว่าปลายนิ้วก้อยเพียงสองเม็ด ถึงมันจะให้ทั้งพลังงาน สารอาหารอย่างเพียงพอ และยังมีส่วนผสมบางอย่างที่ไม่ทำให้เธอรู้สึกหิวระหว่างวัน แต่ตัวเธอเองก็ยังรู้สึกโหยไปเองอยู่ดี
          แม้ฝนปรายจะพยายามเก็บสำรวมอาการในระหว่างที่ดื่มด่ำเสพสุขกับอาหารของเธอไปเงียบๆ แต่ความคิดและแววตาเป็นประกายแวววาวของเธอก็ไม่เล็ดรอดไปจากการรับรู้ของคนหัวโต๊ะที่เฝ้าจับสังเกตเธออยู่
          เป็นแม่บ้านหัวสูงเสียด้วย ทนกินอาหารกึ่งสำเร็จพวกนั้นไม่ได้ ภายใต้ใบหน้าเรียบนิ่ง คีนส์นึกค่อนขอดแม่บ้านคนใหม่อยู่ในใจ แต่เมื่อเขานึกถึงสภาพแวดล้อมของบลูแพลนต์ในยุคที่อีกฝ่ายจากมาแล้วก็อดถอนใจแผ่วไม่ได้
          อาจเป็นเพราะเธอเคยชินกับการได้มีอาหารสดๆ ใหม่ๆ ให้ทานอย่างไม่ต้องลำบากขวนขวาย ทรัพยากรธรรมชาติต่างๆ ยังสมบูรณ์และมีอยู่มากมายเสียจนมนุษย์ในยุคนั้นไม่เห็นคุณค่า ไม่ให้ความสำคัญ ใช้มันอย่างฟุ่มเฟือยล้างผลาญ ลืมตัวไปว่าของบางสิ่งนั้นสักวันมันต้องหมดลง อย่างเช่น น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ไหนจะแหล่งน้ำสะอาดและแผ่นดินอุดมสมบูรณ์ที่สามารถเพาะปลูกได้ที่นับวันก็เหลือน้อยยิ่งกว่าน้อย ภายหลังจึงเป็นชนวนก่อให้เกิดสงครามช่วงชิงแก่งแย่ง เกิดการพร่าผลาญทำลายล้างมนุษยชาติด้วยกันเองครั้งใหญ่
          “อังเคิลคีนส์รู้ไหมคะ คิมมี่พูดคุยกับพวกเราได้แล้วนะคะ” เสียงแจ้วๆ ของหลานสาวที่ชวนสนทนาขึ้นมาฉุดชายหนุ่มออกจากภวังค์ความคิด
          สายตาคมฉายความแปลกใจพร้อมเลิกคิ้วหนาขึ้นน้อยๆ มองหลานสาว ก่อนจะแปรเป็นเข้มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อตวัดไปมองบุคคลที่ถูกกล่าวถึง “งั้นหรือ”
          ฝนปรายนึกลังเลอยู่ชั่วครู่ ไม่รู้ว่าคำนั้นของเขาต้องการคำตอบหรือเปล่า แต่แววตาที่ยังจับจ้องเธอไม่เคลื่อนไปไหนก็ทำให้ต้องเอ่ยปากรับสั้นๆ
          “พอรู้เรื่องบ้างค่ะ”
          “ก็ดี” คำตอบรับของเขาสั้นยิ่งกว่า
          “พีณาสอนดี คิมมี่ก็เรียนรู้ดีอย่างนี้ อังเคิลคีนส์มีรางวัลให้ไหมคะ” เด็กหญิงรีบทวงตามที่คิดตั้งใจพานักเรียนรู้มาอวดแต่เช้า
          “หืม?..” ชายหนุ่มเก็บงำรอยยิ้มเอ็นดูแม่หลานสาวตัวละโมบน้อย “อังเคิลยังไม่เห็น คิมมี่ของพีณาพูดอะไรเท่าไหร่เลย”
          คงมีเพียงสามผู้ใหญ่ร่วมโต๊ะที่สัมผัสได้ถึงการล้อเลียนหยอกเย้าในน้ำเสียงของชายหนุ่ม ยามออกเสียงชื่อตามที่เด็กหญิงใช้เรียกแม่บ้านสาว เพียงแต่แววตาที่เขาใช้มองเจ้าของชื่อยังนิ่งลึกไม่เปิดเผยความรู้สึกใด
          “อังเคิลคีนส์ก็ลองชวนคิมมี่คุยบ้างสิคะ” เด็กหญิงรีบยุให้ผู้เป็นลุงทดสอบนักเรียนรู้ของเธออย่างกระตือรือร้น
