19 June 2017

# กะเปอร์ # บันทึกท่องเที่ยว

ชาร์จพลังที่ "ระนอง" จิบกาแฟก้องวัลเลย์ แช่ออนเซนเมืองไทย พักบ้านไร่ไออรุณ [3 วัน 2 คืน] Part 2


มามาเที่ยวระนองกันต่อค่ะ 

Part 2 นี้ จะเน้นที่ "บ้านไร่ไออรุณ" จุดหมายหลักของทริปนี้ให้จุใจเลยนะคะ

นั่งรถไม้จาก ระนอง สู่ กะเปอร์ 

สายๆ เกือบสิบเอ็ดโมง...  เราก็ไปที่ตลาด เพื่อเดินทางต่อด้วย "รถไม้" สายระนอง-กะเปอร์  ระยะทาง 50 กิโล  ค่ารถคนละ 45 บาท

** มีรถออกทุก 15 นาที  ใช้เวลาเดินทาง 1-1:30 ชม. ตามแต่ความหวานเย็นของคนขับค่ะ
บนรถไม้ไม่ร้อนเลย... เพราะไม่มีกระจกกั้น  ประตูด้านหน้าก็ไม่มี  ลมโกรกเข้ามาจากรอบทิศทาง  เย็นสบายไปทั้งตัวเลยค่ะ 
ทั้งคนขับและเจ้าถิ่นที่นี่ก็สบายๆ ดีค่ะ  แค่เราคุยกันว่าเราลืมซื้อน้ำ ลุงคนขับได้ยินก็ชี้ไปข้างหน้า แล้วบอก  "นั่นไง... ร้านน้ำ ลงไปซื้อได้"

ความประทับใจจากขากลับก็มีนะคะ...  รถที่เรานั่งมามีคนอยู่แล้วสี่ห้าคน  แต่รถของอีกสายที่มาตามหลังไม่ไกลยังว่างผู้โดยสาร  แม้จะมีคนโบก  แต่คนขับยังชี้ไปด้านหลัง  เลือกที่จะปล่อยให้อีกคันได้ไป (...ลองเป็นรถเมล์กรุงเทพฯ สิคะ แทบจะปาดหน้ากันแย่งผู้โดยสาร...)

และอีกความพิเศษของการเดินทางโดยรถสาธารณะ  บนรถคันนี้เราได้พบกับ “คนร่อนแร่” อาชีพที่แทบจะเรียกได้ว่าสูญหายไปแล้ว  คุณป้ากลับจากการเอาแร่ดำหรือดีบุกไปขายพอดีค่ะ
จากการชวนคุย  ป้าจะเอาเข้ามาขายประมาณทุกๆ สิบวัน รอให้ได้แร่คุ้มค่ารถ  แต่ก็ไม่สะสมเยอะเพราะกลัวถูกขโมย  เราโชคดีนะเนี่ย จังหวะพอดีกับคุณป้า...  ก็พูดคุยกันเพลินๆ  เข้าใจมั่ง  เดามั่ง  คนข้างๆ ช่วยแปลไทยเป็นไทยมั่ง  มั่วๆ กันไปค่ะ 

ส่วนขากลับ  เราได้เจอคุณน้าพม่า  เก็บกาหยูเข้าไปขายในตลาดด้วยค่ะ "กาหยู" ก็คือมะม่วงหิมพานต์ที่เรากินกันมันๆ นั่นเอง...  เพิ่งจะเคยได้สัมผัสตัวลูกของมัน  มีกลิ่นหอมๆ หวานปนเปรี้ยวดีค่ะ  เห็นว่าเอาไปแกงส้มได้ด้วย

เวลาชั่วโมงครึ่งผ่านไป...  
และแล้วเราก็มาถึงตลาดกะเปอร์ในที่สุด
จากนี้จะให้ "พ่อ" ขับรถมอเตอร์ไซค์พ่วงจากบ้านไร่มารับ (ที่บ้านไร่ฯ เราเรียกพ่อ เรียกแม่กัน... น่ารักอบอุ่นดีเนอะ ^^)
หรือจะนั่งวินเข้าไปเลยก็ได้ค่ะ ระยะทางประมาณ 3 กิโล (5 - 10 นาที)
(ความจริงก็อยากสนับสนุนพี่วินเหมือนกันนะคะ  อัธยาศัยดี  มีใจช่วยเหลือหิ้วกระเป๋าขึ้นรถด้วย  ทั้งที่เราก็ไม่ได้หอบมาเยอะแยะอะไรเลย  เสียดายแค่ติดต่อให้พ่อมารับไว้แล้วค่ะ)

*** กล้วยทอดตรงจุดรถจอดอร่อยมากค่ะ กล้วยนุ่มนิ่ม หวานๆ ไม่ฝาดเลย กับแป้งหอมๆ กรอบๆ  ฟินเพลินๆ ...หมดถุง! จนต้องเดินข้ามถนนกลับไปซื้อเพิ่ม

- บ้านไร่ ไออรุณ -

...บ้านเล็กในป่าใหญ่ ความฝันที่เป็นจริง...