          สิ้นรอยยิ้มบางๆ ที่เขาส่งให้หลานสาว คีนส์ก็มองหน้าหญิงสาวคนเดียวบนโต๊ะนิ่ง และสิ่งที่เขายกขึ้นมาเริ่มบทสนทนาก็เป็นสิ่งที่สะดุดตาชวนสงสัยตั้งแต่ได้เห็นหน้าหญิงสาวในเช้านี้
          “เมื่อคืนนอนไม่พอหรือไง”
          “คะ?” ฝนปรายหลุดคำไปอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ เขาถึงถามถึงเรื่องนี้ขึ้นมา
          “ดูเหมือนจะยังไม่เข้าใจที่ฉันพูดเลยนี่”
          ริมฝีปากอิ่มที่ซีดจางลงเล็กน้อยเพราะพักผ่อนไม่พอมาหลายคืนเม้มเข้าหากันนิดๆ รู้ตัวว่าถูกแกล้งว่าเข้าให้ จะแกล้งเงียบกลับก็ไม่อยากให้แววตาของคุณครูตัวน้อยต้องหม่นหมองผิดหวัง
          “เข้าใจค่ะ แต่ไม่คิดว่าคุณ เอ่อ... มิสเตอร์จะถามไปถึงเรื่องนั้น” ฝนปรายพูดแล้วก็ชะงัก เอ่ยแก้ในบางคำที่ยังเผลอเอาภาษาอังกฤษยุคเธอมาปะปนเพราะความคุ้นชิน

          “เห็นหน้าตาเธอเป็นอย่างนั้น ฉันเลยต้องถามดู เดี๋ยวจะถูกฟ้องร้องว่าที่โดมนี้ใช้แรงงานหนัก” เจ้าของโดมว่าเรียบเรื่อย ก่อนจะต้องรีบเก็บงำรอยยิ้มขบขันเมื่อได้รับรู้ความคิดอับจนของอีกฝ่าย
          หึ! ถึงโดนใช้แรงงาน เอาเปรียบกันจริงๆ ฉันจะไปฟ้องอะไรกับใครที่ไหนได้ รู้จักกับใครก็ไม่ จะออกจากโดมยักษ์นี่ยังไงยังไม่รู้เลย...
          “แค่เมื่อคืนเรียนรู้ภาษาใหม่หนักไปหน่อยเท่านั้นเองค่ะ”
          ฝนปรายเพียงบอกหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้รอบดวงตาเริ่มมีร่องรอยคล้ำ นัยน์ตาก็แดงช้ำไม่สดใส แต่ที่น่าแปลกใจก็คือไม่คิดว่าเขาจะสังเกตเห็น
          คีนส์พยักหน้าช้าๆ ยอมรับในคำตอบของหญิงสาว ขณะจะลุกออกจากโต๊ะก็ยื่นมือส่งไปตรงหน้าหลานสาวที่ยังรอคอยเตรียมจะประจบขอของรางวัลด้วยแววตาเปี่ยมความหวัง รับมือเล็กบางนั้นมาจูงออกจากห้องอาหารย้ายไปคุยกันต่อที่ห้องอื่นเป็นการส่วนตัว จะได้ไม่มีคนนอกมารู้เห็นมากนักว่าเวลานายใหญ่แห่งวิลตันไชลด์โอนอ่อนให้เด็กหญิงตัวน้อยนั้นเป็นอย่างไร
          เดี๋ยวจะเสียการปกครองกันหมด


          เจ้าของบ้านหน้านิ่งกับผู้คุ้มกันทั้งสองออกจากวิลตันไชลด์โดมไปทำงานแล้ว พีณาก็เดินตามหาพี่เลี้ยงคนใหม่พร้อมด้วยรอยยิ้มกว้าง รีบอวดกับหญิงสาวทันทีว่าอังเคิลคีนส์สัญญาว่าจะซื้อพรมเหาะให้เป็นของรางวัลที่ทำให้เจ้าหญิงจัสมินพูดคุยรู้เรื่อง ฝนปรายนึกภาพตามแล้วต้องนึกทึ่งอยู่ในใจ ว่าของเล่นเด็กสมัยนี้พัฒนาไปไกลล้ำโดยที่ยังผสานเรื่องราวชวนฝันเสริมจินตนาการเอาไว้ได้ หรือจะบอกว่าด้วยวิทยาการที่ไม่หยุดยั้ง ปลุกปั้นให้สิ่งที่เคยมีอยู่เพียงแค่ในจินตนาการกลายเป็นสิ่งที่จับต้องได้จริงขึ้นมาก็ว่าได้