ขอเล่าสักนิดว่า  ความยากของทริปนี้อยู่ตรงที่พยายามโทรไปจองบ้านไร่  แต่ไม่เคยติดสักที  เพราะที่นี่รับจองเฉพาะทางโทรศัพท์ เพื่อจะได้บอกเล่าทำความเข้าใจในสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ว่ามีและไม่มีอะไรบ้าง  ผู้ที่มาพักจะได้มาที่นี่ด้วยความเข้าใจ และไม่ได้คาดหวังในสิ่งที่ที่นี้ไม่มีให้...

แต่สุดท้าย...  ด้วยดวงท่องเที่ยวอันเปล่งประกายก็ทำให้ได้มาจนได้ เมื่อมีคนรู้จักของคนรู้จักจองได้  และต้องการหาเพื่อนไปพอดี  โอ้เย้ๆๆ ลั่นลาๆๆ ไอ้เราไม่เรื่องมากค่ะ  ขอให้ได้ไปเที่ยว  ไปกับเพื่อนใหม่ก็ได้หมด ^0^


และแล้วก็มาถึง... "บ้านไร่ ไออรุณ"
มาถึงแล้วก็มีน้ำมะนาวอัญชันหอมๆ เย็นๆ ชื่นใจมาต้อนรับก่อนเลยค่ะ
และเวลานี้ก็บ่ายแล้ว... เราเลยสั่งมื้อกลางวันเล็กๆ  เพราะยังอิ่มกล้วยทอดกันอยู่  ตอนนี้จะสั่งมื้อเย็นไว้เลยก็ได้นะคะ  เพราะชุดซีฟู๊ดต้องสั่งล่วงหน้าค่ะ 
**อยากจะบอกว่าสั่งชุดเล็ก  แต่มาจริงๆ แล้วมันใหญ่มาก... โปรดรอชมภาพ
ข้าวผัดกุ้ง.. ใส่กุ้งมาเต็มๆ เลย  ยำก็มีกุ้งและหมึกเยอะกว่าบรรดาผักที่ปกติชอบเขี่ยทิ้งค่ะ  ส่วนมะม่วงน้ำปลาหวาน... มะม่วงสดๆ จากต้นจริงๆ  เพราะเห็นเดินไปเด็ดกันตอนนั้นเลย ^^

นั่งทานกันอยู่ก็มีผู้ชมขาจรมากันสองสามกลุ่มค่ะ  ใครไม่ได้พักก็สามารถแวะมานั่งเล่นที่ล็อบบี้  เดินเล่นแถวสวนผักด้านหน้าได้
มีน้ำผลไม้เย็นๆ  ขนม  อาหาร เอาไว้รอต้อนรับ...  อาจช้าไปหน่อย แต่ก็ถือว่าได้พักชมสวนสบายๆ ไปก่อนนะคะ

รายได้ส่วนอาหารนี้จะเป็นของ "แม่" ค่ะ ตัวคุณเบสจะดูแลด้านบ้านพัก  ดีจังเนอะ  จัดแบ่งกันเป็นระบบ  ไม่ให้แม่เหงาและได้มีความภูมิใจกับรายได้ของตัวเอง ^^

**อัพเดท : ตอนนี้มีล็อบบี้ใหม่  หลังใหญ่ 2 ชั้น  เปิดเป็นร้านกาแฟ  และขายของด้วยค่ะ 

เอาล่ะ... จัดการมื้อกลางวันเรียบร้อย  ยกเว้นมะม่วงน้ำปลาหวานที่ยังไม่หมด  เลยขอถือจานไปแทะต่อที่บ้านค่ะ

ได้เวลาเข้าไปพบกับบ้านหลังเล็กของเรากันแล้ว
เดินผ่านประตูเล็กๆ นี้ เข้าไปสู่เขตบ้านพักกันค่ะ

ที่นี่จะให้ความสำคัญกับความสงบในการมาพักบ้านไร่ฯ  เลือกปิดส่วนนี้ไว้  เพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้มาพักที่ต้องการมาเพื่อพักผ่อนจริงๆ  ถ้าไม่ได้มาพักก็อาจจะไม่ได้เห็นในส่วนนี้นะคะ... 
แม้แต่ภายในก็ยังแบ่งสัดส่วน  เว้นระยะห่างเพื่อความเป็นส่วนตัวของบ้านแต่ละหลังเอาไว้อย่างดี  
การได้พักที่นี่ เหมือนกับได้มีบ้านกลางสวนเป็นของตัวเองจริงๆ ค่ะ  มีบ้านพัก  มีศาลานั่งเล่น  มีแคมป์ไฟ  และพื้นที่สวนเขียวๆ กว้างๆ เป็นของตัวเอง...
วันนี้เราพักกันที่นี่... "บ้านพราวตะวัน" บรรยากาศบ้านเล็กในป่าใหญ่จริงๆ กรี๊ดๆๆ