          จากนั้นทั้งวันก็เป็นการติดตามแม่ตุ๊กตามีชีวิตที่ซุกซนมากกว่าที่คิด ตอนเช้าเด็กหญิงยังกระตือรือร้นจะเป็นคุณครูพาเธอเรียนรู้ภาษาต่อ แต่พอรู้ว่าเธอจัดการเรียนรู้ด้วยตัวเองไปไกลขนาดไหนก็ตาโต บอกว่าเธอเรียนรู้หนักเกินไปแล้วต้องหาอะไรมาเล่นคั่นเวลาบ้าง จึงเอากล่องมหาสมบัติที่ผู้เป็นลุงซื้อหามาให้ออกมารื้อค้นหาของเล่น แม้ขนาดของกล่องที่เก็บของเล่นนั้นจะไม่ได้ใหญ่โต แต่เมื่อเห็นกล่องย่อขยายจำนวนหลายสิบที่บรรจุอยู่ข้างใน ฝนปรายก็รู้ได้เลยว่าเด็กหญิงคนนี้ได้รับการตามอกตามใจจากเจ้านายหน้านิ่งเฉยดุเย็นชาคนนั้นขนาดไหน
          ฝนปรายช่วยเด็กหญิงประกอบบ้านตุ๊กตาหลังน่ารักขนาดสองชั้นสี่ห้อง ทั้งพื้น ผนังและเฟอร์นิเจอร์ของแต่ละห้องเป็นชิ้นส่วนเล็กๆ ให้เด็กหญิงได้ใช้ความสามารถในการสังเกตและค่อยๆ ประกอบมันจนเป็นรูปร่าง ความพิเศษของบ้านตุ๊กตาหลังนี้คือมีสายไฟและวงจรไฟฟ้าของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สามารถเปิดปิดได้จริง บางอย่างยังสั่งการด้วยเสียงอีกต่างหาก กว่าจะช่วยกันสร้างบ้านตุ๊กตาจนเสร็จก็หมดเวลาไปค่อนวัน
          จากนั้นพีณาก็ชักชวนให้พูดจาภาษาเจ้าหญิงพากย์เสียงตุ๊กตาอยู่สักพักก็เริ่มเบื่อ เด็กหญิงจึงลากเธอขึ้นไปบนห้องนอนตกแต่งสีชมพูขาวอ่อนหวานสไตล์วินเทจ ร่างบอบบางผละไปค้นตู้เสื้อผ้ากุกกัก ก่อนจะผลุบหายไปในห้องน้ำและปรากฏตัวอีกครั้งในชุดว่ายน้ำวันพีซสีเหลืองลายจุด
          “คิมมี่เล่นน้ำกับพีณานะคะ” เด็กหญิงชักชวนเสียงร่าเริง ถูกใจเพื่อนเล่นคนใหม่เป็นที่สุด คนตัวโตกว่ามีอารมณ์สนุกสนาน ให้ความสนใจและตื่นตาตื่นใจกับของเล่นของเธอไปด้วย ไม่มองว่ามันน่าเบื่อไร้สาระและปล่อยให้เธอนั่งเล่นอยู่ตามลำพังอย่างคนอื่นๆ ที่ผ่านมา
          “เออ... ไม่ดีหรอกค่ะ เดี๋ยวคิมมี่นั่งรอข้างสระดีกว่า” ถูกเรียกขานมาทั้งวัน ตกบ่ายเธอก็เผลอและเริ่มชินที่จะแทนตัวด้วยชื่อใหม่
          “ทำไมถึงไม่ดีล่ะคะ” คนกำลังจะถูกทิ้งให้เล่นเพียงลำพังทำหน้าหงอย
          “คิมมี่เป็นแค่แม่บ้าน ให้ลงสระเจ้านายไม่เหมาะหรอกค่ะ” หญิงสาวตอบอย่างใจเย็น เล่นสนุกด้วยกันมาตั้งแต่เช้า ฝนปรายก็จับทางได้ว่าเด็กหญิงมักมีคำถามขอเหตุผลอยู่เสมอ
          “แต่คิมมี่เป็นเพื่อนพีณา... ไม่ใช่แม่บ้านสักหน่อย”
          ฐานะ เพื่อนที่เด็กหญิงยกให้ทำเอาคนที่กำลังถูกจ้องด้วยตาโตกลมแป๋วยิ้มให้อย่างเอ็นดู พอมองเห็นชุดที่อีกฝ่ายผลัดเปลี่ยนเตรียมพร้อมลงน้ำ ก็หาเหตุขัดข้องได้อีกเหตุ
          “คิมมี่ไม่มีชุดว่ายน้ำ”
          “จริงสินะ”
          คำคล้อยตามของเด็กหญิงทำให้ฝนปรายลอบยิ้มในใจ มั่นใจว่างานนี้รอดแน่ แต่... หญิงสาวคิดผิด เมื่อเด็กหญิงหาทางแก้ไขข้อขัดข้องให้ได้รวดเร็ว
          “งั้นเดี๋ยวพีณาซื้อให้”
          “ไม่ต้องค่ะ! พีณา...”
          ฝนปรายห้ามไม่ทันจบประโยค เด็กหญิงก็เดินลิ่วไปยังโต๊ะตัวเล็กข้างเตียงนอน ดึงลิ้นชักเปิดออกเพื่อหยิบอุปกรณ์ลักษณะคล้ายโทรศัพท์มือถือรุ่นบางหน้าจอเจ็ดนิ้วขึ้นมา ร่างบอบบางกระโดดขึ้นไปนั่งห้อยขาตรงข้างเตียงที่คลุมผ้าสีชมพูลายดอกไม้สีขาวแสนหวาน นิ้วเรียวเล็กแตะๆ ปัดๆ บนหน้าจอครู่หนึ่งก็เงยขึ้นมา เอียงคอมองเธอด้วยแววตาใช้ความคิด ริมฝีปากเล็กบางสีราสเบอร์รี่อมยิ้มน้อยๆ เป็นรอยยิ้มดูซุกซนน่าหยิก
          “อย่าเสียเวลามาซื้ออะไรเลยค่ะพีณา ลงไปเล่นน้ำดีกว่า” ฝนปรายกวักมือเรียก มองไปบนหน้าจอในมือเล็กก็เห็นรูปชุดว่ายน้ำหลากหลายแบบถูกแสดงขึ้นมาให้เลือก
          “ไม่เสียเวลาหรอกค่ะ” เด็กหญิงยังคงก้มหน้าก้มตาง่วนอยู่กับหน้าจอ พักเดียวก็วางมินิคอมพ์ลงข้างตัว กระโดดลงจากเตียงไปยืนจ้องตู้เสื้อผ้าเสียอย่างนั้น
          “มีอะไรคะพีณา” เธอเดินตามมายืนข้างหลังและเอ่ยถาม แต่กลับได้สายตาหรี่เล็กมีลับลมคมนัยกลับมาแทน
          สาวจากอดีตกาลติดอยู่กับความสงสัยไม่นานเลย ไม่ถึงห้านาทีต่อมาบนฝาตู้ที่ดูเหมือนเป็นแผ่นไม้สีขาวธรรมดากลับมีตัวอักษรสีเขียวปรากฏขึ้นบนกรอบสีดำ
        “New Item Arrived!