บ้านพราวตะวัน @ บ้านไร่ ไออรุณ


จากประตูสีขาวเข้าสู่ส่วนที่พัก  เดินไปตามสะพานไม้ไผ่ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าด...  ฟังเสียงน้ำไหลตกจากฝายชะลอน้ำในลำธารเล็กๆ  ไม่ไกลก็จะเจอประตูรั้วบ้านสวนในฝันของเรา

ใครที่มีความฝันอยากมีบ้านหลังเล็กๆ ในสวนป่าร่มรื่น  มีลำธารไหลผ่าน... คงได้กรี๊ดลั่นในใจกันล่ะค่ะ  และแน่นอน...  แก่นฝันเองก็เป็นหนึ่งในนั้น!

ประตูรั้วเล็กๆ และมีซุ้มไม้ดอกเป็นประตูบ้าน...
ห้องรับแขกเปิดโล่ง... พร้อมต้อนรับทุกคน...
ทางขึ้นห้องนอน... 
จุดประกายหัวใจนักสำรวจผจญภัยวัยเด็กกันตั้งแต่ประตูผลักเปิดขึ้นแล้วค่ะ

ห้องนอนที่มีเพียงเตียงนอนหนานุ่มสะอาด 
(ในส่วนห้องนอนมีแอร์นะคะ ไม่ต้องถามว่าหลับสบายไหม หลักฐานคาเตียง... 3 นาทีหลับปุ๋ย...
มีบันไดปีนป่ายขึ้นห้องใต้หลังคาทั้งสองฝั่ง  
ฝั่งหนึ่งเป็นที่นอนซึ่งนอนเต็มที่ได้อีก 2 คน  กับอีกฝั่งเป็นจุดนั่งเล่น ลอบมองสวนผ่านช่องหน้าต่าง...

ที่นอนคืนนี้ของชะนีผู้ชอบปีนป่าย... น่าซุกตัวนอนเนอะ...
ตอนเป็นเด็ก  ใครๆ ก็อยากมีห้องใต้หลังคาเป็นฐานส่วนตัวทั้งนั้นล่ะ ฟินๆ ไปอีก!!

กลับลงมาสำรวจด้านล่างต่อ...
ห้องแต่งตัวและห้องน้ำสุดเก๋... ฝักบัวเป็นเรนชาวเวอร์ด้วยนะคะ
ชอบไฟมาก... ใช้ไฟประดับมาพาดๆ บนเพดาน  ให้บรรยากาศดวงดาวดีค่ะ  
กระจกเหนืออ่างบานนี้ ส่องแล้วสวยจัง!

หลังจากสำรวจบ้านพักหลังน้อยที่เต็มไปด้วยของตกแต่งน่ารักๆ  และไอเดียที่ทำให้บางอย่างที่ดูไม่มีค่า ไม่มีอะไร ให้กลายเป็นของน่ารัก  ดูดีเยอะแยะไปหมด  ก็ได้เวลานั่งๆ นอนๆ  ใครอยากงีบก็งีบ  ใครอยากพูดคุยกันก็คุย  ใครจะกินก็แทะมะม่วงน้ำปลาหวานวนไปค่ะ  
ปล่อยเวลาไหลผ่านไปพร้อมกับสายน้ำในลำธาร  
ไม่เร่ง... ไม่รีบ... ไม่ร้อน...
(เห็นว่าบ้านทุกหลังของที่นี่จะมีธารน้ำผ่านนะคะ)

ที่นี่ “ไม่มี” ทีวี  ตู้เย็น  เครื่องทำน้ำอุ่น  สัญญาณ wifi  ขาดความสะดวก  และตัวบ้านอาจดูเล็กแคบไปสำหรับหลายคน

แต่ที่นี่ “มี” ความน่ารักอบอุ่น  สงบเป็นส่วนตัว  ทางเดินร่มรื่น  สวนป่าเขียวๆ  และธารน้ำเล็กๆ
มีความจริงที่พร้อมจะเติมเต็มความฝันวัยเด็กของใครหลายๆ คน
และบอกเล่าทางอ้อมว่า... บางทีแล้วชีวิตเราอาจไม่ได้ต้องการอะไรมากมายเลย เท่านี้ก็ "พอ" แล้ว