          เด็กหญิงพีณายิ้มร่า ตรงเข้าไปดึงเปิดลิ้นชักด้านล่างที่ภายในมีเพียงกล่องย่อขยายใบเดียว แล้วหยิบมันออกมายื่นส่งให้เพื่อนเล่นคนใหม่
          ฝนปรายเอาแต่ก้มมองรูปภาพนางแบบสาวสวยในชุดว่ายน้ำทูพีซ

สีน้ำเงินสดที่แสดงบนกล่อง ทึ่งใจกับเทคโนโลยีการซื้อขายและจัดส่งของแบบรวดเร็วทันใจขาช็อปแบบขั้นสุด

           “คิมมี่รีบๆ รับไปเปลี่ยนสิคะ พีณาอยากเล่นน้ำเต็มทีแล้ว”
          ฝนปรายยังยืนนิ่ง ไม่อยากจะรับสิ่งที่อีกฝ่ายยื่นให้เลยจริงๆ แต่เมื่อได้สบสายตาออดอ้อนคาดหวังของเด็กหญิงที่อุตส่าห์ใจดีลงทุนซื้อให้แล้วก็ต้องใจอ่อนยวบ และทันทีที่มือของเธอยื่นไปรับกล่องใสใบเล็กนั้นมา รอยยิ้มกระจ่างตาบนใบหน้าเล็กน่ารักก็ทำเอาเธอแทบใจละลายทำได้แค่ส่งยิ้มตอบ
          ตอนนี้เธอคิดว่าตัวเองพอจะเข้าใจการตามใจของ อังเคิลคีนส์ของแม่หนูตุ๊กตาบาร์บี้มีชีวิตคนนี้แล้ว


          Leisure Area - Zero หรือที่มักถูกเรียกย่อสั้นๆ ว่าแอลเอซีโร่ เป็นไลฟ์โดมเพื่อการพักผ่อนขนาดใหญ่เกือบสองร้อยเอเคอร์ มีจุดขายหลักคือการจำลองบลูแพลนต์ในอดีตที่สภาพแวดล้อมยังเต็มไปด้วยธรรมชาติอันสมบูรณ์ แหล่งฟื้นฟูพลังชีวิตของมนุษย์ซึ่งมีการศึกษารองรับมากมายว่าทรงพลังที่สุด
          ภายในแอลเอซีโร่แห่งนี้ถูกแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ มากมาย ตั้งแต่โรงแรมที่พักที่กระจายอยู่ตามจุดต่างๆ ซึ่งมีให้เลือกตั้งแต่กระท่อมไม้กลางป่าไปจนถึงห้องนอนสุดหรูหราในปราสาทยุคเรเนซองส์  กิจกรรมที่เตรียมไว้รองรับวันพักผ่อนของเหล่าลูกค้ามีทั้งการฟื้นฟูร่างกายด้วยศาสตร์ธรรมชาติบำบัดโบราณ ให้รางวัลชีวิตด้วยการทานอาหารคุณภาพดีปรุงสุกใหม่ท่ามกลางสวนดอกไม้อันสวยงาม เที่ยวชมสวนสัตว์ หรือเพิ่มการผจญภัยเล็กๆ ด้วยการเดินป่าหรือล่องแพไปชมน้ำตกกลางป่าอันร่มรื่น
          ผู้มาเยือนทุกคนจะได้สัมผัสกับการดำเนินชีวิตเนิบช้า รื่นรมย์ในสุนทรียภาพ แตกต่างอย่างตรงกันข้ามกับทุกสิ่งที่อยู่ภายนอกโดม
          ภายในห้องทำงานโล่งกว้างกินบริเวณครึ่งหนึ่งของชั้นสูงสุดของอาคารอำนวยการทรงกล่องสี่เหลี่ยมสูงเพียงสามชั้น ชายหนุ่มในชุดเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินกับกางเกงสีดำนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงาน เบื้องหลังของเขาคือบานกระจกตัดรังสีขนาดใหญ่ที่มองออกไปจะเห็นทุ่งดอกหญ้าหลากสีและทะเลสาบประดิษฐ์เงียบสงบ บนผืนน้ำสะท้อนภาพของหลังคาโดมซึ่งเป็นท้องฟ้าเสมือนจริงสีฟ้าสดและปุยเมฆสีขาว
          คีนส์ละสายตาจากจอภาพที่ลอยอยู่บนโต๊ะเพื่อเอ่ยอนุญาตให้คนที่เขากำลังรอคอยอยู่เข้ามาในห้อง ผู้มาใหม่เป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่พอๆ กันกับเจ้าของห้อง เขาอยู่ในชุดสูทสีดำสนิททั้งตัว ใบหน้าคมสันครึ้มหนวดเครา ลดทอนบดบังแววตาหวานสีเทาจนมิด
          “ได้เรื่องว่าไงบ้าง” เจ้าของห้องเอ่ยถามถึงเรื่องใหญ่ที่มอบหมายให้อีกฝ่ายไปจัดการ
          “ได้ตัวพวกมือบอนแล้วครับ แต่มันเองก็ไม่รู้ว่าผู้ว่าจ้างเป็นใครกันแน่ พอจะติดตามผ่านทาง เดลต้าหาแหล่งที่มาของดีลก็ไม่ได้เรื่อง เหมือนถูกตัดตอนหายเงียบ” บายินน์... ผู้ช่วยคนสนิทที่เปรียบเสมือนมือขวาของเจ้าของห้องรายงาน
          ใบหน้าเคร่งของคีนส์ขรึมลงไปอีกระดับเมื่อไม่สามารถเอาเรื่องตัวการที่ส่งคนเข้ามาป่วนที่ Live Arena 1 หรือแอลเอวัน ไลฟ์โดมสำหรับจัดการแสดงและรวมความบันเทิงครบครันซึ่งเป็นธุรกิจแรกเริ่มบุกเบิก ก่อนที่จะขยายมาทำแอลเอซีโร่ ทั้งที่ใจของเขานั้นรู้ดีว่าเป็นผลงานของใคร แต่น่าเจ็บใจที่ไร้หลักฐาน
          ราวหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านี้มีเครื่องเล่นในแอลเอวันเกิดขัดข้องหยุดทำงานกะทันหัน เป็นเหตุให้ผู้เล่นที่อยู่บนเครื่องต้องติดค้างห้อยอยู่กลางอากาศเหนือพื้นดินนับร้อยฟุตเป็นเวลานานเกือบสิบนาที ก่อนที่เจ้าหน้าที่วิศวกรของโดมจะเร่งมือเข้าไปแก้ไขให้มันทำงานและนำผู้เล่นลงมาได้ ซึ่งเรื่องนี้กระทบกับชื่อเสียงและความเชื่อถือจากลูกค้าจนปริมาณคนที่เข้ามาเล่นเครื่องเล่นในโซน Extreme Park ลดลงอย่างเห็นได้ชัด
          แม้เขาจะสั่งปิดและย้ายเครื่องเล่นนั้นออกไปทันที ทั้งที่เหตุทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะมีคนจงใจส่งไวรัสจู่โจมอุปกรณ์ควบคุมภายใน แต่ความเชื่อมั่นในด้านความปลอดภัยก็ยังไม่สามารถถูกเรียกกลับคืนมาง่ายๆ
          คีนส์เคาะปลายนิ้วลงกับผิวโต๊ะช้าๆ ข่มอารมณ์เจ็บใจกับเรื่องที่ไม่สามารถเรียกย้อนกลับคืนมาได้ให้สลายไป ใช้ความคิดเพื่อตอบโต้กลับไม่ให้ทางนั้นได้ใจเกินไปนัก
          “อีกสองอาทิตย์ M Space จะเปิดขายคอนเสิร์ตใหญ่ของไนนาใช่ไหม”
          คนที่เงียบไปพักใหญ่เอ่ยขึ้นมาพร้อมแววตาวาวคมกริบ นึกถึงข่าวคอนเสิร์ตใหญ่ของนักร้องโอเปร่าร็อคสาวดาวรุ่งมาแรงที่จะจัดขึ้นในเดือนหน้า ซึ่งทางแมคแกรี่ยกให้เป็นงานใหญ่ประจำปีของเอ็มสเปซโดม จึงได้ประโคมการประชาสัมพันธ์เสียใหญ่โต
          “ใช่ครับ”
          “งั้นเรามาคืนกำไรให้ลูกค้าสักหน่อยก็ดี... ว่าไหม? เตรียมจัดฟรีคอนเสิร์ตที่แอลเอวันตลอดอาทิตย์หน้าดีกว่า” ชายหนุ่มตัดสินใจทุ่มทุนมหาศาลในการตอบโต้ครั้งใหญ่
          “ลำบากหน่อยนะ” คีนส์บอกน้ำเสียงราวจะเห็นใจคนรับคำสั่ง แต่แววตาที่สองหนุ่มสบประสานกันนั้นกลับมีแววเริงโรจน์ที่จะได้เอาคืนฝ่ายตรงข้ามไม่ต่างกัน
          “แล้วตัวศิลปิน?” บายินน์แกล้งเอ่ยถามทั้งที่รู้ดีในความร้ายกาจของเจ้านายหนุ่มที่อ่อนวัยกว่าเขาสามปี