ยามค่ำ ณ บ้านไร่ ไออรุณ

เผลอๆ ก็จะเย็นแล้วค่ะ  งั้นก็เตรียมตัวไปเดินเล่นชมสวนผัก  และรอกินมื้อเย็นกันดีกว่า  (ฮะ? กินอีกแล้ว!? ...ใช่ค่ะ นี่คือทริปกินนอนชัดๆ)

เดินไปตามทางเดินไม้ไผ่... กลับล็อบบี้กัน...
((...ที่เห็นเป็นหลังไม้ไผ่ตรงนั้นเป็นล็อบบี้หลังใหม่ค่ะ ))

พอเดินมาถึง มีกลิ่นปลาทอดขมิ้นหอมๆ ลอยมาต้อนรับเลยค่ะ
แต่ระหว่างรออาหารออก เรามาชมบรรยากาศสวนยามเย็นกันดีกว่า

ผักงามๆ เก็บกันสดๆ ...ชีวิตดี๊ดีจัง

มีความสดชื่นชุ่มฉ่ำยามเย็น...

ตะวันลับฟ้าเมื่อตอนเย็นๆ อาจเป็นเวลาที่ใจหาย... (เอ๊ะ เจ๊คิ้มมาได้ไง?)
ใจจะหายก็หายไป  กระเพาะไม่สน  เพราะอาหารพร้อมเสิร์ฟแล้ว...
มากินอาหารดีๆ เคล้าบรรยากาศยามค่ำกันค่ะ
ชุดซีฟู้ด... ที่นี่เค้าเรียกชุดเล็ก!! 

วันนี้ซีฟู้ดไม่มีหอย  ก็ไม่เป็นไรค่ะ  เราไม่กินหอยพอดี  กิๆๆ แทะปูวนไป!! หม่ำล่ะน้า... 
ปู กุ้ง หมึก สดมาก! น้ำจิ้มและน้ำพริกกะปิก็รสดีค่ะ
ปลากระบอกทอดขมิ้นก็งานดีอ่ะ  ชอบขมิ้นทอดที่โปะมาด้วยมาก
ใบเหลียงผัดไข่ออริจินัลแบบนี้สิที่ต้องการ  ใบใหญ่ๆ เขียวๆ กับไข่หอมๆ
ยำวุ้นเส้นแบบใส่กระเทียมดองก็ปลื้มมาก...

คำเตือน!! โปรดระวังในการสั่ง  เพราะจัดมาชุดใหญ่  ผักเต็มมากค่ะ
ในทริปนี้มีสองสาวไม่ค่อยชอบกินผัก  อีกคนที่เหลือเลยโดนโหลดความรับผิดชอบมากค่าาาาา

แม่ครัวของที่นี่ก็ไม่ธรรมดานะคะ ขอบอกว่าเป็นอดีตเชฟจากโรงแรมดังเกาะสมุยเลย  
มิน่า... การพรีเซ็นต์จานต่างๆ ต้องขอเรียกว่า "อลังการบนความเรียบง่าย" จริงๆ ค่ะ

กินกันใกล้จะอืด...  คุณเบสก็กลับมาจากเมืองกรุงพอดี
เห็นว่าไปบรรยายที่มหาวิทยาลัยมาค่ะ  ตอนแรกนึกว่าจะไม่ได้เจอเจ้าของแรงบันดาลใจซะแล้ว
ยิ่งได้พูดคุยก็ยิ่งชื่นชมกับแนวคิดและแนวทางที่เลือกเดิน  รวมทั้งความคิดที่จะแบ่งปัน ไม่ทิ้งสังคม ชุมชน และผู้คนที่อยู่รอบตัว

ค่ำนั้นฟ้าเปิดด้วยค่ะ  มองเห็นดวงดาวระยิบวิบวับเต็มฟ้า
เดินตามทางไม้ไผ่กลับบ้านพักด้วยใจเต็มอิ่ม กับกระเพาะที่เต็มอืด...
พร้อมจานสลัดทูน่าผักสดๆ น้ำสลัดหอมงาดีงามสุดๆ อีกจาน
พกพาเอาความคิดดีๆ ใส่กระเป๋า  
ตอกย้ำให้มั่นใจในเส้นทางที่ตัวแก่นฝันเองได้เลือกมาแล้วเช่นกัน


"ทุกวันนี้... ที่เราขวนขวายดิ้นรนกันมากมายก็เพื่อ 'ความสุข'
ทั้งที่มันจะมีพอแล้วหรือไม่  ทั้งหมดก็ขึ้นกับหัวใจของเราเอง"
จากใจ... แก่นฝัน

หลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์...


ติดตามบรรยากาศบ้านไร่ฯ ยามเช้า 
และเที่ยวเมืองระนองกันต่อ ใน Part 3 ค่ะ

No comments:

Post a Comment