          “โทรนัดไนนาให้ฉันด้วย”
          ผู้ช่วยคนสนิททิ้งรอยยิ้มรู้ทันเอาไว้ก่อนจะออกจากห้องไป เพื่อดำเนินการนัดประชุมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนงานยักษ์สายฟ้าแลบ
          คีนส์หยุดเคาะนิ้วกับโต๊ะ หมุนเก้าอี้ตัวโตหันไปมองวิวนอกหน้าต่าง ทอดสายตาลงไปมองเนินทุ่งดอกไม้และทะเลสาบเงียบสงบเพื่อเตรียมสมองให้ผ่อนคลาย พร้อมรับความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้นตามมาในอีกไม่ช้า เพราะการจัดเตรียมคอนเสิร์ตสุดยิ่งใหญ่ ที่จะไม่น้อยหน้าพวกแมคแกรี่ภายในเวลาหนึ่งสัปดาห์ไม่ใช่เรื่องสบายๆ แน่นอน แต่ในความยากนั้นก็เป็นความท้าทาย ทำให้ใจเขาเต้นระทึก อยากเห็นปฏิกิริยาของคนที่ถูกตัดหน้าจริงๆ
          ติ๊ก... เสียงเตือนพร้อมกับแสงวาบจุดเล็กๆ บนหน้าปัดของ Genius watch นาฬิกาข้อมือดีไซน์เรียบหรูที่เป็นได้มากกว่านาฬิกา ชายหนุ่มเหลือบมองก็เห็นว่าเป็นสัญญาณเตือนว่ามีข้อความจากศูนย์เดลต้า เสียงทุ้มเรียบเอ่ยคำสั่งบางอย่างสั้นๆ จีเนียสวอตช์บนข้อมือหนาก็ส่งเสียงแจ้งรายการซื้อของของหลานสาวตัวน้อย ใบหน้าเคร่งเครียดจุดรอยยิ้มขึ้นมาเล็กๆ เมื่อได้รู้ว่าหลานสาวเพิ่งสั่งซื้อชุดว่ายน้ำชุดใหม่ไป แทนที่จะเป็นของเล่น ไฟล์ดาต้านิทานหรือการ์ตูนเรื่องใหม่ แต่พอแตะหน้าจอเพื่อให้มันฉายโฮโลแกรมรูปสินค้าขึ้นมา รอยยิ้มเอ็นดูแฟชันนิสต้าตัวเล็กก็ต้องชะงัก
          ชุดว่ายน้ำทูพีซสีน้ำเงินสดสำหรับผู้ใหญ่ทำให้คิ้วเข้มบนใบหน้าคมขยับเข้าหากันเล็กๆ แต่แค่ไม่นานก็พอเดาได้ว่าหลานสาวสั่งซื้อมันให้ใคร เขาไม่คาดคิดเลยว่าพีณาจะถูกอกถูกใจคนที่เพิ่งพบถึงขนาดซื้อของให้กันอย่างที่ไม่เคยทำกับแม่บ้านคนอื่นมาก่อน
          ทว่าวูบหนึ่งของความคิดซุกซนก็ยังเผลอนึกไปถึงภาพหญิงสาวร่างเล็กบางจากต่างเวลาที่เคยอยู่ในชุดเรียบร้อยปกปิดมาตลอด กำลังอยู่ในชุดว่ายน้ำชิ้นเล็กๆ สองชิ้นนั้นไม่ได้
          “นัดเวลาไนนาได้ตอนทุ่มตรงนะครับ” บายินน์ส่งเสียงแทรกความคิดเข้ามาทางเครื่องสื่อสารภายใน
          “ขอบใจมาก”
          คีนส์ตอบกลับไปสั้นๆ หมดความสนใจในตัวหลานสาวและแม่บ้านที่ขยับขึ้นมาเป็นพี่เลี้ยงคนโปรดลงเพียงเท่านั้น วกกลับมาคิดวางแผนว่าจะหว่านล้อมนักร้องสาวคนดังยังไงให้ยอมตกลงมาเล่นเกมปาดหน้าเค้กที่อาจต้องถึงกับแตกหักกับผู้ว่าจ้างอีกคนของเธอ



อ่านต่อ >> กาลที่ 7 : โยกย้ายตำแหน่ง


หรือเป็นเจ้าของความฟินแบบเต็มๆ 
สั่งซื้อรูปเล่ม... 
www.KanFunBook.com 
หรือ inbox : http://m.me/kanfun.writer

โหลดฉบับอีบุ๊ค... 
Meb : https://goo.gl/3Wom8E 
Hytexts : https://goo.gl/s31ks7



No comments:

Post a Comment